รอยเตอร์ - สายการบินยูไนเต็ดแอร์ไลน์ส ออกมาประกาศรับผิดชอบเมื่อวันอังคาร (13 มี.ค.) หลังพนักงานต้อนรับคนหนึ่งบังคับให้ผู้โดยสารนำลูกสุนัขไปใส่ไว้ในช่องเก็บสัมภาระเหนือศีรษะจนกระทั่งมันตาย นับเป็นกรณีล่าสุดที่มีสัตว์ตายขณะอยู่ในความดูแลของสายการบินแห่งนี้
เหตุสลดดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันจันทร์ (12) บนเที่ยวบิน 1284 ซึ่งเดินทางจากเมืองฮิวสตันไปยังนครนิวยอร์ก โดยผู้โดยสารหญิงคนหนึ่งซึ่งเดินทางพร้อมกับเด็กและสุนัขพันธุ์เฟรนช์บูลด็อกสีดำถูกพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินกดดันให้เอากระเป๋าใส่สุนัขไปเก็บไว้บนช่องเก็บสัมภาระเหนือศีรษะ ตลอดระยะเวลาบิน 3 ชั่วโมงครึ่ง
แม็กกี เกรมมินเจอร์ ผู้โดยสารซึ่งเดินทางไฟลต์เดียวกันเล่าว่า หญิงคนดังกล่าวขอวางกระเป๋าใส่สุนัขไว้ใต้ที่นั่งแทน แต่พนักงานต้อนรับยืนกรานให้เอาไปเก็บในช่องเหนือศีรษะเท่านั้น
“หลังจากเครื่องบินลงจอด ผู้หญิงคนนั้นพบว่าสุนัขของเธอตาย เธอถึงกับทรุดลงไปนั่งตรงทางเดินแล้วก็ปล่อยโฮ ผู้โดยสารคนอื่นๆ ก็พลอยอึ้งกันไปหมด” กริมมินเจอร์ เขียนเล่าผ่านทวิตเตอร์และใส่รูปผู้โดยสารหญิงกับลูกๆ ของเธอ
ยูไนเต็ดแอร์ไลน์สยอมรับว่า เหตุการณ์นี้ถือเป็น “อุบัติเหตุที่น่าเศร้าและไม่ควรเกิดขึ้น เพราะสัตว์เลี้ยงไม่ควรถูกนำไปใส่ไว้ในช่องเก็บสัมภาระเหนือศีรษะ”
แม็กกี ชเมริน โฆษกหญิงของสายการบิน ยืนยันว่ากำลังมีการสอบสวนเรื่องนี้ และครอบครัวผู้โดยสารได้รับเงินค่าตั๋วคืนทั้งหมด พร้อมกับค่าธรรมเนียมนำสัตว์ขึ้นเครื่องอีก 125 ดอลลาร์สหรัฐด้วย
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ยูไนเต็ดแอร์ไลน์สตกเป็นข่าวอื้อฉาวเรื่องวิธีการดูแลสัตว์บนเครื่องบิน โดยเมื่อปีที่แล้วก็มีเจ้าของกระต่ายยักษ์ตัวหนึ่งฟ้องร้องเอาผิดกับสายการบินแห่งนี้ โทษฐานทำให้สัตว์เลี้ยงของเขาตาย
ข้อมูลจากกรมการขนส่งสหรัฐฯ (DOT) ยังพบว่า ยูไนเต็ดแอร์ไลน์สเป็นสายการบินที่มีสัตว์ตายบนเครื่องมากที่สุดในบรรดาสายการบินของสหรัฐอเมริกาในปี 2017 ในจำนวนนี้แบ่งออกเป็นสัตว์ตาย 18 ตัว และบาดเจ็บระหว่างขนส่งอีก 13 ตัว ขณะที่อีก 16 สายการบินในรายงานของ DOT มีสัตว์ตายรวมกันเพียงแค่ 6 ตัวเท่านั้น
I want to help this woman and her daughter. They lost their dog because of an @united flight attendant. My heart is broken. pic.twitter.com/mjXYAhxsAq
— MaggieGremminger (@MaggieGrem) March 13, 2018
