รอยเตอร์/เอเจนซีส์ - อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ จิมมี คาร์เตอร์ แถลงล่าสุด ต้องการเดินทางเข้าเกาหลีเหนือเพื่อเป็นตัวแทนให้กับรัฐบาลสหรัฐฯ ของทรัมป์ หวังดับชนวนวิกฤตในภูมิภาคที่กำลังคุกรุ่น ท่ามกลางความวิตก กลัวทรัมป์จุดไฟสงครามโลกครั้งที่ 3 หากเดินทางเยือนเส้นแบ่งเขตแดนเกาหลี DMZ จริงในเดือนหน้า
รอยเตอร์รายงานวันนี้ (22 ต.ค.) ว่า หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์ส รายงานผ่านเว็บไซต์ของตัวเองวันอาทิตย์ (22) ในการให้สัมภาษณ์ของอดีตผู้นำสหรัฐฯ วัย 93 ปี จากพรรคเดโมแครต ประธานาธิบดีจิมมี คาร์เตอร์ ว่าได้เสนอตัวที่จะเดินทางไปเกาหลีเหนือ โดยในการให้สัมภาษณ์กับสื่อไทม์สจากบ้านไร่ที่เมืองเพลนส์ (Plains) รัฐจอร์เจีย คาร์เตอร์นั้นตอบรับอย่างแข็งขันเมื่อถูกถามว่าพร้อมที่จะเดินทางไปเกาหลีเหนือหรือไม่
โดยอดีตผู้นำสหรัฐฯ ได้ตอบกลับมาว่า “ใช่ ผมจะไป” ซึ่งไทม์ส์ชี้ว่า อาจเป็นการเดินทางเพื่อเปิดโอกาสการแก้ปัญหาทางการทูตอีกครั้ง หรืออาจเป็นการทำเพื่อรัฐบาลสหรัฐฯ ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ก่อนหน้ามีข่าวออกมาชี้ในแนวทางว่า ทรัมป์อาจเดินทางไปยังเส้นแบ่งเขตแดนสองชาติเกาหลี DMZ ในระหว่างการเยือนเกาหลีใต้ในเดือนหน้า
สื่ออังกฤษ ดิเอ็กซ์เพรส รายงานวันเสาร์ (21) ว่า ผู้เชี่ยวชาญออกมาเตือนว่า หากผู้นำสหรัฐฯ คิดจะเดินตามรอยเท้าประธานาธิบดีโรนัลด์ เรแกน ที่ได้เคยเดินทางไปเยือนเส้นแบ่งเขตแดน DMZ ในปี 1983 อาจเป็นชนวนเหตุทำให้เปียงยางไม่พอใจอย่างหนัก
โดยอดีตนักวิเคราะห์เกาหลี ซู ไม เทอร์รี (Sue Mi Terry) ได้ออกมาให้ความเห็นว่า “พวกเขา (เกาหลีเหนือ) เห็นทุกอย่างเป็นภัยคุกคาม” และชี้ว่า “พวกเขาได้ตั้งประเด็นไปแล้วว่า เขา (ประธานาธิบดีทรัมป์)เป็นบุคคลที่อยู่ในสถานะการยั่วยุสูง” ซึ่งเทอร์รียืนยันว่า “ทุกสิ่งที่เขาทำจะถูกมองไปในแนวทางนั้น”
อย่างไรก็ตาม สื่ออังกฤษชี้ว่า ***ทางฝ่ายเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ หวังว่า การเดินทางเยือนจะเป็นการส่งสัญญาณตรงไปยังกองกำลังที่เดินตรวจการณ์ทั้งสองฟากว่า “สหรัฐฯ นั้นมีพันธะต่อการปกป้องเกาหลีใต้”***
ด้านแดเนียล รัสเซล (Daniel Russel) อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ด้านเอเชียตะวันออกและแปซิฟิกได้ออกมาคัดค้านสุดตัวในเรื่องนี้ว่า “เส้นแบ่งเขต DMZ ที่ว่านี้มีหน้าที่คล้ายตัวขยาย” และกล่าวต่อว่า “สัญญาณที่ส่งออกมาจะไปในแนวทางการทหารและในทางลบที่จะออกมาจากประตูหน้าของกองบัญชาการกองทัพเกาหลีเหนือ”
