เอเอฟพี – จีนระบุในวันนี้ (30) ว่า พวกเขาหวังว่าอินเดียจะ “เรียนรู้บทเรียน” หลังจากที่สิ้นสุดการเผชิญหน้าทางทหารยาวนานหลายเดือนในพื้นที่พิพาทสำคัญทางยุทธศาสตร์ในหิมาลัย
ทั้งสองประเทศแก้ไขภาวะชะงักชะงันเหนือพื้นที่ด็อกลัมที่จีนและภูฎานพันธมิตรของอินเดียต่างอ้างสิทธิ์ ไม่กี่วันก่อนที่นายกรัฐมนตรี นเรนทรา โมดี จะเข้าร่วมการประชุมซัมมิทบริคส์ (BRICS) ในภาคตะวันออกของจีน
“แน่นอนเราหวังว่าฝ่ายอินเดียจะเรียนรู้บทเรียนจากเหตุการณ์นี้และป้องกันไม่ให้เรื่องเช่นนี้เกิดขึ้นอีก” รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศ หวัง อี้ บอกในการบรรยายสรุปเกี่ยวกับการประชุมซัมมิทบริคส์ที่จะมีขึ้นในเร็วๆ นี้และมีทั้งสองชาติร่วมรวมถึง บราซิล รัสเซีย และแอฟริกาใต้
เมื่อวันจันทร์ (28) นิวเดลีประกาศว่า ทั้งสองประเทศกำลังถอนกองกำลังป้องกันชายแดน ในขณะที่ปักกิ่งระบุเพียงว่า อินเดียถอนเจ้าหน้าที่ป้องกันชายแดนและยุทโธปกรณ์ทั้งหมดที่อยู่ในอาณาเขตของจีนอย่างผิดกฎหมาย
การเผชิญหน้านี้เริ่มขึ้นเมื่อวันที่ 16 มิถุนายนและและจุดชนวนสิ่งที่นักวิเคราะห์บางคนระบุว่าเป็นวิกฤตที่เลวร้ายที่สุดในรอบหลายสิบปีระหว่างสองประเทศผู้ครอบครองอาวุธนิวเคลียร์
อินเดียไม่ได้มีการอ้างสิทธ์เหนือด็อกลัมแต่เป็นภูฎานพันธมิตรใกล้ชิดที่พวกเขามองว่าเป็นรัฐกันชนจีนทางตอนเหนือ
อินเดียและจีนมีประวัติศาสตร์ความบาดหมางที่ยาวนานและทำสงครามกันในปี 1962 บริเวณรัฐอรุนาจัลประเทศ
หวังกล่าวว่า “มันเป็นเรื่องปกติ” สำหรับประเทศใหญ่สองประเทศที่จะมี “ปัญหากันบ้างในการปฏิสัมพันธ์”
“เราหวังว่าจีนและจีนจะร่วมมือกันทำงานเพื่อการพลิกฟื้นของเอเชีย สำหรับการเผชิญด้านเขตแดนที่เกิดจากการรุกล้ำของอินเดีย เรื่องนั้นได้รับการแก้ไขแล้ว” เขากล่าว
รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศไม่ได้ระบุว่าประธานาธิบดี สี จิ้นผิง และ โมดี จะจัดการพูดคุยสองฝ่ายนอกรอบการประชุมซัมมิทบริคส์ในสัปดาห์หน้าในเมืองท่าเซี่ยเหมินหรือไม่
“สิ่งสำคัญคือผู้นำทั้งสองมีความเต็มใจที่จะพบกันหรือไม่ หากมีความเต็มใจจากผู้นำที่เข้าร่วม (กาประชุมบริคส์) ฝ่ายจีนจะพยายามทำให้มันเป็นไปได้หากกำหนดการของเราเอื้อ”