น้ำมัน-ทองคำขึ้น หุ้นสหรัฐฯ ร่วงหนักผิดหวังข้อมูลแรงงานและความตึงเครียดเกาหลี

มาร์เกตวอตช์/รอยเตอร์ - ราคาน้ำมันขยับขึ้นในวันพฤหัสบดี (6 ก.ค.) หลังพบสต๊อกเชื้อเพลิงสหรัฐฯลดลงมากสุดในรอบ 5 สัปดาห์ ส่วนวอลล์สตรีทดิ่งแรง ผิดหวังข้อมูลภาคแรงงาน แต่ความเคลื่อนไหวดังกล่าวของตลาดทุน ดันทองคำปิดบวก

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนสิงหาคม เพิ่มขึ้น 39 เซ็นต์ ปิดที่ 45.52 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนกันยายน เพิ่มขึ้น 32 เซ็นต์ ปิดที่ 48.11 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานของสหรัฐฯ (อีไอเอ) เผยแพร่รายงานในวันพฤหัสบดี (6 ก.ค.) เลื่อนมา 1 วัน เนื่องจากวันอังคาร (4 ก.ค.) เป็นวันหยุดเนื่องในวันชาติอเมริกา ระบุว่าคลังน้ำมันดิบสำรองของประเทศในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน ลดลงถึง 6.3 ล้านบาร์เรล

ตัวเลขดังกล่าวนับเป็นการลดลดของสต๊อกน้ำมันดิบมากที่สุดนับตั้งแต่สัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 26 พฤษภาคม โดยหนนั้นลดลง 6.4 ล้านบาร์เรล ขณะที่นักวิเคราะห์คาดหมายว่าจะลดลงแค่ราวๆ 1.6 ล้านบาร์เรล

นอกจากนี้แล้ว รายงานของอีไอเอยังพบว่าในสัปดาห์เดียวกัน คลังเบนซินสำรองก็ลดลงเช่นกันที่ 3.7 ล้านบาร์เรล ส่วนสต๊อกน้ำมันกลั่น ประกอบด้วยดีเซลและน้ำมันทำความร้อน ลดลง 1.9 ล้านบาร์เรล

ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯในวันพฤหัสบดี (6 ก.ค.) ร่วงลงแรง นักลงทุนผิดหวังข้อมูลตลาดแรงงาน ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับความตึงเครียดที่สูงขึ้นในคาบสมุทรเกาหลี

ดาวโจนส์ ลดลง 158.13 จุด (0.74 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 21,320.04 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 22.79 จุด (0.94 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,409.75 จุด แนสแดค ลดลง 61.40 จุด (1.00 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 6,089.46 จุด

รายงานการจ้างงานแห่งชาติ เอดีพี (ADP National Employment Report) ระบุว่านายจ้างเอกชนของสหรัฐฯ มีการจ้างงานเพิ่มเติม 158,000 อัตรา ต่ำกว่าตัวเลข 185,000 อัตราตามที่คาดหมายไว้ บ่งชี้ว่าตลาดแรงงานหยุดชะงัก เนื่องจากมันใกล้เข้าสู่ระดับการจ้างงานเต็มกำลังแล้ว

ในขณะเดียวกัน ข้อมูลอีกชุดพบว่ายอดผู้เข้ารับสิทธิประโยชน์คนว่างงานรายสัปดาห์ เพิ่มขึ้น 3 สัปดาห์ติดต่อกัน เป็น 248,000 ราย ขณะที่คาดหมายไว้เพียง 243,000 ราย

นอกเหนือจากที่ข้อมูลดังกล่าวจะบ่งชี้ถึงภาวะตึงตัวของตลาดแรงงานแล้ว รายงานยังแย้มให้เห็นถึงแนวโน้มที่อ่อนแอของตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรกรรมรายเดือน ซึ่งมีกำหนดเผยแพร่ในวันศุกร์ (7 ก.ค.)

วิกฤตความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์เป็นอีกปัจจัยที่กัดเซาะความเชื่อมั่นของนักลงทุน หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯประกาศในวันพฤหัสบดี (6 ก.ค.) จะเผชิญหน้ากับเกาหลีเหนืออย่างแข็งกร้าว หลังเปียงยางทดสอบขีปนาวุธข้ามทวีป และเรียกร้องประเทศต่างๆ แสดงให้เกาหลีเหนือเห็นว่าผลสนองของโครงการขีปนาวุธนั้นจะเป็นเช่นไร

การร่วงลงของตลาดทุน ผลักให้นักลงทุนหันถือครองสินทรัพย์เสี่ยงต่ำ ประกอบกับดอลลาร์อ่อนค่า ส่งผลให้ราคาทองคำในวันพฤหัสบดี (6 ก.ค.) ปิดในแดนบวก โดยราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 1.60 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,223.30 ดอลลาร์ต่อออนซ์