รอยเตอร์ - กลุ่มชาติที่ต่อต้านประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด แห่งซีเรีย ที่นำโดยสหรัฐฯ และอังกฤษ ประกาศจะไม่สนับสนุนการฟื้นฟูบ้านเมืองซีเรียที่เสียหายย่อยยับจากสงคราม จนกว่าจะมีกระบวนการเปลี่ยนผ่านทางการเมืองที่ทำให้ อัสซาด หมดอำนาจลง รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศอังกฤษแถลงวานนี้ (18 ก.ย.)
“เฟรนด์ส ออฟ ซีเรีย” ซึ่งประกอบด้วยกลุ่มชาติตะวันตกและอาหรับเป็นส่วนใหญ่ ได้จัดการประชุมที่นครนิวยอร์กเมื่อวานนี้ (18) ระหว่างที่ผู้นำทั่วโลกเข้าร่วมการประชุมสมัชชาใหญ่สหประชาชาติ และในห้วงเวลาที่ภัยคุกคามนิวเคลียร์เกาหลีเหนือและอนาคตของข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่านดูเหมือนจะกลบกระแสความรุนแรงของสงครามกลางเมืองซีเรียซึ่งยืดเยื้อเข้าปีที่ 7
“หนทางเดียวที่จะก้าวไปข้างหน้าได้ก็คือ ต้องมีกระบวนการทางการเมือง และประกาศให้อิหร่าน รัสเซีย รวมถึงระบอบอัสซาดรับรู้ว่า เราจะไม่สนับสนุนการฟื้นฟูซีเรีย จนกว่าจะมีกระบวนการทางการเมืองเกิดขึ้น ซึ่งตามมติยูเอ็นที่ 2254 บ่งชี้ว่า จะต้องเป็นการผ่องถ่ายอำนาจออกจากมือของอัสซาด” โบริส จอห์นสัน รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศอังกฤษ แถลงต่อผู้แทนจาก 14 ประเทศที่หนุนหลังฝ่ายกบฏซีเรีย เช่น ฝรั่งเศส ซาอุดีอาระเบีย ตุรกี และสหรัฐฯ เป็นต้น
คณะมนตรีความมั่นคงยูเอ็นมีมติรับรองโรดแมปการเปลี่ยนผ่านอำนาจในซีเรียซึ่งเป็นผลจากการเจรจาที่นครเจนีวา
รัสเซียซึ่งเป็นพันธมิตรกับอัสซาด เริ่มใช้ปฏิบัติการทางทหารแทรกแซงสงครามซีเรียตั้งแต่ปี 2015 นอกจากนี้ อัสซาดยังได้รับการสนับสนุนจากอิหร่านและกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอน ขณะที่พวกกบฏสายกลางในซีเรียตกที่นั่งลำบากมากขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากสหรัฐฯ เองก็เริ่มที่จะถอยห่างจากการเป็นผู้นำบีบคั้นอัสซาด
เมื่อต้นปีนี้ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ มีคำสั่งให้สำนักงานข่าวกรองกลางสหรัฐฯ (CIA) ยุติโครงการฝึกฝนและติดอาวุธให้แก่กบฏซีเรียบางกลุ่มที่สู้กับทหารอัสซาดอยู่
เดวิด แซตเทอร์ฟิลด์ รักษาการผู้ช่วยรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ฝ่ายกิจการตะวันออกใกล้ ยืนยันว่า ทุกประเทศที่เข้าร่วมประชุมวานนี้ (18) เห็นพ้องกันว่า “จะต้องมีกระบวนการทางการเมืองเกิดขึ้นเสียก่อนหากจะให้นานาชาติเข้าไปช่วยฟื้นฟูซีเรีย”