เอเจนซีส์/MGR ออนไลน์/เอเอฟพี - ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ เดินทางถึงญี่ปุ่นแล้ว พบกองกำลังสหรัฐฯ รอต้อนรับที่ฐานทัพอากาศโยโกตะ (Yokota) เริ่มทัวร์เอเชียครั้งมหากาพย์ 12 วัน 5 ประเทศอย่างเป็นทางการ สื่อญี่ปุ่นรายงาน มีรายงานเปิดเผยพบผู้นำอเมริกาเคยแนะให้ญี่ปุ่นยิงมิสไซล์เปียงยางที่บินผ่านน่านฟ้า หลังสงสัยหนักทำไมแดนอาทิตย์อุทัยยอมให้เกาหลีเหนือใช้น่านฟ้าตัวเองเป็นเส้นทางผ่าน และมีรายงานล่าสุด ทรัมป์ยืนยันจะหารือกับปูติน
รอยเตอร์และสื่ออื่นทั่วโลกรายงานวันนี้ (5 พ.ย.) ว่า เครื่องบินแอร์ฟอร์ซวันของผู้นำสหรัฐฯ ได้แล่นแตะพื้นดินแดนอาทิตย์อุทัยแล้วในเช้าวันอาทิตย์ (5) พบประธานาธิบดีสหรัฐฯประกาศว่า สหรัฐฯ และชาติพันธมิตรพร้อมที่จะร่วมสู้เพื่อปกป้อง “เสรีภาพ” โดยโดนัลด์ ทรัมป์ ยืนยันว่า “ไม่ควรมีเผด็จการคนใด” ประมาทต่อความตั้งใจของสหรัฐฯ
บีบีซี สื่ออังกฤษชี้ ถือเป็นครั้งแรกในรอบ 25 ปีของผู้นำสหรัฐฯ ที่อยู่ในตำแหน่ง มีกำหนดการเยือนฝั่งเอเชียยาวนานที่สุดแบบมหากาพย์ถึง 12 วันใน 5 ประเทศ เหมือนเช่นประธานาธิบดีทรัมป์ที่ได้เริ่มต้นการเดินทางเยือนญี่ปุ่นในวันอาทิตย์ (5)
นอกเหนือจากญี่ปุ่นแล้ว พบว่าทรัมป์มีกำหนดจะเดินทางไปยังเกาหลีใต้ ซึ่งมีรายงานก่อนหน้าว่า จะไม่มีการเดินไปเยือนถึงบริเวณพรมแดนเกาหลีเหนือเหมือนเช่นผู้นำคนก่อนๆ และจะเดินทางต่อไปยังจีน เวียดนาม และจบท้ายที่ฟิลิปปินส์เป็นประเทศสุดท้าย โดยไม่มีกำหนดมาเยือนไทย หรือแม้แต่พม่าเพื่อแก้ปัญหาโรฮิงญาแต่อย่างใด
เดอะการ์เดียนชี้ว่า ทรัมป์เดินทางไปพบกับบรรดากองกำลังสหรัฐฯที่ฐานทัพอากาศโยโกตะ (Yokota Air Base) ที่อยู่นอกกรุงโตเกียวทางตะวันตก หลังลงจากเครื่องบินแอร์ฟอร์ซวัน และหลังจากนั้น มีรายงานว่า ทรัมป์จะร่วมเล่นกอล์ฟกับผู้นำญี่ปุ่น ชินโซ อาเบะ เป็นการส่วนตัว และจะร่วมรับประทานอาหารกลางวันร่วมกันอย่างไม่เป็นทางการ
รอยเตอร์รายงานว่า ระหว่างการเดินทางมาเยือนเอเชีย ทรัมป์ได้กล่าวกับกองทัพนักข่าวที่ติดตามมาด้วยว่า “เกาหลีเนือ” จะเป็นประเด็นสำคัญในการหารือในการเดินทางเยือนเอเชียครั้งนี้ และยังเจาะประเด็นไปที่ทางการค้า พร้อมยังโจมตีกระทบปถึงผู้นำในอดีตของสหรัฐฯก่อนหน้าว่า ปล่อยปละละเลยการค้าในภูมิภาคเอเชียมาอย่างอย่างยาวนาน
ภายในฐานทัพอากาศโยโกตะ ที่มีผู้รอต้อนรับจำนวนหลายร้อยในชุดทหารลายพรางที่ต่างส่งเสียงเชียร์ กองกำลังสหรัฐฯและญี่ปุ่นอย่างกึกก้อง
