เอเอฟพี - รัฐบาลฮ่องกงมีคำสั่งตรวจเข้มไข่ที่นำเข้าจากสหภาพยุโรป (อียู) หลังสุ่มตรวจพบมีการปนเปื้อนสารเคมีกำจัดแมลงในระดับสูง ด้านคณะกรรมาธิการยุโรปเรียกประชุมฉุกเฉินเพื่อหาทางแก้ไขวิกฤตไข่ปนเปื้อนที่แพร่กระจายใน 15 ประเทศอียู
บรรดารัฐมนตรีและผู้ตรวจสอบความปลอดภัยอาหารทั่วอียูได้นัดประชุมกันในวันที่ 26 ก.ย. เพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหาสารพิษฟีโพรนิล (fipronil) ที่ปนเปื้อนในไข่
ไข่หลายล้านฟองถูกเรียกเก็บจากชั้นวางในซูเปอร์มาร์เก็ตทั่วยุโรป และมีการสั่งปิดฟาร์มไก่อีกหลายสิบแห่ง หลังมีการเปิดเผยข้อมูลเมื่อวันที่ 1 ส.ค. ว่า พบไข่ปนเปื้อนสารฟีโพรนิลที่เป็นอันตรายต่อมนุษย์
เบลเยียม เนเธอร์แลนด์ และ เยอรมนี ซึ่งเป็น 3 ประเทศศูนย์กลางวิกฤตไข่ปนเปื้อน ต่างกล่าวโทษและตั้งคำถามซึ่งกันและกันว่ารับรู้ปัญหานี้มานานแค่ไหนแล้ว
“การกล่าวโทษและประณามกันเองไม่ได้ช่วยอะไรเลย และผมต้องการให้หยุดเสียที” วีเทนิส อันดริอูไคทิส กรรมาธิการยุโรปฝ่ายสาธารณสุขและความปลอดภัยอาหาร ให้สัมภาษณ์กับเอเอฟพี
ฟีโพรนิลเป็นสารเคมีที่นิยมใช้กำจัดเห็บ หมัด และไรในสัตว์ แต่ห้ามใช้ในอุตสาหกรรมอาหารตามกฎหมายอียู
แม้อียูจะยืนยันว่าสารชนิดนี้ไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพของมนุษย์ แต่ องค์การอนามัยโลก (WHO) เตือนว่า หากรับประทานเข้าไปในปริมาณมากจะเป็นพิษต่อตับ ไต และต่อมไทรอยด์ได้
15 ประเทศอียูที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาไข่ปนเปื้อนสารพิษ ได้แก่ เบลเยียม เนเธอร์แลนด์ เยอรมนี ฝรั่งเศส สวีเดน อังกฤษ ออสเตรีย ไอร์แลนด์ อิตาลี ลักเซมเบิร์ก โปแลนด์ โรมาเนีย สโลวาเกีย สโลวีเนีย และ เดนมาร์ก รวมถึงอีก 1 ประเทศนอกอียู คือ สวิตเซอร์แลนด์
ล่าสุด มีสัญญาณเตือนว่าวิกฤตครั้งนี้อาจลุกลามไปยังภูมิภาคอื่นๆ ของโลก หลังจากบรัสเซลส์ประกาศว่า “ฮ่องกง” นำเข้าไข่ปนเปื้อนบางส่วนไปจากเนเธอร์แลนด์ และกลายเป็นสถานที่แรกในเอเชียที่ได้รับผลกระทบ
โซเฟีย ชาน รัฐมนตรีสาธารณสุขฮ่องกง ยืนยันวันนี้ (12) ว่า ทางการได้เพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบไข่ที่นำเข้าจากยุโรป
“ศูนย์ความปลอดภัยอาหาร (CFS) จะตรวจสอบไข่ที่นำเข้าจากยุโรปอย่างเข้มงวด ทั้งระหว่างขั้นตอนการนำเข้า และการวางจำหน่าย” ชาน กล่าว
วันศุกร์ที่แล้ว (4) ซีเอฟเอส ตรวจพบตัวอย่างไข่ 2 ฟองจากเนเธอร์แลนด์ที่มีสารฟีโพรนิลเกินมาตรฐานที่กฎหมายท้องถิ่นกำหนด
“ซีเอฟเอสได้แจ้งไปยังผู้ขายให้ทราบถึงปัญหา และขอให้มีการหยุดจำหน่าย พร้อมถอดสินค้าออกจากชั้นวางทันที” คำแถลงผ่านเว็บไซต์ระบุ
ล่าสุด ในยุโรปยังคงมีรายงานพบไข่ปนเปื้อนในท้องตลาดรายวัน
รัฐบาลเดนมาร์กระบุวานนี้ (11) ว่า พบไข่กวนน้ำหนัก 2 ตัน ที่ปนเปื้อนสารฟีโพรนิล ทำให้ปริมาณไข่ปนเปื้อนเพิ่มขึ้นเป็น 22 ตัน และส่วนใหญ่นำเข้ามาจากเบลเยียม
ด้านโปแลนด์ก็ตรวจพบสารพิษในไข่ที่นำเข้าจากเยอรมนีราว 40,000 ฟองเช่นกัน
สเตฟาน ทราแวร์ต รัฐมนตรีกระทรวงเกษตรฝรั่งเศส ยอมรับว่า มีการจำหน่ายไข่ปนเปื้อนจากเบลเยียมและเนเธอร์แลนด์ ไปแล้วเกือบ 250,000 ฟอง ตั้งแต่เดือน เม.ย. แต่ด้วยวัฒนธรรมการกินของชาวฝรั่งเศสทำให้เชื่อว่ามีความเสี่ยงต่อผู้บริโภค “น้อยมาก”