มาร์เกตวอตช์/รอยเตอร์ - ราคาน้ำมันในวันอังคาร (27 มี.ค.) ขยับลงเล็กน้อย คาดสต๊อกปิโตรเลียมสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น ส่วนวอลล์สตรีทร่วงหนักจากแรงฉุดกลุ่มเทคโนโลยี ขณะที่ทองคำปิดลบจากดอลลาร์ที่แข็งค่า
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนพฤษภาคม ลดลง 30 เซ็นต์ ปิดที่ 65.25 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอนงวดส่งมอบเดือนเดียวกัน ลดลง 1 เซ็นต์ ปิดที่ 70.11 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ มีกำหนดเผยแพร่รายงานคลังปิโตรเลียมสำรองในวันพุธ (28 มี.ค.) ในขณะที่นักลงทุนคาดหมายว่าสต๊อกน้ำมันดิบในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 23 มีนาคม จะเพิ่มขึ้นราวๆ 1 ล้านบาร์เรล
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ ในวันอังคาร (27 มี.ค.) ปิดลบแรง จากแรงเทขายในกลุ่มเทคโนโลยี ท่ามกลางความกังวลว่ารัฐบาลจะคุมเข้มกฎระเบียบมากขึ้น
ดาวโจนส์ ลดลง 344.89 จุด (1.43 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 23,857.71 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 45.93 จุด (1.73 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,612.62 จุด แนสแดค ลดลง 211.74 จุด (2.93 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 7,008.81 จุด
กลุ่มเทคโนโลยีซึ่งเป็นหนึ่งในภาคที่มีผลงานดีที่สุดในรอบปี 2018 เมื่อเร็วๆ นี้ตกอยู่ภายใต้แรงกดดันอย่างหนัก จากความกังวลว่ารัฐบาลอาจเพิ่มความเข้มงวดด้านกฎระเบียบในภาคดังกล่าว อันมีต้นตอจากการเติบโตอย่างแข็งแกร่งและข้อสงสัยเกี่ยวกับสิทธิความเป็นส่วนตัวที่ล้อมรอบเฟซบุ๊ก
หุ้นของเฟซบุ๊ก ขยับลงอีก 4.9 เปอร์เซ็นต์ในวันอังคาร (27 มี.ค.) ปิดที่ 152.22 ดอลลาร์ต่อหุ้น รวมทั้งเดือนทรุดลงเกือบ 15 เปอร์เซ็นต์ ท่ามกลางรายงานข่าวที่ว่า มาร์ก ซักเกอร์เบิร์ก ซีอีโอของบริษัทฯ จะเข้าให้การต่อสภาคองเกรส กรณีการรั่วไหลของข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้บริการเฟซบุ๊กจำนวน 50 ล้านคน หลังจากที่เขาได้รับหนังสือเชิญจากสมาชิกรัฐสภาไม่ต่ำกว่า 3 คน
ส่วนราคาทองคำในวันอังคาร (27 มี.ค.) ปิดลบเป็นครั้งแรกในรอบ 5 วัน หลังดอลลาร์แข็งค่าขึ้น โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ ลดลง 13 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,342.00 ดอลลาร์ต่อออนซ์