รอยเตอร์ - ผู้ประท้วงราว 400 คน รวมตัวกันที่ลาน Speakers' Corner ของสิงคโปร์ ในวันนี้ (15) เรียกร้องการสืบสวนอย่างอิสระในเรื่องที่ว่า นายกรัฐมนตรี ลี เซียนลุง ใช้อำนาจโดยมิชอบหรือไม่ในการต่อสู้กับพี่น้องของเขาเกี่ยวกับสิ่งที่จะทำกับบ้านของบิดา
ทายาทของ ลี กวนยู นายกรัฐมนตรีคนแรกของสิงคโปร์ ที่เสียชีวิตในปี 2015 มีความเห็นขัดแย้งอย่างรุนแรงในเรื่องที่ว่าจะรื้อถอนบ้านของครอบครัวที่ 38 Oxley Road หรือไม่ หรือจะปล่อยให้รัฐบาลตัดสินใจว่ามันควรกลายเป็นสถานที่ทางมรดกหรือไม่
ความขัดแย้งในครอบครัวที่เป็นแก่นกลางสถาบันของสิงคโปร์ก่อให้เกิดคำถามอึดอัดใจในนครรัฐแห่งนี้ที่ภาคภูมิใจในการเป็นรากฐานแห่งเสถียรภาพในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ภาพความขัดแย้งพบเห็นได้ไม่บ่อยนักแต่ประเด็นนี้ทำให้คนบางส่วนในการชุมนุมในวันนี้ (15) ได้มีโอกาสระบายความโกรธเกรี้ยวที่มีต่อครอบครัวนี้ที่สร้าง 2 ใน 3 ผู้นำของสิงคโปร์นับตั้งแต่ได้รับเอกราชในปี 1965
“สิงคโปร์เป็นของชาวสิงคโปร์ไม่ใช่ของตระกูลลี” ป้ายขนาดใหญ่อันหนึ่งบนเวทีที่ Speaker's Corner ลานสำหรับให้ผู้คนแสดงความคิดเห็นที่ตั้งอยู่ในสวนสาธารณะใกล้เขตทางการเงินของเมืองนี้ ระบุ
ตามมาตรฐานของสิงคโปร์ การมีผู้ชุมนุมวัยกลางคนราว 400 คน ถือว่าเป็นการชุมนุมใหญ่ผิดปกติสำหรับการประท้วงต่อต้านรัฐบาล การชุมนุมนี้จำเป็นต้องได้รับการอนุญาตจากทางการเสียก่อนแต่กลับไม่มีตำรวจปรากฏให้เห็นในที่นี้
ฝ่ายค้านกระแสหลักซึ่งมีที่นั่งเพียงหยิบมือในรัฐสภาแทบไม่ได้หาประโยชน์ทางการเมืองจากความขัดแย้งนี้ที่สร้างความตกตะลึงให้กับชาวสิงคโปร์นับตั้งแต่มันปะทุขึ้นในช่วงกลางเดือนมิถุนายน
อย่างไรก็ตาม ผู้จัดการประท้วงในวันนี้ (15) มองว่า การอภิปรายในสภาเมื่อต้นเดือนเป็นการกลบเกลื่อนความผิด หลังจากที่ ลี เซียนลุง ประกาศว่า เขาไม่พบหลักฐานที่สนับสนุนข้อกล่าวหาของพี่น้องของเขาที่ว่า เขาใช้อำนาจโดยมิชอบ
“คดีเมื่อไม่นานมานี้ระหว่าง ลี เซียนลุง และพี่น้องของเขาไม่ใช่แค่เรื่องความตั้งใจของ ลี กวนยู” ออสมาน ซุไลมาน นักธุรกิจและนักเคลื่อนไหวทางการเมือง บอกกับฝูงชน
“มีข้อกล่าวหาการใช้อำนาจโดยมิชอบ และข้อกล่าวหาดังกล่าวไม่ได้มาจาก ทอม ดิก หรือ แฮรี แต่มันจากพี่น้องของนายกรัฐมนตรีซึ่งเข้าถึงข้อมูลที่ไม่ได้เปิดเผยต่อสาธารณะ” โอมาน กล่าวกับผู้ชุมนุม
คณะผู้จัดงานต้องการให้ประธานาธิบดีสิงคโปร์ จัดตั้งการสืบสวนอย่างอิสระ ขณะที่ผู้ขึ้นมาพูดบางคนหลังจากนั้นหันไปให้ความสนใจกับการเลือกตั้งประธานาธิบดีที่กำลังจะมาถึง