เอเจนซีส์ - ยอดผู้เสียชีวิตจากพายุไต้ฝุ่น “ฮาโตะ” พุ่งเป็นอย่างน้อย 16 รายเมื่อวันพฤหัสบดี (24 ส.ค.) หลังจากพัดผ่านสร้างความเสียหายเป็นวงกว้างในพื้นที่ตอนใต้ของจีน รวมถึงฮ่องกง และมาเก๊า โดยเฉพาะชาวมาเก๊านั้นสวดรัฐบาลท้องถิ่นชะล่าใจเกินไปจนทำให้ประชาชนตั้งตัวรับพายุไม่ทัน แถมกว่าครึ่งเมืองยังคงไม่มีไฟฟ้าหรือน้ำประปา
ในวันพฤหัสบดี (24) เจ้าหน้าที่กู้ภัยในมาเก๊าเข้าตรวจดูตามรถยนต์ที่ถูกน้ำท่วมจมจำนวนมากเพื่อค้นหาและช่วยเหลือผู้ที่อาจติดอยู่ข้างในรถ ขณะที่หน่วยบริการฉุกเฉินต่างๆ พยายามตอบสนองเสียงโทรศัพท์เรียกขอความช่วยเหลือที่ประดังเข้ามาจนรับไม่ทัน
การเดินทางติดต่อเป็นไปด้วยความยากลำบาก โดยเรือข้ามฟากยังคงประสบปัญหา เนื่องจากท่าเรือได้รับความเสียหาย ขณะที่การจราจรบนถนนติดขัด โรงเรียน พิพิธภัณฑ์ และสถานที่ราชการยังคงปิดให้บริการ
ประชาชนจำนวนมากหิ้วถังพลาสติกไปเข้าคิวรอรองน้ำจากหัวดับเพลิงสาธารณะ เนื่องจากน้ำประปาหยุดไหล เช่นเดียวกับที่กว่าครึ่งเมืองยังไม่มีไฟฟ้าใช้
มีรายงานว่าพบผู้เสียชีวิตที่อดีตอาณานิคมของโปรตุเกสแห่งนี้อย่างน้อย 9 คน
ชายคนหนึ่งเสียชีวิตจากการถูกผนังล้มทับ อีกคนตกจากระเบียงชั้น 4 และคนหนึ่งถูกรถบรรทุกชน
ทางการมาเก๊าแถลงว่า พบศพผู้เสียชีวิต 2 รายในที่จอดรถที่ถูกน้ำท่วมเมื่อเช้าวันพฤหัสบดี แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดใดๆ
คลิปบนเว็บไซต์หนังสือพิมพ์แอปเปิล เดลี เผยให้เห็นที่จอดรถใต้ดินแห่งหนึ่งมีน้ำท่วมสูงถึงคอ ชายคนหนึ่งตะโกนอย่างตื่นตระหนกขณะพยายามออกจากสถานที่ดังกล่าว อย่างไรก็ดี ไม่มีการระบุชัดเจนว่า เป็นที่จอดรถแห่งเดียวกับที่พบศพผู้เสียชีวิตหรือไม่
คนขับแท็กซี่คนหนึ่งบอกว่า ไม่เคยเห็นมาเก๊าในสภาพแบบนี้มาก่อนตั้งแต่ย้ายมาอยู่เมื่อทศวรรษ 1970 และสำทับว่า รัฐบาลมีมาตรการรับมือและแจ้งเตือนประชาชนช้าเกินไป ทำให้ประชาชนไม่มีเวลาซื้อหาข้าวของเครื่องใช้เก็บเอาไว้
สถานีทีวีทีดีเอ็มของทางการมาเก๊ารายงานว่า ไต้ฝุ่นฮาโตะที่มาพร้อมความเร็วลมกว่า 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จึงถือเป็นพายุระดับ 10 ซึ่งเป็นระดับสูงสุด และเป็นพายุที่รุนแรงที่สุดนับแต่ปี 1968 ที่เคยพัดถล่มศูนย์การพนันเสี่ยงโชคใหญ่ที่สุดของโลกแห่งนี้ และเป็นที่พำนักของผู้คนราว 600,000 คน
