รอยเตอร์ - กาตาร์ในวันพุธ (9 ส.ค.) เปิดตัวมาตรการหนึ่งซึ่งเปิดทางพลเมืองจาก 80 ชาติทั่วโลก เดินทางเข้าประเทศโดยไม่ต้องขอวีซ่า เพื่อส่งเสริมการขนส่งทางอากาศและการท่องเที่ยว หลังจากพวกเขาถูกเหล่าชาติเพื่อนบ้านอาหรับคว่ำบาตรมานานกว่า 2 เดือน
ในบรรดา 80 ชาตินั้น ประกอบด้วยยุโรปหลายสิบปรเทศ ส่วนอื่นๆ ก็มีอย่าง อินเดีย, เลบานอน, นิวซีแลนด์, แอฟริกาใต้และสหรัฐฯ โดยพลเมืองของประเทศเหล่านี้เพียงแค่ยื่นพาสปอร์ตอย่างถูกต้องตามกฎหมายสำหรับเดินทางเข้าไปยังกาตาร์ เจ้าภาพศึกฟุตบอลโลกปี 2022
ทั้งนี้ พลเมืองของ 33 ประเทศ จะได้รับอนุญาตให้พำนักอยู่ในกาตาร์เป็นเวลา 180 วัน ส่วนอีก 47 ชาติที่เหลือ ได้รับอนุญาตสูงสุด 30 วัน
“มาตรการยกเว้นวีซ่าจะทำให้กาตาร์กลายเป็นประเทศที่เปิดกว้างมากที่สุดในภูมิภาค” ฮัสซัม อัล-อิบราฮิม ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาการท่องเที่ยว ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศกาตาร์แถลงกับผู้สื่อข่าวในกรุงโดฮา
ซาอุดีอาระเบีย, อียิปต์, บาห์เรน และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ กำหนดมาตรการคว่ำบาตร กาตาร์ เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน และตัดการเชื่อมโยงด้านการขนส่งทั้งหมดกับโดฮา โดยกล่าวหาว่ากาตาร์สนับสนุนก่อการร้ายและมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับอิหร่าน
กาตาร์ ปฏิเสธข้อกล่าวหา และนับตั้งแต่ถูกคว่ำบาตร โดฮาพยายามหาทางเสริมเสริมความสัมพันธ์ทางการทูตและการค้ากับประเทศอื่นๆ นอกภูมิภาคอ่าวเปอร์เซีย และโครงการฟรีวีซ่าเป็นหนึ่งในมาตรการล่าสุดที่มีเป้าหมายเตรียมตัวสำหรับเศรษฐกิจที่ต้องพึ่งพาตนเองในระยะยาว แม้ว่ามีความพยายามคลี่คลายความแตกร้าวจากชาติคนกลางอย่างคูเวต
โดฮา ได้รับการสนับสนุนด้านอาหารจากตุรกีและอิหร่าน และเช่าเส้นทางขนส่งสินค้าทางเรือใหม่ผ่านโอมาน เพื่อนำเข้าวัสดุก่อสร้าง แต่ยอดจองห้องพักตามโรงแรมต่างๆ ลดลงอย่างมาก หลัง ซาอุดีอาระเบีย แหล่งต้นทางด้านการท่องเที่ยว ห้ามเดินทางไปยังกาตาร์
พวกนักเดินทางจาก 6 ชาติสมาชิกสภาความร่วมมือประเทศในอ่าวเปอร์เซีย คิดเป็นอัตราส่วนเกือบครึ่งหนึ่งของนักเดินทางไปที่เยือนกาตาร์ ขณะที่มาตราการระงับความเชื่อมโยงทางอากาศของ 4 ชาติอาหรับ ส่งผลกระทบต่อเที่ยวบินต่างๆ ของกาตาร์ แอร์เวย์ส ราว 25 เปอร์เซ็นต์
เมื่อวันที่ 3 สิงหาคม กาตาร์เห็นชอบกฎหมายเปิดทางให้ผู้พำนักถาวรบางส่วนมีสิทธิ์ได้รับประโยชน์จากระบบสวัสดิการของรัฐ ในนั้นรวมถึงด้านการศึกษาและดูแลสุขภาพ ซึ่งนับเป็นครั้งแรกของประเทศแห่งนี้
ภายใต้กฎหมายดังกล่าวบุตรของสตรีกาตาร์ที่แต่งงานกับชาวต่างชาติและบุคคลที่มีความรู้ความสามารถพิเศษซึ่งเป็นที่ต้องการของรัฐ จะได้รับผลประโยชน์จากสถานะใหม่ดังกล่าว
