เอเอฟพี - รัฐบาลเกาหลีใต้ประกาศมาตรการคว่ำบาตรฝ่ายเดียวต่อเกาหลีเหนือเพิ่มเติมในวันนี้ (6 พ.ย.) ก่อนที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ จะเดินทางถึงกรุงโซลในการทัวร์เอเชียหนแรกเพื่อดึงนานาชาติร่วมกำราบโสมแดง
ถ้อยแถลงซึ่งเผยแพร่ผ่านเว็บไซต์รัฐบาลเกาหลีใต้ ระบุว่า นายธนาคารชาวเกาหลีเหนือ 18 คนที่อาศัยอยู่ในจีน รัสเซีย ลิเบีย และต้องสงสัยว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับโครงการพัฒนาอาวุธทำลายล้างสูง ถูกขึ้นบัญชีดำเป็นที่เรียบร้อย
“บุคคลเหล่านี้เป็นผู้แทนธนาคารเกาหลีเหนือในต่างประเทศ และช่วยจัดส่งเงินรายได้ที่จำเป็นต่อการพัฒนาอาวุธทำลายล้างสูง” กระทรวงการต่างประเทศเกาหลีใต้ ระบุในคำแถลง
สหรัฐฯ ได้ขึ้นบัญชีดำชาวเกาหลีเหนือทั้ง 18 คนไปแล้วก่อนหน้านี้ ส่วนบทลงโทษของรัฐบาลเกาหลีใต้นั้นมีขึ้นเพียง 1 วันก่อนการมาเยือนของ ทรัมป์ ซึ่งเคยวิจารณ์ประธานาธิบดี มุน แจอิน ว่า “เอาอกเอาใจ” เกาหลีเหนือมากเกินไป
พลเมืองและบริษัทของเกาหลีใต้จะถูกห้ามมิให้ทำธุรกรรมการเงินกับบุคคลที่ถูกขึ้นบัญชีดำ และแม้จะมีผลในเชิงสัญลักษณ์เสียส่วนใหญ่ เนื่องจากเกาหลีเหนือและใต้แทบไม่มีความร่วมมือใดๆ ในทางเศรษฐกิจอยู่แล้ว แต่ก็คาดว่าเปียงยางจะออกมาตอบโต้อย่างรุนแรง
คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติได้สั่งคว่ำบาตรโสมแดงอีกชุดใหญ่เมื่อเดือน ก.ย. เพื่อลงโทษที่ฝ่าฝืนมตินานาชาติทดลองนิวเคลียร์เป็นครั้งที่ 6 อีกทั้งยังยิงขีปนาวุธติดๆ กันหลายลูกในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา
ปีที่แล้ว รัฐบาลเกาหลีใต้ได้สั่งปิดนิคมอุตสาหกรรมแกซอง ซึ่งเป็นเขตอุตสาหกรรมร่วมที่ตั้งอยู่ในเขตแดนเกาหลีเหนือ โดยกล่าวหาเปียงยางว่านำเงินรายได้ไปอุดหนุนโครงการอาวุธ
เขตอุตสาหกรรมร่วมซึ่งถือกำเนิดขึ้นภายใต้นโยบาย “ซันไชน์” ของอดีตประธานาธิบดีคิม แดจุง เมื่อปี 2004 ถือเป็นสัญลักษณ์แห่งความปรองดองและความร่วมมือทางเศรษฐกิจอย่างสุดท้ายที่เหลืออยู่ หลังเกิดเหตุเรือรบโชนันของเกาหลีใต้ถูกยิงจมคร่าชีวิตลูกเรือไป 46 นายเมื่อปี 2010 ซึ่งโซลเชื่อว่าเป็นการกระทำของเปียงยาง และได้สั่งแบนการทำธุรกิจกับเกาหลีเหนือเกือบทุกรูปแบบ
