เอเอฟพี - ที่ปรึกษาระดับสูงของรัฐบาลจีน ระบุวันนี้ (26 ส.ค.) ว่าความพยายามในการสอนภาษาจีนกลางให้กับชนกลุ่มน้อยของจีนนั้นยังไม่เพียงพอในระหว่างที่ปักกิ่งกำลังต่อสู้เพื่อกำจัดความยากจน
ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีนประกาศทำสงครามกับความยากจนและสั่งให้รัฐบาลท้องถิ่นกำจัดความยากจนเพื่อสร้างสังคมมั่งคั่งสมัยใหม่” ภายในปี 2021 ในโอกาสครบรอบร้อยปีของพรรครัฐบาลคอมมิวนิสต์
ถึงแม้ว่าทางการท้องถิ่นจะออกนโยบาย งบประมาณ และโครงการสนับสนุนในพื้นที่ยากจนที่สุดของจีน แต่พวกเขาไม่สามารถสอนภาษาจีนกลางให้กับชนกลุ่มน้อยได้อย่างเพียงพอ จู่ เว่ยชุน กล่าวในบทความในหนังสือพิมพ์โกลบอลไทมส์
ความพยายามที่จะสอนภาษาจีนกลางให้กับประชาชน “ไม่ดีพอ” ในหลายพื้นที่ จู่ ซึ่งเป็นประฐานคณะกรรมการชนกลุ่มน้อยและศาสนาของสภาที่ปรึกษาทางการเมืองของจีน กล่าว
“ผมมักพบเจอแกนนำระดับล่างที่มีความพยายามใช้ภาษาถิ่นเพื่อคุยเกี่ยวกับแผนบรรเทาความยากจนของพวกเขาโดยที่ไม่ได้ตระหนักว่า การปรับปรุงความสารมารถในการพูดภาษาจีนกลางของพวกเขาเองคืองานเร่งด่วน” เขากล่าว
จีนส่งเสริมการใช้ภาษาจีนกลางซึ่งเป็นภาษาถิ่นของกรุงปักกิ่งและสนับสนุนให้ชนกลุ่มน้อยทางเชื้อชาติเรียนภาษาทางการนี้ ในความพยายามเพิ่มความเป็นเอกภาพในพื้นที่หลากเชื้อชาติของประเทศ
อย่างไรก็ตาม มีอุปสรรคในการผลักดันการสร้างมาตรฐานในหลายภูมิภาคเช่น ทิเบต และซินเจียง ซึ่งชาวทิเบตและชาวอุยกูร์ ชนกลุ่มน้อยที่พูดภาษาเตอร์กิกเกือบทั้งหมด มักมองว่าภาษาเป็นส่วนประกอบสำคัญในอัตลักษณ์ทางวัฒนธรรมของพวกเขา
ปักกิ่งปฏิเสธว่า การส่งเสริมภาษาจีนกลางไม่ได้ทำลายวัฒนธรรมของชนกลุ่มน้อย และให้เหตุผลว่า การเรียนภาษาทางการทำให้ชนกลุ่มน้อยมีโอกาสในการทำงานและศึกษามากขึ้น
จู่กล่าวในบทความว่า ปัญหาด้านการสื่อสารกับแรงงานจากซินเจียงอาจทำให้เกิด “วงจรอุบาท” เมื่อบริษัทจับกลุ่มแรงานที่ขาดความสามารถในการทำงานร่วมกับผู้อื่น
กว่าร้อยละ 70 ของประชากรพูดภาษาจีนกลาง แต่ระดับความคล่องแคล่วในการพูดของประชากรในภาคตะวันตกน้อยกว่าภาคตะวันออก 20 เปอร์เซ็นต์ ในพื้นที่ห่างไกลบางแห่งมีประชากรพูดภาษาจีนกลางได้เพียง 40 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น จู่กล่าว
“การใช้ภาษาจีนกลางเพื่อลดความยากจน การใช้การลดความยากจนเพื่อส่งเสริมภาษาจีนกลาง ไม่ได้มีความสำคัญแค่เพียงทางเศรษฐกิจเท่านั้นแต่ยังมีความสำคัญทางการเมืองด้วย” เขากล่าว