เอเจนซีส์ - หน่วยงานด้านสิทธิมนุษยชนกล่าวหาตำรวจฟิลิปปินส์ว่าจัดฉากสร้างหลักฐานเท็จเพื่อสร้างความชอบธรรมในการวิสามัญฯ จากนโยบายทำสงครามยาเสพติดของรัฐบาล ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 7,000 ราย ทั้งยังชี้ว่าประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตอร์เต จะต้องรับผิดชอบในท้ายที่สุด
“ฮิวแมน ไรต์วอตช์” ระบุในวันพฤหัสบดี (2 มี.ค.) ว่าผู้นำฟิลิปปินส์และบรรดาเจ้าหน้าที่ระดับสูงที่คอยยุยงและส่งเสริมการสังหารผู้ต้องสงสัยคดียาเสพติด อาจมีความผิดฐานก่ออาชญากรรมต่อมนุษยชาติ
รายงานขององค์กรดังกล่าวยังระบุด้วยว่า สหประชาชาติควรจะก่อตั้งหน่วยงานสืบสวนอิสระเพื่อกำหนดความรับผิดชอบและเพื่อให้แน่ใจว่าใครที่ต้องรับผิดชอบ
“ฮิวแมน ไรต์วอตช์” บอกว่า ตำรวจฟิลิปปินส์ดำเนินการวิสามัญฆาตกรรมผู้ต้องสงสัยคดียาเสพติด จากนั้นก็อ้างว่าเป็นการป้องกันตัว โดยเอาปืน กระสุน หรือยาเสพติดไปยัดไว้ที่ศพผู้ตาย
“การสืบสวนของเราในเรื่องสงครามยาเสพติดที่ฟิลิปปินส์นั้น พบว่าตำรวจมักจะสังหารผู้ต้องสงสัยอย่างเลือดเย็น แล้วก็จะปิดบังการกระทำผิดของพวกเขาด้วยการยัดยา-ยัดปืนไว้ในสถานที่เกิดเหตุ บทบาทของประธานาธิบดีดูเตอร์เตในการสังหารเหล่านี้ ทำให้เขามีส่วนรับผิดชอบอย่างมากต่อการตายของคนหลายพัน” ปีเตอร์ บุคเคต ผู้เขียนรายงาน ระบุ
“ฮิวแมน ไรต์วอตช์” ระบุว่า มือปืนสวมหน้ากากเข้ามามีส่วนในการสังหารซึ่งดูเหมือนจะมีการทำงานอย่างใกล้ชิดกับตำรวจด้วย ทำให้เกิดความเคลือบแคลงสงสัยในข้ออ้างของรัฐบาลที่ว่ากลุ่มพลเรือนติดอาวุธหรือแก๊งคู่อริอยู่เบื้องหลังการสังหาร แถมในหลายกรณีที่ได้สืบสวนยังพบด้วยว่า ผู้ต้องสงสัยที่ถูกตำรวจจับกุมมักจะถูกพบเป็นศพในเวลาต่อมา โดยทางตำรวจมักระบุว่าพบศพหรือเป็นการตายระหว่างสืบสวน
รายงานฉบับนี้ยังมีคำให้สัมภาษณ์ของชาวบ้านในกรุงมะนิลา 28 ราย ที่เป็นสมาชิกในครอบครัวของผู้ตกเป็นเหยื่อ เป็นพยานรู้เห็นการวิสามัญฯ เป็นนักข่าวและนักเคลื่อนไหวด้านสิทธิมนุษยชน นอกจากนี้ยังมีการอ้างอิงถึงรายงานเบื้องต้นของตำรวจ ซึ่งทาง “ฮิวแมน ไรต์วอตช์” ระบุว่า จากการวิจัยค้นคว้าในภาคสนามพบว่ารายงานของตำรวจมักจะขัดแย้งกับความจริงในที่เกิดเหตุเป็นประจำ