เอเอฟพี - หน่วยงานคุ้มครองผู้บริโภคสหรัฐฯ ในวันจันทร์ (26 มี.ค.) เผยว่าได้เปิดสืบสวนเฟซบุ๊ก ในความเป็นไปได้ที่สื่อสังคมออนไลน์ระดับโลกแห่งนี้อาจล้มเหลวในการทำตามคำสัญญาเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวและอาจละเมิดข้อกำหนดด้านความยินยอม
คณะกรรมการการค้าแห่งสหรัฐฯ (FTC) ยืนยันรายงานข่าวเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งระบุว่าพวกเขาได้เปิดการสืบสวน กรณีข้อมูลส่วนตัวผู้ใช้เฟซบุ๊กถึง 50 ล้านบัญชี ถูก เคมบริดจ์ อนาลิติกา บริษัทที่ปรึกษาทางการเมืองในลอนดอน ล้วงข้อมูล นำไปช่วย โดนัลด์ ทรัมป์ หาเสียงศึกชิงประธานาธิบดีสหรัฐฯ 2016
ในขณะที่ FTC ปฏิเสธแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับรายละเอียดการสืบสวนเฟซบุ๊ก แต่พวกเขายืนยันว่ามีการสืบสวนที่ไม่ได้เปิดเผยต่อสาธารณะจริง “FTC มีภาระหน้าที่ใช้เครื่องไม้เครื่องมือทุกอย่างที่มีอยู่ปกป้องความเป็นส่วนตัวของผู้บริโภค” ทอม พาห์ล รักษาการหัวหน้าฝ่ายคุ้มครองผู้บริโภคกล่าว
“ส่วนสำคัญที่สุดของเครื่องไม้เครื่องมือเหล่านั้นก็คือดำเนินการบังคับใช้กฎหมายกับบริษัททั้งหลายที่ไม่เคารพคำสัญญาความเป็นส่วนตัว ในนั้นรวมถึงไม่ปฏิบัติตามข้อตกลงการคุ้มครองความเป็นส่วนตัวสหรัฐฯ-อียู (the US-EU privacy accord) หรือมีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำที่ไม่ยุติธรรมซึ่งก่อความเสียหายอย่างเป็นรูปธรรมแก่ผู้บริโภค อันเป็นการละเมิด Federal Trade Commission Act”
พาห์ลระบุว่า บริษัทใดก็ตามที่เคยตกลงกับ FTC “ต้องปฏิบัติตามคำสั่งของ FTC ก่อนหน้านี้ ที่กำหนดเงื่อนไขเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยของข้อมูล”
เฟซบุ๊ก ลงนามในข้อตกลงยินยอมฉบับหนึ่งกับ FTC เมื่อปี 2011 ที่กำหนดให้เครือข่ายสังคมออนไลน์ยักษ์ใหญ่ของโลกแห่งนี้ต้องส่งข้อความถึงผู้ใช้งาน ในกรณีที่ต้องการเผยแพร่ข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของบัญชีให้กับบุคคลที่สาม และแน่นอนว่าการส่งต่อข้อมูลจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อได้รับการยินยอมจากเจ้าของบัญชีเท่านั้น
คำแถลงของหน่วยงานคุ้มครองผู้บริโภคสหรัฐฯ ฉุดหุ้นของเฟซบุ๊กร่วงลงทันทีมากกว่า 5 เปอร์เซ็นต์ในวันจันทร์ (26 มี.ค.) หลังจากดิ่งลงราว 14 เปอร์เซ็นต์เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
เครือข่ายสื่อสังคมออนไลน์รายใหญ่ที่สุดของโลกแห่งนี้ยังเผชิญเสียงเรียกร้องจากทั้งสองฟากฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติก สำหรับขอคำอธิบายเพิ่มเติมว่าข้อมูลของผู้ใช้รั่วไหลได้อย่างไร ในขณะที่คำขอโทษของ มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก ซีอีโอเฟซบุ๊ก ไม่อาจดับความขุ่นเคืองของสาธารณชนได้
