เอเจนซีส์ - ตำรวจฟิลิปปินส์สังหารคนไป 32 ราย ในการบุกจู่โจมหลายครั้งใกล้กับกรุงมะนิลา ซึ่งถือเป็นคืนที่นองเลือดมากที่สุดในการทำสงครามกับยาเสพติดของประธานาธิบดี โรดริโก ดูเตอร์เต
การบุกเข้าตรวจค้นหลายครั้งช่วงคืนวันจันทร์ถึงเช้าวันอังคารที่ผ่านมา ส่งผลให้เป็นปฏิบัติการของตำรวจที่มียอดผู้เสียชีวิตในคืนเดียวมากที่สุด หลังจากที่เคยมีเจ้าหน้าที่สังหารคนไป 16 ราย ในจำนวนนั้นมีนายกเทศมนตรีด้วย จากการบุกจู่โจมเข้าตรวจค้นที่เมืองทางใต้แห่งหนึ่งเมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม
ผู้กำกับการตำรวจอาวุโส โรเมโอ คารามัต ระบุในวันพุธ (16 ส.ค.) ว่ามีตำรวจร่วมปฏิบัติการครั้งนี้ 67 นาย ในหลายพื้นที่ของจังหวัดบูลากัน ทำให้มีผู้ต้องสงสัยเสียชีวิต 32 รายจากการปะทะกับเจ้าหน้าที่ และมีอีก 109 รายที่ถูกจับกุม
บันทึกของตำรวจแสดงให้เห็นว่า บูลากันเป็นจังหวัดที่มีประชากรราว 3.3 ล้านราย อยู่ทางเหนือของกรุงมะนิลา ที่นั่นมีการสังหารและจับกุมผู้ต้องสงสัยในคดียาเสพติดจำนวนมากในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา
ทั้งนี้ ประธานาธิบดีดูเตอร์เตได้รับปากไว้ว่าจะให้การคุ้มครองตำรวจที่สังหารผู้ต้องสงสัยในคดียาเสพติด
ข้อมูลตัวเลขของรัฐบาลแสดงให้เห็นว่า นับตั้งแต่ดูเตอร์เตขึ้นดำรงตำแหน่งผู้นำประเทศเมื่อปีที่แล้ว มีบุคคลที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดถูกสังหารไปรวมทั้งสิ้น 3,451 ราย จากปฏิบัติการของตำรวจ
นอกจากนี้ ยังมีอีกกว่า 2,000 รายที่เสียชีวิตในคดีอาชญากรรมที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด กับอีกหลายพันรายที่ตายในสถานการณ์ที่หาคำอธิบายไม่ได้ อ้างอิงจากข้อมูลของตำรวจ
แม้จะมีคำเตือนจากบรรดากลุ่มสิทธิมนุษยชนว่าดูเตอร์เตอาจเข้าข่ายบงการอาชญากรรมต่อมนุษยชาติ แต่ผู้นำรายนี้ก็ยังคงได้รับคะแนนนิยมอย่างล้นหลามในฟิลิปปินส์
