ตำรวจสหรัฐฯ รวบหญิงมะกันขับรถตู้พุ่งชนแบร์ริเออร์ “ทำเนียบขาว”

รอยเตอร์ - หญิงชาวอเมริกันจากรัฐเทนเนสซีถูกตำรวจควบคุมตัว หลังก่อเหตุจงใจขับรถตู้สีขาวพุ่งชนแบร์ริเออร์กั้นรถยนต์บริเวณประตูทางเข้าทำเนียบขาวเมื่อวานนี้ (23 ก.พ.)

ตำรวจลับสหรัฐฯ (ซีเคร็ตเซอร์วิส) ยืนยันว่าไม่มีการยิงปืน และไม่มีเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายได้รับบาดเจ็บ แต่หญิงวัย 35 ปีจากเมืองลาแวร์ญ รัฐเทนเนสซี รายนี้เคยมาก่อกวนบริเวณทำเนียบขาวจนถูกตำรวจจับกุมมาแล้วหลายครั้ง

“หญิงคนนี้ถูกตั้งข้อหาล่วงละเมิดทางอาญาหลายกระทง และถูกส่งตัวไปยังสำนักงานตำรวจนครบาล” ซีเคร็ตเซอร์วิสระบุ พร้อมยืนยันว่าหน่วยงานต่างๆ ในทำเนียบขาวกลับมาปฏิบัติงานได้ตามปกติแล้ว

ฟ็อกซ์นิวส์อ้างรายงานของตำรวจซึ่งระบุว่า หญิงรายนี้มีปืนในมือขณะก่อเหตุ และจะถูกตั้งข้อหาหลายกระทง รวมถึงข้อหาบุกรุก ไม่มีใบอนุญาตพกปืน ครอบครองปืนไม่มีทะเบียน ทำร้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจ โจมตีด้วยรถยนต์และอาวุธ ทำลายทรัพย์สินของรัฐบาล และหมิ่นศาล

ล่าสุด สำนักงานตำรวจนครบาลวอชิงตันยังไม่ได้ตอบข้อซักถามของผู้สื่อข่าวรอยเตอร์ แต่มีข้อมูลจาก คริส เบลโล พยานผู้เห็นเหตุการณ์วัย 50 ปีจากรัฐนิวยอร์ก ว่า “รถมินิแวนคันนั้นพุ่งชนแบร์ริเออร์ และคนขับพยายามเหยียบคันเร่งเพื่อขับฝ่าเข้าไปจนล้อยางไหม้ และมีควันลอยขึ้นมา”

“ประมาณ 30 วินาทีหลังจากนั้น เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 2 คนในป้อมก็ออกมาสั่งให้เขาหยุด แต่เขาไม่ฟัง” เบลโล กล่าว

ตำรวจได้สั่งปิดพื้นที่รอบๆ ทำเนียบขาวชั่วคราวหลังมีเหตุการณ์รถตู้พุ่งชนแบร์ริเออร์ ซึ่งเกิดขึ้นในขณะที่ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ กำลังพบปะหารือกับนายกรัฐมนตรี มัลคอล์ม เทิร์นบูลล์ แห่งออสเตรเลียอยู่ภายในทำเนียบขาว

ทรัมป์ ได้ทวีตข้อความหลังจากนั้นว่า “ขอบคุณบุรุษและสตรีที่ยิ่งใหญ่แห่งสหรัฐอเมริกา @SecretService ที่ทำงานกันอย่างยอดเยี่ยม”

ผู้สื่อข่าวในพื้นที่ได้ทวีตข้อความโดยอ้างข้อมูลจากผู้เห็นเหตุการณ์ว่า ตำรวจดึงตัวหญิงคนดังกล่าวออกมาจากหน้าต่างรถตู้โดยเอาปืนจี้ พร้อมโพสต์ภาพถ่ายรถมินิแวนยี่ห้อเชฟโรเล็ตซึ่งพุ่งชนแบร์ริเออร์

คลิปวิดีโอของรอยเตอร์เผยให้เห็นเจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบภายในรถมินิแวนซึ่งกระจกด้านข้างและหลังถูกทุบแตก และมีสติ๊กเกอร์รูปธงชาติอเมริกันติดอยู่ที่ท้ายรถ

ซีเอ็นเอ็นอ้างแหล่งข่าวตำรวจซึ่งระบุว่า กรณีหญิงขับรถตู้พุ่งชนแบร์ริเออร์ทำเนียบขาวไม่น่าจะใช่แผนประทุษร้ายต่อประธานาธิบดี ทรัมป์ หรือบุคคลภายในทำเนียบขาว แต่คนขับอาจมีสภาพจิตใจไม่ปกติ