เอเอฟพี/เอพี - ขบวนรถไฟโดยสารแอมแทร็ก พุ่งเข้าชนรถไฟบรรทุกสินค้าซึ่งจอดอยู่ที่บริเวณรางด้านข้างในรัฐเซาท์แคโรไลนาตอนก่อนรุ่งสางวันอาทิตย์ (4 ก.พ.) ทำให้พนักงานรถไฟ 2 คนเสียชีวิต แล้วยังมีผู้บาดเจ็บอีกกว่า 110 คน พวกเจ้าหน้าที่รับผิดชอบระบุ นับเป็นอุบัติเหตุซึ่งเกี่ยวข้องกับแอมแทร็กและมีคนตายเป็นครั้งที่ 3 แล้วในรอบระยะเวลาไม่ถึง 2 เดือน
รถไฟโดยสารสายซิลเวอร์ สตาร์ ของแอมแทร็ก ขบวน 91 ของแอมแทร็ก ซึ่งกำลังวิ่งอยู่บนเส้นทางจากนครนิวยอร์กไปยังเมืองไมอามี โดยมีพนักงานประจำรถ 8 คน และผู้โดยสาร 139 คน ได้ตกรางที่ใกล้ๆ เมืองเคย์ซี ซึ่งเป็นย่านนอกเมืองโคลัมเบีย เมืองเอกของรัฐเซาท์แคโรไลนา หลังจากพุ่งชนใส่ขบวนรถสินค้าของ ซีเอสเอ็กซ์ เมื่อเวลาประมาณตี 2.45 น. ตามเวลาท้องถิ่น (ตรงกับ 14.30 น.เวลาเมืองไทย)
แอมแทร็ก ซึ่งเป็นบริษัทให้บริการรถไฟโดยสารระดับชาติของสหรัฐฯ ระบุในคำแถลงว่า หัวรถจักรของรถไฟขบวนนี้ได้ตกรางพร้อมกับตู้โดยสารอีกจำนวนหนึ่ง
ขณะที่ เฮนรี แมคมาสเตอร์ ผู้ว่าการรัฐเซาท์แคโรไลนา บอกกับพวกผู้สื่อข่าวว่า รถไฟโดยสารขบวนนี้มีความเร็ว 59 ไมล์ (ราว 95 กิโลเมตร) ต่อชั่วโมง ในเวลาพุ่งชนรถสินค้า สำหรับผู้บาดเจ็บซึ่งมีจำนวนรวม 116 คนได้ถูกนำส่งไปรักษาตัวยังโรงพยาบาลต่างๆ ในพื้นที่ โดยที่จำนวนมากมีอาการ “บาดเจ็บเล็กน้อย” ทั้งนี้สื่อสหรัฐฯรายงานแจกแจงว่าผู้ที่ได้รับบาดเจ็บมีตั้งแต่แค่เป็นรอยฟกช้ำหรือถูกบาดเป็นแผล ไปจนถึงขั้นกระดูกหัก
แมคมาสเตอร์ระบุด้วยว่าผู้เสียชีวิตทั้ง 2 คนเป็นพนักงานแอมแทร็ก สำหรับขบวนรถไฟบรรทุกซึ่งจอดอยู่เฉยๆ นั้น น่าจะว่างเปล่าไม่มีคน ทั้งนี้รายงานในเวลาต่อมาระบุว่า ผู้ตายคนหนึ่งคือพนักงานขับรถไฟ ส่วนอีกคนหนึ่งเป็นช่างเครื่อง
“ดูเหมือนว่ารถไฟแอมแทร็กกำลังอยู่ในรางที่ไม่ถูกต้อง” ขณะที่ขบวนรถสินค้าอยู่ในรางที่ควรจะอยู่ เขากล่าว แต่ก็พูดเตือนว่ายังจำเป็นต้องรอการสอบสวนอย่างละเอียดเสียก่อนจึงจะระบุสาเหตุที่ชัดเจนแน่นอนได้
“เรายังจำเป็นต้องมีการพูดจาสนทนากันในระดับทั่วประเทศ” เกี่ยวกับความปลอดภัยของรถไฟ เขากล่าวเพิ่มเติมหลังจากตรวจเยี่ยมพวกผู้โดยสารซี่งอยู่ในที่พักชั่วคราวที่จัดตั้งขึ้นมาโดยสำนักงานกาชาดท้องถิ่นในโรงเรียนแห่งหนึ่ง
ทางด้านลินด์เซย์ วอลเทอร์ส รองเลขานุการฝ่ายหนังสือพิมพ์ของทำเนียบชาว แถลงว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งพำนักอยู่ในฟลอริดาช่วงสุดสัปดาห์นี้ ได้รับการบรรยายสรุปและได้รับรายงานเพิ่มเติมเป็นระยะ
“เราเป็นห่วงและขอสวดอ้อนวอนให้แก่ทุกๆ คนซึ่งได้รับผลกระทบกระเทือนจากเหตุการณ์คราวนี้” วอลเตอร์ส บอก
สำหรับสำนักงานคณะกรรมการความปลอดภัยทางการคมนาคมขนส่งแห่งชาติ (NTSB) ของสหรัฐฯ แจ้งว่ากำลังสอบสวนเหตุการณ์ครั้งนี้อยู่ ส่วนซีเอสเอ็กซ์กล่าวว่าบุคลากรของบริษัทกำลังอยู่ในที่เกิดเหตุเพื่อช่วยเหลือพวกเจ้าหน้าที่รักษากฎหมาย
