รอยเตอร์ – ผู้นำของรวันดา พอล คากาเม ได้รับชัยชนะอย่างถล่มทลายในการเลือกตั้งประธานาธิบดีที่ทำให้เขาดำรงตำแหน่งต่อได้เป็นสมัยที่สาม ขยายเวลาครองอำนาจ 17 ปีของเขา
คากาเมได้รับความชื่นชมจากนานาชาติจากการชักนำการฟื้นฟูสันติภาพและเศรษฐกิจอย่างรวดเร็วในประเทศแถวแอฟริกากลางแห่งนี้นับตั้งแต่การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์เมื่อปี 1994 ที่มีชาวทุตซีและชาวฮูตูเสียชีวิตประมาณ 800,000 คน
แต่เขาก็เผชิญกับคำวิจารณ์มากขึ้นจากสิ่งที่นักวิจารณ์และกลุ่มสิทธิระบุว่าเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน ปิดปากสื่ออิสระ และปราบปรามฝ่ายตรงข้ามทางการเมือง
หลังจากการนับคะแนนโหวตแล้ว 80 เปอร์เซ็นต์ อดีตผู้นำกองโจรวัย 59 ปีผู้นี้ได้รับคะแนนเสียง 98.66 เปอร์เซ็นต์ ชาร์ลส์ มันยาเนซา เลขาธิการบริหารคณะกรรมการเลือกตั้งแห่งชาติ บอกในการแถลงข่าว
“เราคาดการณ์ถึงแม้ว่าเราจะนับคะแนนครบ 100 เปอร์เซ็นต์แล้ว ก็จะไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ ” เขากล่าว
คณะกรรมการฯคาดการณ์มีผู้ออกมาใช้สิทธิ์ 90 เปอร์เซ็นต์จากจำนวนประชากรทั้งหมด 12 ล้านคนในประเทศนี้ ในการเลือกตั้งที่มีผู้สมัครฝ่ายค้านเพียงคนเดียวเท่านั้นคือ แฟรงค์ ฮาบิเนซา ซึ่งเป็นผู้สมัครอิสระ
คากาเมที่ใช้สิทธิของเขาในหน่วยเลือกตั้งเขตคิกาลี รูกันกาเมื่อเช้าวันศุกร์ (4) ระบุว่า เขาจะพยายามรักษาการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศเล็กๆ แห่งนี้
“นี่เป็นอีก 7 ปีในการดูแลประเด็นต่างๆ ที่ส่งผลกระทบต่อชาวรวันดาและทำให้แน่ใจว่า เรากำลังจะเป็นชาวรวันกาที่กำลังพัฒนา (ทางเศรษฐกิจ” เขากล่าวในการปราศรัยถ่ายทอดสดผ่านทางโทรทัศน์
ภายใต้การปกครองของเขา ผู้เห็นต่างบางคนถูกสังหารหลังจากที่พวกเขาหลบหนีไปต่างแดน ในคดียังไม่มีการคลีคลาย รัฐบาลปฏิเสธว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ
คากาเม ผู้บัญชาการที่นำกองกำลังกบฏทุตซีเข้าสู่รวันดาเพื่อยุติการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์เมื่อปี 1994 สั่งห้ามการใช้คำศัพท์ชนเผ่าหลังจากเป็นประธานาธิบดี
เขาชนะการเลือกตั้งครั้งที่แล้วด้วยคะแนนเสียง 93 เปอร์เซ็นต์และในระหว่างการหาเสียงเพื่อดำรงตำแหน่งต่ออีก 7 ปี เขากล่าวว่า เขาต้องการชัยชนะสมบูรณ์แบบ
