รอยเตอร์ - ยอดผู้เสียชีวิตในมุมไบเพิ่มเป็น 14 คน ในนั้นเป็นเด็ก 2 ราย หลังภัยน้ำท่วมอันเนื่องจากฝนตกหนัก ทำลายบ้านเรือนไปหลายหลังและก่อความยุ่งเหยิงด้านการสัญจรภายในเมืองหลวงทางการเงินของอินเดียแห่งนี้ อย่างไรก็ตาม ฝนที่ตกลงมาน้อยกว่าที่คาดหมายในวันพุธ (30 ส.ค.) ช่วยให้ความพยายามบรรเทาภัยดำเนินการได้คล่องตัวขึ้น
ภัยพิบัติครั้งนี้เกิดขึ้นท่ามกลางการเสียชีวิตของชาวบ้านมากกว่า 1,200 คนทั่วอินเดีย, บังกลาเทศ และเนปาล จากอุทกภัยครั้งเลวร้ายที่สุดในรอบหลายปีที่เล่นงานเหล่าประเทศในแถบเอเชียใต้ โดยหลายหมู่บ้านในรัฐพิหาร ทางตะวันออกของอินเดียยังคงจมอยู่ใต้บาดาล ประชาชนต้องใช้ชีวิตอยู่ในศูนย์พักพิงมานานหลายวันและพื้นที่ด้านการเกษตรได้รับความเสียหายอย่างกว้างขวาง
เหตุน้ำท่วมในมุมไบที่เกิดขึ้นมาตั้งแต่วันอังคาร (29 ส.ค.) เป็นผลจากฝนที่ตกลงมาอย่างหนักวันเดียวพอๆ กับค่าเฉลี่ยตลอดทั้งเดือน และมันทำให้การเดินรถไฟต้องหยุดชะงักและเที่ยวบินต่างๆ ถูกยกเลิก อย่างไรก็ตาม พวกเจ้าหน้าที่บอกว่าบริการเดินรถไฟและการขนส่งทางอากาศของเมือง กลับมาปฏิบัติการได้ตามปกติแล้วในช่วงค่ำวันพุธ (30 ส.ค.)
ด้วยเบื้องต้นพยากรณ์กันว่าจะมีฝนตกลงมาอย่างหนักต่อเนื่องในวันพุธ (30 ส.ค.) ทำให้รัฐบาลต้องสั่งปิดโรงเรียนและสถาบันการศึกษาต่างๆ แต่ท้ายที่สุดแล้วพบว่ามีฝนตกลงมาเบาบางกว่าที่คาดหมายไว้ในหลายพื้นที่
“ในเมืองและแถบชานเมืองมีฝนตกลงมาในช่วงไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา แต่มันไม่หนักเท่าเมื่อวานนี้” เค.เอส.โฮซาลิการ์ เจ้าหน้าที่ระดับสูงจากกรมอุตุนิยมวิทยาของอินเดียระบุ “อย่างไรก็ตาม ในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้า มุมไบและพื้นที่ข้างเคียงอาจต้องเผชิญกับฝนตกในวงกว้างและฝนตกหนักในบางพื้นที่”
ตำรวจเผยว่า ผู้หญิงวัย 45 ปี ลูกชายวัยขวบครึ่งของเธอ และสมาชิกภายในครอบครัวอีกหลายคน เสียชีวิตหลังจากบ้านพักของพวกเขาในย่านวิคครอลี พังถล่มลงมาในวันอังคาร (29 ส.ค.) ส่วนเด็กหญิงวัย 2 ขวบอีกคน ตายเพราะถูกกำแพงถล่มลงมาทับ
ในเมืองธานีที่อยู่ติดกัน มีชาวบ้านเสียชีวิต 3 รายหลังจากถูกกระแสน้ำซัด ขณะที่บางรายเสียชีวิตหลังพลัดตกท่อตามถนนสายต่างๆ ที่ถูกน้ำท่วมในแถบชานเมือง
โฆษกตำรวจมุมไบเผยว่า มีชาวบ้านสูญหายในมุมไบ 7 คน ส่วนในย่านต่างๆละแวกใกล้กันมีผู้สูญหาย 6 คน
อุทกภัยครั้งนี้ทำให้หวนนึกถึงเมื่อปี 2005 ซึ่งมีฝนตกในนครมุมไบมากถึง 950 มิลลิเมตร (37 นิ้ว) ภายในเวลา 24 ชั่วโมง ส่งผลให้กระแสไฟฟ้า น้ำประปา และระบบสื่อสารถูกตัดขาดโดยสิ้นเชิง และคร่าชีวิตผู้คนในเมืองใหญ่แห่งนี้ไปกว่า 1,000 คน
หายนะครั้งนั้นถูกโทษว่าเป็นเพราะการพัฒนาเมืองอย่างไร้ทิศทาง และระบบระบายน้ำที่ด้อยประสิทธิภาพ