เอเอฟพี - มุมไบซึ่งเป็นเมืองศูนย์กลางเศรษฐกิจของอินเดียเผชิญน้ำท่วมหนักจากฝนที่ยังเทกระหน่ำไม่หยุด ส่งผลให้การจราจรหลายจุดเป็นอัมพาต ขณะที่โรงเรียนหลายแห่งต้องปิดการเรียนการสอน และมีรายงานผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 5 ราย
มหานครชายทะเลซึ่งมีผู้อยู่อาศัยกว่า 20 ล้านคนกลายเป็นพื้นที่ล่าสุดที่ประสบอุทกภัยในฤดูมรสุมปีนี้ โดยยอดผู้เสียชีวิตจากน้ำท่วมในเอเชียใต้พุ่งแล้วไม่ต่ำกว่า 1,200 ราย และทำให้ประชากรหลายล้านคนทั้งในอินเดีย เนปาล และบังกลาเทศ ต้องอพยพออกจากบ้านเรือน
ทางการมุมไบ ระบุว่า ฝนที่เทต่อเนื่องมาตั้งแต่เมื่อวานนี้ (29 ส.ค.) ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 5 ราย ถนนหลายสายไม่สามารถใช้สัญจรได้ และรถไฟก็ต้องหยุดให้บริการชั่วคราว
“น้ำท่วมที่มุมไบทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 5 คน โดย 4 คนเป็นเด็กในสลัมที่ถูกกำแพงถล่มลงมาทับ ส่วนอีกคนถูกไฟฟ้าช็อต” ทานาจี กัมเบิล เจ้าหน้าที่ท้องถิ่น ให้สัมภาษณ์กับเอเอฟพี
เมื่อบ่ายวันอังคาร (29) ชาวเมืองมุมไบต้องเดินลุยน้ำที่ท่วมสูงถึงระดับเอว และรถยนต์หลายคันถูกจอดทิ้งให้จมน้ำ แต่ กัมเบิล ระบุว่าฝนเริ่มจะซาลงบ้างแล้วในวันนี้ (30) และเจ้าหน้าที่กำลังประเมินสถานการณ์ ขณะที่กิจกรรมต่างๆ เริ่มกลับมาดำเนินได้ตามปกติ
คงคาทิน คุปตะ วัย 62 ปี บอกกับผู้สื่อข่าวว่า คนจำนวนมากต้องเดินเตร็ดเตร่อยู่ในเมืองตลอดทั้งคืนจนกระทั่งรถไฟเริ่มเปิดให้บริการตามปกติเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา (30)
“ผมไม่รู้จะเดินทางกลับบ้านยังไง เมื่อคืนก็เลยนอนมันข้างถนนนี่แหละ”
อุทกภัยครั้งนี้ทำให้หวนนึกถึงเมื่อปี 2005 ซึ่งมีฝนตกในนครมุมไบมากถึง 950 มิลลิเมตร (37 นิ้ว) ภายในเวลา 24 ชั่วโมง ส่งผลให้กระแสไฟฟ้า น้ำประปา และระบบสื่อสารถูกตัดขาดโดยสิ้นเชิง และคร่าชีวิตผู้คนในเมืองใหญ่แห่งนี้ไปกว่า 1,000 คน
หายนะครั้งนั้นถูกโทษว่าเป็นเพราะการพัฒนาเมืองอย่างไร้ทิศทาง และระบบระบายน้ำที่ด้อยประสิทธิภาพ
อินเดีย เนปาล และบังกลาเทศ ต่างต้องเผชิญอุทกภัยที่รุนแรงในช่วงฤดูมรสุมของทุกปี ซึ่งจะเริ่มตั้งแต่เดือน มิ.ย. เรื่อยไปจนถึงเดือน ก.ย. หรือ ต.ค.
อย่างไรก็ตาม สภากาชาดเตือนว่าน้ำท่วมปีนี้อาจทำให้บางภูมิภาคประสบหายนะรุนแรงที่สุดในรอบหลายทศวรรษ โดยเฉพาะที่รัฐพิหาร ซึ่งมีผู้เสียชีวิตจากน้ำท่วมแล้วไม่ต่ำกว่า 500 คน