เอเจนซีส์ - ล่าสุดวันจันทร์(5 มี.ค) ประเทศเพื่อนบ้านแอฟริกาใต้ 4 ชาติ โมซัมบิก แซมเบีย มาลาวี บอตสวานา ประกาศห้ามนำเข้าอาหารเนื้อสัตว์ รวมไปถึงผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์แปรรูปจากพริทอเรีย หลังองค์การอนามัยโลก WHO แถลงด่วนโรคลิสเตอร์เรียระบาดคร่าชีวิตในแอฟริกาใต้ไปแล้ว 180 ราย มีผู้ป่วยติดเชื่อ 948 ราย ร้ายแรงมากที่สุดเท่าที่เคยพบมา
DW สื่อเยรมันรายงานเมื่อวานนี้(5 มี.ค)ว่า เมื่อวันจันทร์(5) ประเทศเพื่อนบ้านแอฟริกาใต้ 4 ประเทศออกมาตรการประกาศห้ามการนำเข้าเนื้อสัตว์จากแอฟริกาใต้ เกิดขึ้นหลังองค์การอนามัยโลก WHO แถลงเกิดวิกฤตครั้งร้ายแรงในแอฟริกาใต้ โรคติดเชื้อแบคทีเรียลิสเตอร์เรีย (Listeria ) ระบาดครั้งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา โดยมีต้นตอมาจากผลิตภัณฑ์อาหารเนื้อสัตว์แปรรูปของบริษัทไทเกอร์ แบรนด์(Tiger Brands,) ยักษ์ใหญ่ด้านผู้ผลิตไส้กรอกและโบโลน่าท้องถิ่น “โพโลน๊” ( polony )
ทั้งนี้บรรดาร้านค้าต่างๆได้ยกสินค้าบริษัทนี้ออกไปจากชั้นวางขายทันที
ในขณะที่รัฐมนตรีแอฟริกาใต้ อารอน มอตโซอาลีดี(Aaron Motsoaledi ) ออกคำแนะนำให้กับพลเมือง หยุดการรับประทานอาหารเนื้อสัตว์แปรรูป ซึ่งเป็นอาหารพร้อมรับประทาน ในช่วงนี้ พร้อมกับชี้ว่า ต้นตอของการระบาดครั้งร้ายแรงเกิดมาจากโรงงานเอนเตอร์ไพรซ์ ฟู๊ด(Enterprise Food ) ของไทเกอร์ แบรนด์ ซึ่งตั้งห่างออกไปทางตะวันออกเฉียงเหนือของกรุงพริทอเรียราว 300 ก.ม
และในเวลาเดียวกัน กระทรวงเกษตรโมซัมบิกกล่าวผ่านแถลงการณ์ว่า ทางกระทรวงได้ออกคำสั่งห้ามการนำเข้าทันทีต่อผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์แช่แข็งของแอฟริกาใต้ เป็นมาตรการที่ทางกระทรวงออกมาเพื่อป้องกันการระบาดของโรคลิสเตอร์เรียในโมซัมบิก
นอกจากนี้ แซมเบีย อีกหนึ่งประเทศที่ออกคำสั่งแบน เรียกร้องให้ซุปเปอร์มาร์เก็ตที่มีหลายสาขาของแอฟริกาใต้ ยกเลิกการจำหน่ายสินค้าที่ถูกผลิตจากโรงงานเอนเตอร์ไพรซ์ ฟู๊ด เจ้าปัญหา สื่อแอฟริกานิวส์รายงานเพิ่มเติมว่า นอกจากอาหารประเภทเนื้อสัตว์แล้ว ทางแซมเบียยังประกาศห้ามนำเข้าผลิตภัณฑ์นม ผัก และผลไม้จากพริทอเรียเช่นกัน
ด้านคณะกรรมการว่าด้วยแข่งขันและการค้าเป็นธรรมมาลาวี พบว่า ได้ออกคำสั่งให้ซัพลายเออร์เจ้าใหญ่ และร้านค้าจำหน่าย นำผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์ที่นำเข้ามาจากแอฟริกาใต้ออกจากชั้นวางขายให้หมด
ซึ่งนับตั้งแต่มกราคมที่ผ่านมา มีผู้เสียชีวิตด้วยโรคนี้ไปแล้ว 180 คน จากตัวเลขผู้ป่วยล้มป่วยจากการติดเชื้อทั้งหมด 948 ราย
โดยเชื้อแบคทีเรียตัวนี้อยู่ได้ทั้งในดิน น้ำ แปลงผัก และมูลสัตว์ มักพบปนเปื้อนไปกับอาหารสด โดยเฉพาะอาหารประเภทเนื้อสัตว์
DW รายงานว่า บริเวณด้านนอกร้านค้าของบริษัทเอนเตอร์ไพรซ์ ฟู๊ดในแอฟริกาใต้ มีประชาชนผู้บริโภคและตัวแทนร้านค้ายืนต่อแถวเพื่อเรียกร้องเงินคืนจากทางโรงงานที่เป็นต้นตอการระบาด ซึ่งนอกจากผลิตภัณฑ์โพโลนีแล้ว ยังรวมไปถึง แฮม และไส้กรอกแฟรงเฟิร์ต