โดยทรัมป์ประกาศว่า “ไม่มีเผด็จการคนใด ไม่มีรัฐบาลใด และไม่มีชาติใดสมควรที่จะประมาทต่อความมุ่งมั่นของอเมริกัน”
และทรัมป์กล่าวต่อว่า “เราจะไม่ยอมแพ้ เราจะไม่ยอมถอย และเราจะไม่มีวันที่จะอ่อนแรงในการปกป้องต่อเสรีภาพของพวกเรา”
รอยเตอร์กล่าวว่า ผู้นำสหรัฐฯได้กล่าวกับบรรดานักข่าวในระหว่างการเดินทางว่า จะมีการตัดสินใจออกมาในไม่ช้าว่า จะนำเกาหลีเหนือเข้าอยู่ในรายชื่อของรัฐที่ให้การสนับสนุนก่อการร้ายด้วยหรือไม่
โดยทรัมป์ประกาศย้ำว่า “เราต้องการให้มันได้รับการแก้ไข มันถือเป็นปัญหาใหญ่สำหรับชาติของเรา และของโลก และเราต้องที่จะเห็นมันถูกแก้”
สื่อเจแปนไทม์สของญี่ปุ่นรายงานว่า มีรายงานเปิดเผยรับการมาเยือนญี่ปุ่นของผู้นำสหรัฐฯ ว่า ทรัมป์ได้เคยพูดคุยกับอาเบะและผู้นำชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในการพบปะโดยตรง หรือทางโทรศัพท์ ในช่วงไม่กี่เดือนก่อนหน้าถึงการรับมือปัญหาเกาหลีเหนือ แหล่งข่าวเปิดเผย
โดยมีการชี้ว่า ***ทรัมป์ไม่เข้าใจว่าเหตุใดชาติแห่งซามูไรเช่นญี่ปุ่นจึงตัดสินใจไม่ยิงขีปนาวุธเกาหลีเหนือที่วิ่งผ่านน่านฟ้า***
ซึ่งพบว่า เปียงยางทำการทดสอบขีปนาวุธในวันที่ 29 ส.ค และวันที่ 15 ก.ย โดยทั้ง 2 ครั้งพบว่า ขีปนาวุธเกาหลีเหนือวิ่งผ่านน่านฟ้าฮอกไกโดก่อนที่จะไปตกในมหาสมุทรแปซิฟิก
สื่อญี่ปุ่นกล่าวว่า อย่างไรก็ตามกองกำลังปกป้องตนเองญี่ปุ่น SDF ตัดสินใจไม่ยิงสกัด ซึ่งทางรัฐบาลอาเบะออกมาอ้างว่า ทาง SDF ได้ทำการมอนิเตอร์ตั้งแต่เริ่มต้นปล่อย และได้ประเมินว่ามิสไซล์ของเกาหลีเหนือจะไม่ทำอันตรายต่อดินแดนญี่ปุ่น
และสื่อญี่ปุ่นยังกล่าวให้ความเห็นว่า ระดับความสูงและความเร็วของมิสไซล์เกาหลีเหนือ “ถือเป็นการยากที่จะสะกัดเพื่อทำลายกลางอากาศ” สำหรับญี่ปุ่น โดยเจแปนไทม์สชี้ว่า ทางโตเกียวเกรง “จะเสียหน้า” หากว่าทางญี่ปุ่นทำการสกัดแต่ล้มเหลว และจะเป็นการทำให้เกาหลีเหนือฮึกเหิม
เอเอฟพีรายงานล่าสุดวันนี้ (5 พ.ย.) ว่า ในระหว่างการเดินทางบนเครื่องบินแอร์ฟอร์ซวันมายังญี่ปุ่น พบผู้นำสหรัฐฯ ยืนยันกับกลุ่มนักข่าวว่า เขาจะใช้โอกาสทัวร์เอเชียครั้งนี้ พบปะหารือกับผู้นำรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูติน โดยทรัมป์กล่าวว่า “ผมคิดว่ามีการคาดว่าเราจะพบกับทางปูติน ใช่ พวกเราต้องการให้ปูตินช่วยเหลือในเรื่องเกาหลีเหนือ และทางเราจะพบกับผู้นำชาติต่างๆ จำนวนมาก”