อย่างไรก็ดี ขณะที่ฮ่องกง ซึ่งเป็นเขตบริหารพิเศษของจีนเช่นกันและอยู่ใกล้เคียงกัน มีการประกาศเตือนภัยว่าฮาโตะอาจทวีความรุนแรงถึงระดับ 8 หรือสูงกว่านั้นอีก ทางการมาเก๊ากลับเตือนภัยไต้ฝุ่นลูกนี้ที่ระดับ 3 เท่านั้น
ถึงตอนค่ำวันพฤหัสบดี (24) เฟอร์นันโด ชุย ผู้ว่าการมาเก๊าประกาศในการแถลงข่าวว่า ฟอง ซอยคุน ผู้อำนวยการสำนักงานอุตุนิยมวิทยาและธรณีฟิสิกส์ ได้ลาออกจากตำแหน่งแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ด้านนอกของอาคารจำนวนมากในมาเก๊า รวมทั้งหลายส่วนของสถานกาสิโนมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ ได้ถูกลมพายุแรงจัดของฮาโตะพัดกระหน่ำได้รับความเสียหาย
กาสิโนบางแห่งต้องปิดทำการเนื่องจากไม่มีไฟฟ้า แต่ก็ยังมีหลายแห่งเปิดได้โดยอาศัยไฟฟ้าจากเครื่องปั่นไฟสำรอง
ทั้งนี้ อุตสาหกรรมเสี่ยงโชคสร้างรายได้ให้มาเก๊าถึง 27,290 ล้านดอลลาร์ในปีที่ผ่านมา หรือกว่าครึ่งของจีดีพีของเขตบริหารพิเศษแห่งนี้ทีเดียว
สำหรับที่ฮ่องกงนั้น เทอเรนซ์ ช่ง ศาสตราจารย์เศรษฐศาสตร์ของไชนีส ยูนิเวอร์ซิตี้ ออฟ ฮ่องกง คาดว่า ฮาโตะสร้างความเสียหายแก่อดีตอาณานิคมของอังกฤษแห่งนี้เป็นมูลค่า 1,020 ล้านดอลลาร์
ประชาชนกว่า 120 คนของฮ่องกงได้รับบาดเจ็บจากพายุที่มาพร้อมลมแรงจัดและฝนกระหน่ำ รายงานระบุว่า ชายวัย 83 ปีคนหนึ่งที่เชื่อว่า เป็นเหยื่อพายุนี้ได้ตัดสินใจฆ่าตัวตายขณะที่ไต้ฝุ่นพัดถล่ม
ส่วนที่มณฑลกวางตุ้งทางใต้ของจีน สถานีโทรทัศน์ส่วนกลางของทางการจีน (ซีซีทีวี) รายงานว่า มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 8 คน และ 27,000 คนต้องอพยพไปยังศูนย์หลบภัยชั่วคราว นอกจากนี้ประชาชนเกือบ 2 ล้านครัวเรือนไม่มีไฟฟ้าใช้ช่วงสั้นๆ
ซีซีทีวีแจงว่า ผู้เสียชีวิต 4 คนอยู่ในเมืองจูไห่ 3 คนอยู่ในเมืองจงซาน และ 1 คนในเมืองเจียงเหมิน
ที่จูไห่ซึ่งอยู่ติดกับมาเก๊า บ้านเรือนราว 275 หลังพังทลาย และคาดว่า ฮาโตะสร้างความเสียหาย 826 ล้านดอลลาร์
ปกติแล้วฮ่องกงและพื้นที่โดยรอบจะเผชิญพายุไต้ฝุ่นระหว่างเดือนกรกฎาคมถึงตุลาคม
พายุครั้งรุนแรงที่สุดเกิดขึ้นในปี 1962 เมื่อตาพายุวันดาเคลื่อนผ่านพร้อมความเร็วลม 284 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และทำให้มีผู้เสียชีวิต 130 คน ผู้คนไม่มีที่อยู่อาศัย 72,000 คน
อย่างไรก็ตาม เมื่อถึงวันพฤหัสบดี(24) ฮาโตะได้ลดระดับเป็นพายุโซนร้อน และเคลื่อนที่อยู่ห่างจากฮ่องกงทางตะวันตก 680 กิโลเมตร โดยคาดว่า จะมีกำลังอ่อนลงและมุ่งหน้าเข้าสู่จีนแผ่นดินใหญ่ต่อไป