หนึ่งในผู้บริโภค บอนกานี มาวูโซ(Bongani Mavuso ) คนขับแท็กซี่แอฟริกาใต้กล่าวอย่างหัวเสียว่า “ผมกินไปแล้วทั้งโพโลนีและไส้กรอกรัสเซีย” และกล่าวต่อว่า “ผมไม่รู้ บางทีตอนนี้ผมอาจกำลังติดเชื้ออยู่”
มาวูโซกล่าวให้สัมภาษณ์ระหว่างยืนรอต่อคิวบริเวณด้านนอกร้านเอนเตอร์ไพรซ์ ฟู๊ดในเจอร์มิสตัน(Germiston) เมืองโจฮันเนสเบิร์ก และเขากล่าวว่า “ผมมาเพื่อทวงเอาเงินของผมคืน”
ด้านลอเรนซ์ แม็คดูกัล(Lawrence MacDougall) ประธานบริหารบริษัทไทเกอร์ แบรนด์ เจ้าของโรงงานเอนเตอร์ไพรซ์ ฟู๊ด ออกมาปฎิเสธความรับผิดชอบโดยสิ้นเชิง ที่ว่าผลิตภัณฑ์ของเขานั้นเป็นต้นเหตุการเสียชีวิตจำนวนมาก โดยประกาศว่า
"ไม่มีความเชื่อมโยงโดยตรงในเหตุเสียชีวิตและผลิตภัณฑ์บริษัทของเรา" แม็คดูกัลกล่าวผ่านการแถลงข่าว
แต่อย่างไรก็ตาม ทางแม็คดูกัลยอมรับว่า รัฐบาลแอฟริกาใต้ชี้ว่า มีการตรวจพบแบคทีเรียลิสเตอร์เรียสายพันธุ ์ST6 ภายในโรงงานอินเตอร์ไพรซ์ ฟู๊ด ที่มาพร้อมกับการระบาดซึ่งคร่าชีวิตไป 180 ราย
“ทางเรานั้นทั้งรอบคอบและระแวดระวังเป็นพิเศษ และทางเราได้เรียกคืนสินค้าทั้งหมดที่ถูกผลิตภายในโรงงาน 2 แห่งกลับคืน” ซีอีโอใหญ่เจ้าของโรงงานแถลง และยังอ้างว่า ทางพริทอเรียเพียงแต่ออกคำสั่งโรงงานให้เรียกคืนผลิตภัณฑ์ 3 ชนิดกลับคืนเท่านั้น
“การเสียชีวิตเกิดขึ้นถือเป็นสิ่งน่าเศร้า มันเป็นความปวดร้าวของผมที่ผลิตภัณฑ์ของบริษัทเชื่อมโยงกับการระบาด” แม็คดูกัลกล่าว
สื่อเยอรมันรายงานว่า ผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์แปรรูปของแม็คดูกัลคิดเป็นสัดส่วน 28.2% ของผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์แปรรูปทั้งหมดของแอฟริกาใต้ในปี 2017
แอฟริกานิวส์รายงานเพิ่มเติมว่า ตลาดผลิตภัณ์เนื้อสัตว์แปรรูปแอฟริกาใต้โตขึ้น 7% ในปีที่ผ่านมา ซึ่งมีมูลค่าทางการตลาด 412 ล้านดอลลาร์
อ้างอิงจากหน่วยงาน ยูโรมอนิเตอร์ อินเตอร์เนชีนแนล(Euromonitor International ) พบว่า ไทเกอร์ แบรนด์ มีส่วนแบ่งการตลาดเป็นอันดับ 1 ที่ 35.7% เอสคอร์ต เบคอน โค-โอเปอร์เรตีฟ(Eskort Bacon Co-Operative) 21.8% ส่วนบริษัทเล็กๆที่เหลืออีก 3 บริษัทมีสัดส่วนแบ่งการตลาดน้อยมากไม่ถึง 5%
นอกจากนี้พบว่า ซุปเปอร์มาร์เก็ตแบบหลายสาขาเจ้าใหญ่ในแอฟริกาใต้ 2 เจ้าคือซูปเปอร์มาร์เก็ต “ช้อปไรต์” (Shoprite) และซุปเปอร์มาร์เก็ต "เลือกและจ่าย" ( Pick n Pay ) ประกาศนำผลิตภัณฑ์ของเรนโบว์ ชิกเก้นส์ (Rainbow Chickens) ออกจากชั้นวางขาย หลังได้รับการยืนยันจากรัฐมนตรีกระทรวงสาธารณะสุขแอฟริกาใต้ว่า ตัวอย่างที่ถูกเก็บจากโรงงานผลิต มีการพบเชื้อแบคทีเรียลิสเตอร์เรียปนเปื้อน
ผู้ได้รับผลกระทบมากที่สุดจากการระบาดของโรคติดเชื้อลิสเตอร์เรียคือบรรดาเด็กๆ DWชี้และกล่าวว่า อีกทั้งยังเป็นการยากที่จะตรวจพบเนื่องจากระยะการฟักตัวของโรคนานร่วม 3 สัปดาห์ ซึ่งการติดเชื้อในคนในรายที่มีภูมิคุ้มกันอ่อนแอ ผู้ป่วยจะมีอาการคล้ายกับเป็นไข้หวัด ร่วมกับการติดเชื้อในกระแสเลือด และในกรณีที่ป่วยหนัก อาจมีการติดเชื้อสมองเกิดขึ้น และทำให้เสียชีวิตในเวลาต่อมา