ขณะที่สำนักงานผู้บริหารเทศมณฑลเล็กซิงตันแถลงยืนยันว่า ได้อพยพผู้โดยสารทั้งหมดออกจากขบวนรถไฟที่ประสบเหตุแล้ว
เจ้าหน้าที่หลายรายกล่าวเพิ่มเติมว่า ถึงแม้มีน้ำมันเชื้อเพลิง 5,000 แกลลอน (ราว 18,927 ลิตร) ปลิวหกออกมาภายหลังการชน แต่สามารถควบคุมการรั่วไหลได้แล้ว และไม่มีภัยอันตรายใดๆ ต่อสาธารณชน
เดอร์เรค เบคเกอร์ เจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ของแผนกบริหารเหตุฉุกเฉินรัฐเซาท์แคโรไลนา กล่าวด้วยว่า จุดที่เกิดเหตุอยู่ใกล้มากกับตลาดเพื่อเกษตรกรของทางรัฐ ตลอดจนบริเวณพื้นที่อยู่อาศัยหลายแห่ง ทว่ามาถึงขณะนี้ ทุกๆ คนปลอดภัยแล้ว
อุบัติเหตุล่าสุดคราวนี้เกิดขึ้นเพียงไม่กี่วันหลังจากเมื่อวันพุธที่แล้ว (31 ม.ค.) รถไฟแอมแทร็กเช่าเหมาทั้งขบวน ซึ่งกำลังนำสมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันจำนวนหลายสิบคน รวมทั้ง พอล ไรอัน ประธานสภาผู้แทนราษฎรด้วย ไปประชุมหารือกันแบบปลีกวิเวก ได้เกิดชนกับรถขยะคันหนึ่งในรัฐเวอร์จิเนีย ทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 คน และมีผู้ได้รับบาดเจ็บต้องเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลอีก 6 คน ซึ่งคนหนึ่งเป็น ส.ส.
ก่อนหน้านั้นในเดือนธันวาคมปีที่แล้ว มีผู้เสียชีวิต 3 คนเมื่อรถไฟโดยสารแอมแทร็กขบวนหนึ่งตกรางในรัฐวอชิงตัน บริเวณใกล้ๆ เมืองทาโคมา โดยที่ตู้โดยสารหลายตู้กระเด็นออกจากสะพานรถไฟ และตกลงสู่ทางหลวงระหว่างรัฐซึ่งมีรถสัญจรหนาแน่น
ข้อมูลเบื้องต้นที่ได้จากเครื่องบันทึกเหตุการณ์ซึ่งติดตั้งบริเวณด้านหลังของหัวรถจักร แสดงให้เห็นว่ารถไฟขบวนนี้ซึ่งกำลังวิ่งอยู่บนเส้นทางใหม่เป็นครั้งแรกนั้น กำลังทำความเร็วในระดับ 80 ไมล์ (128 กิโลเมตร) ต่อชั่วโมง ในพื้นที่ซึ่งควรทำความเร็วแค่ 30 ไมล์ต่อชั่วโมง
ภายหลังเหตุรถไฟชนกันคราวล่าสุดนี้แล้ว ส.ว.ริชาร์ด บลูเมนธอล จากรัฐเคนเนตทิคัต สังกัดพรรคเดโมแครต แถลงว่าจำเป็นที่จะต้องทำให้การคมนาคมขนส่งทางรถไฟของประเทศมีความปลอดภัยเพิ่มมากขึ้น และการปล่อยปละให้ทำอะไรอย่างที่เคยเป็นมาจะต้องยุติลงเสียที เขากล่าวด้วยว่าเทคโนโลยีซึ่งได้รับการยืนยันพิสูจน์แล้ว เป็นต้นว่า ระบบควบคุม positive train control จะต้องนำมาบังคับใช้โดยไม่เลื่อนช้าต่อไปอีก
ทั้งนี้ระบบ positive train control สามารถที่จะควบคุมรถไฟที่กำลังวิ่งด้วยความเร็ว ให้ชะลอหรือหยุดลงได้ พวกหน่วยงานกำกับตรวจสอบได้พยายามผลักดันมาเป็นปีๆ แล้วเพื่อให้มีการติดตั้งอุปกรณ์เช่นนี้ โดยที่ทางรถไฟในสหรัฐฯบางสายก็มีการติดตั้งแล้ว ทว่ากำหนดเส้นตายให้บังคับใช้อย่างทั่วถึงนั้นได้ถูกเลื่อนซ้ำแล้วซ้ำอีกตามการขอร้องของอุตสาหกรรมรถไฟ