“บิ๊กช้าง” มอบรางวัลหน่วยงาน สนับสนุน อุตสาหกรรมป้องกันประเทศด้านยาและเวชภัณฑ์ ย้ำ นโยบาย รบ. เร่งเดินหน้าพึ่งพาตัวเอง เผย หน่วยงานความมั่นคง เกาะติด สงครามโลกครั้งที่ 3 หลัง เกาหลีเหนือ - สหรัฐฯ เสี่ยงเผชิญหน้า พร้อมประเมินผลกระทบกับไทย
วันนี้ (18 เม.ย.) ที่กระทรวงกลาโหม พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคง ปลัดกระทรวงกลาโหม เป็นประธานในการมอบรางวัลหน่วยงานสนับสนุนงานด้านอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ (ยาและเวชภัณฑ์) ประจำปี 2559 แก่ส่วนราชการสังกัดกระทรวงกลาโหม และ สำนักงานตำรวจแห่งชาติที่ให้การสนับสนุนผลิตภัณฑ์ด้านอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ (ยาและเวชภัณฑ์) เป็นอย่างดี
โดย พล.อ.ชัยชาญ กล่าวว่า ถือเป็นนโยบาย ของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนต่ฝ่ายความมั่นคง และ รมว.กลาโหม ได้เน้นย้ำเสมอว่า ในเรื่องอุตสาหกรรมป้องกันประเทศในปี 2560 ในช่วง 5 ปีแรก ของยุทธศาสตร์ชาติและยุทธศาสตร์กระทรวงกลาโหม ต้องมีความชัดเจนในเรื่องของอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องยุทโธปกรณ์ อาวุธ ยาเวชภัณฑ์ ทำอย่างไรที่จะให้กระทรวงกลาโหม สามารถพึ่งพาตัวเองได้ ใช้สิ่งของที่ผลิตได้เอง ลดการนำเข้าจากต่างประเทศ นอกจากนี้ เรื่องงานอุตสาหกรรมป้องกันประเทศด้านยาและเวชศาสตร์ เป็นนโยบายของรัฐบาลที่ให้งบประมาณเพื่อการจัดหายาเวชภัณฑ์
จากนั้น พล.อ.ชัยชาญ ให้สัมภาษณ์ว่า อุตสาหกรรมป้องกันประเทศในเรื่องของยาและเวชภัณฑ์ในส่วนของกระทรวงกลาโหม เรามีโรงงานเภสัชกรรมทหาร ผลิตยาและเวชภัณฑ์ได้บางส่วน เช่น ยาพื้นฐาน อย่างเช่น โลชั่นกันยุง และสมุนไพรตามที่รัฐบาลให้การสนับสนุน ซึ่งในส่วนของโรงงานเภสัชกรรมทหารก็ได้มีการพัฒนาในเรื่องของสมุนไพรในไลน์หลายอย่าง มียาหลายประเภทที่มาจากสมุนไพรและจะมีการดำเนินการให้เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลมากที่สุด
พล.อ.ชัยชาญ กล่าวว่า ทุกวันนี้เราได้มีการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ ให้กับภาคส่วนต่างๆตามที่ได้สั่งซื้อ ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งในการพึ่งพาตัวเอง และใช้ขีดความสามารถที่เรามีอยู่ เพื่อสนับสนุนงานในเรื่องของสุขภาพประชาชนด้วย
พล.อ.ชัยชาญ กล่าวถึง แนวโน้มสถานการณ์โลก ภายหลังเกิดความตึงเครียด ระหว่างเกาหลีเหนือ กับสหรัฐอเมริกา รวมถึงประเทศอื่นๆ ที่ได้รับผลกระทบ ว่า ในส่วนของหน่วยงานความมั่นคงทุกหน่วยงานได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ว่าจะมีอะไรมากระทบต่อเราบ้าง และมีการวิเคราะห์ พร้อมทั้งแจ้งเตือนให้หน่วยงาน ความมั่นคงได้รับทราบ ส่วนแนวโน้มจะเกิดสงครามโลกครั้งที่ 3 หรือไม่นั้น ขณะนี้ก็ติดตามสถานการณ์อยู่
“ได้ให้หน่วยงานความมั่นคงทุกส่วนที่เกี่ยวข้อง ทั้ง กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงกลาโหม กองทัพ สภาความมั่นคงแห่งชาติ ให้ประสานงานกัน และติดตามสถานการณ์ดังกล่าว ในส่วนของประชาชนที่อยู่ในประเทศนั้นๆ ถือเป็นหน้าที่ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และมีการแจ้งเตือน” พล.อ.ชัยชาญ กล่าว