ระยอง - อุทยานเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด เอาจริง เหลือเวลาอีก 7 วัน ผู้ประกอบการร้านค้าหาดแม่รำพึง 41 ราย ทยอยรื้อหลังคาด้านชายหาด หวั่นถูกดำเนินคดีซ้ำเนื่องจากอยู่ระหว่างรอลงอาญา
วันนี้ (8 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณี นายธนิศ จันทะเดช หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด ต.เพ อ.เมืองระยอง ปิดประกาศให้ร้านค้าชุมชน หัวรถ หินดำ และ ป่าคั่น หาดแม่รำพึง ต.ตะพง อ.เมืองระยอง ซึ่งอยู่ในเขตอุทยานฯรวมทั้งสิ้น 41 ร้าน ทำการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างต่อเติมอาคารจากแบบแปลนที่ได้รับอนุญาต (ต่อเติมด้านหลังร้านลงชายหาด)จากกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ตามโครงการพัฒนาปรับปรุงชายหาดแม่รำพึงอย่างยั่งยืน ภายใน 15 วัน ตั้งแต่วันที่ 1-15 กันยายนนี้
วันเดียวกัน ผู้ประกอบการร้านค้าชุมชน หัวรถ และหินดำ จำนวน 20 ร้านค้า กำลังดำเนินการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างตามคำสั่งเกือบเสร็จสิ้นทั้ง 20 ร้าน ผู้ประกอบการรายหนึ่งกล่าวว่า ทำไมต้องให้รื้อถอน แต่ละร้านลงทุนปรับปรุงตั้งเสาปูนเทคอนกรีตฐานรากอย่างมั่นคง เนื่องจากชายทะเลมีคลื่นลมแรงจัด หลังคากระเบื้องต้องเจาะใส่นอตขันกันกระเบื้องถูกลมพายุพัดปลิวได้ ลงทุนนับแสนบาทเมื่อถูกสั่งให้รื้อสร้างความเสียหายมาก กระเบื้องแตกหลายแผ่น อยากให้อุทยานฯ เก็บค่าเช่ารายปี ตารางเมตรละเท่าไหร่ ยาว 18 เมตร เป็นเงินเท่าไหร่ก็คิดไป รื้อหลังคาแล้วตั้งโต๊ะชายหาดก็ไม่ได้
ฝากวิงวอนผู้ใหญ่เบื้องบนลงมาแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนให้ผู้ประกอบการหาดแม่รำพึงด้วย ปัจจุบันนี้เศรษฐกิจแย่มาก วันหยุดเสาร์ อาทิตย์ มีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวน้อยมาก ยิ่งวันธรรมดาไม่มีคนเลย ต้องนำกุ้ง หอย ปู ปลา ไปนั่งขายตามตลาดนัด หารายได้มาช่วยเสริมอีกทางหนึ่ง
ผู้ประกอบการร้านค้าหาดแม่รำพึง กล่าวต่อว่า กลุ่มผู้ประกอบการทั้ง 41 ราย เคยถูกเจ้าหน้าที่อุทยานฯ แจ้งความดำเนินคดีถูกปรับ ส่วนโทษจำรอลงอาญา เมื่อมีคำสั่งให้รื้อก็ต้องรื้อ หากโดนแจ้งความดำเนินคดีคราวนี้คงติดคุกแน่เพราะอยู่ระหว่างรอลงอาญา ดังนั้น ผู้ประกอบการต้องปฏิบัติตามกฎหมาย
สำหรับผู้ประกอบการร้านค้าชุมชนป่าคั่น จำนวน 21 ร้าน ยังไม่มีการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างแต่อย่างใด แต่ละร้านยังรอกันอยู่ บอกว่ารื้อก็ต้องรื้อพร้อมกันทีเดียว หากไม่รื้อก็ถูกดำเนินคดี เพราะทุกรายถูกรอลงอาญาอย่างไรก็ต้องรื้อแน่