รองนายกฯ ญี่ปุ่น “ขออภัย” หลังหลุดปากอวย “ฮิตเลอร์” ฆ่าหมู่ชาวยิว

รอยเตอร์ - ทาโร อาโสะ รองนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ออกมาแสดงความเสียใจและขอถอนคำพูดที่ตนเคยกล่าวต่อคนในพรรคเสรีประชาธิปไตย (แอลดีพี) หลังถูกนำไปตีความว่าเป็นการยกย่องแรงจูงใจของ อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ ในการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิวเมื่อช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2

คำพูดของ อาโสะ ซึ่งควบตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงการคลัง เรียกเสียงประณามอย่างรุนแรงจากองค์กรยิวในสหรัฐฯ โดยก่อนหน้านี้ ธนาคารกลางญี่ปุ่นก็เพิ่งจะออกมาขออภัยในเดือน มิ.ย. หลังมีผู้บริหารคนหนึ่งกล่าวถึงนโยบายเศรษฐกิจของฮิตเลอร์ในทำนองชื่นชม

“โดยรวมๆ แล้วผมก็ใช้ถ้อยคำตำหนิ ฮิตเลอร์ อย่างชัดเจน และแน่นอนว่าแรงจูงใจของเขาก็ผิดเช่นกัน” อาโสะ แถลงวันนี้ (30 ส.ค.) พร้อมอธิบายเจตนาของตนซึ่งต้องการชี้ให้เห็นว่าผลงานที่ออกมานั้นสำคัญ และไม่ได้มีเจตนาปกป้องผู้นำนาซี

“การที่ผมยก ฮิตเลอร์ มาเป็นตัวอย่างอาจจะไม่เหมาะสม และผมขอถอนคำพูด”

เมื่อวานนี้ (29) สำนักข่าวเกียวโดได้ตีแผ่คำพูดของรองนายกฯ ที่ระบุว่า “ผมไม่สนแรงจูงใจของคุณ (ในการเป็นนักการเมือง) แต่ผลลัพธ์ที่ออกมาสำคัญที่สุด ฮิตเลอร์ เป็นคนชั่วช้าเพราะเขาสั่งฆ่าคนเป็นล้านๆ แม้ว่าแรงจูงใจของเขาจะถูกต้องก็ตาม”

รัฐมนตรีผู้นี้เคยถูกวิจารณ์อย่างรุนแรงมาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อปี 2013 โดนตอนนั้น อาโสะ เอ่ยถึงแผนการแก้รัฐธรรมนูญฉบับสันติภาพของญี่ปุ่น และอ้างไปถึงรัฐธรรมนูญของสาธารณรัฐไวมาร์ (ชื่อเรียกประเทศเยอรมนีในยุคสาธารณรัฐ) ที่ถูกแก้ไขโดยประชาชนไม่รับรู้ พร้อมกับตั้งคำถามว่า “ทำไมเราไม่ลองเรียนรู้เทคนิคเหล่านั้นบ้าง?”

ศูนย์ไซมอนวีเซนทัล (Simon Wiesenthal Center) ซึ่งเป็นองค์กรเพื่อสิทธิชาวยิวในสหรัฐฯ ได้แสดงความ “กังวลและผิดหวังอย่างยิ่ง” ต่อคำพูดของรองนายกฯ ญี่ปุ่น

“นี่เป็นครั้งล่าสุดที่มีการใช้คำพูดผิดพลาดมหันต์ ซึ่งเป็นอันตรายอย่างยิ่ง” แรบไบ อบราฮัม คูเปอร์ หัวหน้าศูนย์ไซมอนวีเซนทัล แถลงวานนี้ (29)

“ถ้อยคำเหล่านี้ส่งผลให้ภาพลักษณ์ของญี่ปุ่นต้องเสื่อมเสีย ในห้วงเวลาที่ชาวอเมริกันทุกคนปรารถนาจะยืนหยัดเคียงข้างญี่ปุ่น ซึ่งถือเป็นพันธมิตรและบ้านพี่เมืองน้องในระบอบประชาธิปไตยของเรา หลังจากที่ถูก คิม จองอึน แห่งเกาหลีเหนือยิงจรวดข่มขู่”

เมื่อเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา ยูทากะ ฮาราดะ ผู้บริหารธนาคารกลางญี่ปุ่น กล่าวในงานสัมมนาว่านโยบายเศรษฐกิจของ ฮิตเลอร์ นั้น “เหมาะสม” และ “ยอดเยี่ยม” แต่ก็เป็นปัจจัยเกื้อหนุนให้ผู้นำเผด็จการนาซีกระทำในสิ่งที่ “เลวร้าย” มากมาย