และสอดคล้องกับผู้เชี่ยวชาญด้านนโยบายต่างประเทศด้านเอเชียที่ออกมาชี้ว่า การเดินทางเยือนเส้นแบ่งเขตแดน DMZ ของสองชาติเกาหลีนั้นถือเป็นความคิดที่โง่ และยังจะได้รับการต่อต้านจากประธานาธิบดีเกาหลีใต้ มุน แจ-อิน
ดิเอ็กซ์เพรสรายงานว่า กำหนดการเยือนเกาหลีใต้ของทรัมป์จะอยู่ในช่วงระหว่าง 7-8 พ.ย. ในการเดินทางการเยือน 5 ประเทศเอเชียช่วงเวลา 12 วันของโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งเมื่อประธานาธิบดีสหรัฐฯ ถูกถามถึงการเยือนเส้น DMZ ผู้นำสหรัฐฯ ตอบกลับว่า “ผมไม่ได้ยินถึงในกรณี “ยั่วยุ” แต่ทางเราจะพิจารณาอย่างแน่นอน”
รอยเตอร์รายงานต่อว่า ในการให้สัมภาษณ์ของประธานาธิบดีคาร์เตอร์ เขาได้เปิดเผยว่า ได้มีการหารือกับพลโท เอช. อาร์. แม็กมาสเตอร์ (H. R. McMaster) ที่ปรึกษาความมั่นคงสหรัฐฯ ประจำทำเนียบขาว และเป็นเพื่อนกับคาร์เตอร์ถึงเรื่องนี้ แต่ทางอดีตผู้นำสหรัฐฯชี้ว่า ได้คำตอบเป็นลบกลับมา
“ผมบอกไปว่า ผมพร้อมหากพวกเขาต้องการตัวผม” คาร์เตอร์กล่าว
ในการให้สัมภาษณ์ อดีตผู้นำสหรัฐฯ ในวัย 90 กว่าปีกล่าวว่า คนในวอชิงตันต่างวิตกถึงสงครามคำพูดระหว่างประธานาธิบดีทรัมป์และประธานาธิบดีเกาหลีเหนือ แต่ตัวคาร์เตอร์หวั่นเกรงในสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้น
“พวกเขาต้องการรักษารัฐบาลของตัวเอง และทางเราได้ประเมินอิทธิพลของปักกิ่งต่อเกาหลีเหนือสูง โดยเฉพาะต่อประธานาธิบดีคิม เกินความเป็นจริง” คาร์เตอร์กล่าว และชี้ว่า “เท่าที่ทราบ ผู้นำเกาหลีเหนือไม่เคยเดินทางไปเยือนจีนเลยสักครั้ง” และกล่าวต่อว่า “พวกเขาไม่มีความสัมพันธ์ต่อกัน ต่างจากอดีตประธานาธิบดีคิม จองอิล ที่เคยไปเยือนจีนมาแล้ว และมีความใกล้ชิด”
นอกจากนี้คาร์เตอร์ยังวิจารณ์ถึงผู้นำเกาหลีเหนือคนปัจจุบันว่า “เป็นคนที่ไม่สามารถคาดการณ์อะไรด้วยได้” ซึ่งทางอดีตผู้นำสหรัฐฯที่เคยดำรงตำแหน่งในสมัยยุคสงครามเย็น 1977-1981 ยอมรับว่ารูกสึกวิตกเป็นอย่างมากที่ทางผู้นำเกาหลีเหนือ จะเข้าใจว่า ทรัมป์จะเล่นงานเขา และทำให้เขาต้องลงมือโจมตีก่อน
“ผมเข้าใจว่าในเวลานี้เขาสามารถพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ที่สามารถทำลายคาบสมุทรเกาหลีและญี่ปุ่นได้แล้ว” ประธานาธิบดีจิมมี คาร์เตอร์กล่าว และชี้ต่อว่า “และอาจมาถึงดินแดนของพวกเรา หรือมาถึงแผ่นดินใหญ่สหรัฐฯ”
ทั้งนี้ พบว่าในช่วงยุค 90 คาร์เตอร์เคยเดินทางไปยังเกาหลีเหนือ ท่ามกลางความไม่เห็นด้วยของ ประธานาธิบดีบิล คลินตัน และประสบความสำเร็จในการบรรลุข้อตกลงกับอดีตประธานาธิบดีคิม อิลซุง ผู้เป็นปู่ของประธานาธิบดีคิม จองอึน
