xs
xsm
sm
md
lg

โป๊ปฟรานซิสหนุนพระคาร์ดินัลคนสนิท กลับออสเตรเลียสู้คดีละเมิดทางเพศ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

พระคาร์ดินัล จอห์น เพลล์ ขณะร่วมงานแถลงข่าวเปิดตัวประธานธนาคารวาติกัน IOR ที่นครรัฐวาติกัน เมื่อวันที่ 9 ก.ค. ปี 2014 (แฟ้มภาพ)
เอเอฟพี/รอยเตอร์/เอเจนซีส์ - พระคาร์ดินัล จอร์จ เพลล์ ซึ่งเป็นคนสนิทของโป๊ปฟรานซิส แถลงในวันพฤหัสบดี (29 มิ.ย.) ว่า เขาจะลาหยุดงานในตำแหน่งเทียบเท่ากับรัฐมนตรีคลังของสำนักสมเด็จพระสันตะปาปา และเดินทางกลับไปออสเตรเลีย เพื่อสู้คดีที่เขาถูกตั้งข้อหาก่ออาชญากรรมทางเพศหลายกระทง ซึ่งเท่ากับว่า กรณีอื้อฉาวระดับโลกเรื่องบาทหลวงในหลายๆ ประเทศ มีพฤติการณ์ล่วงละเมิดผู้เยาว์ แผ่ลามเข้าไปถึงใจกลางของวาติกัน

ไม่กี่ชั่วโมงหลังจากกลายเป็นบาทหลวงคาทอลิกระดับสูงสุดที่เผชิญข้อกล่าวหาล่วงละเมิดทางเพศเช่นนี้ เพลล์ ได้ออกมาแถลงว่า เขาตกเป็นเหยื่อของ “การเข่นฆ่าทำลายเกียรติคุณอย่างไม่ยอมเลิกรา” และประกาศที่จะกอบกู้ชื่อเสียงของเขาจากนั้นก็จะกลับมาทำงานอีก

“ผมกำลังรอคอยที่ในที่สุดผมก็จะได้ขึ้นให้การในศาล ผมเป็นผู้บริสุทธิ์ในทุกๆ ข้อกล่าวหาเหล่านี้” พระคาร์ดินัลวัย 76 ปี กล่าวในที่ประชุมแถลงข่าว ณ นครวาติกัน “พวกเขาผิดพลาดแล้ว ความคิดทั้งหมดเรื่องการล่วงละเมิดทางเพศนี่เป็นสิ่งที่ผมรังเกียจขยะแขยง”

เพลล์ ซึ่งเมื่อพิจารณากันอย่างไม่เป็นทางการแล้ว จัดเป็นบุคคลสำคัญหมายเลข 3 ของสำนักวาติกัน กล่าวด้วยว่า เขามีการติดต่ออย่างใกล้ชิดกับพระสันตปาปาฟรานซิส

ทางด้านสำนักวาติกันก็ได้ออกคำแถลงแสดงความสนับสนุนอย่างแข็งแรงต่อผู้ดำรงตำแหน่งเสมือนเป็นรัฐมนตรีคลังของตนผู้นี้ โดยกล่าวว่า คณะเจ้าหน้าที่ซึ่งทำงานอยู่กับเพลล์จะเดินหน้างานของเขาต่อไปในระหว่างที่เขาลาหยุด พร้อมกับระบุด้วยว่าโป๊ปฟรานซิสนั้นนับถือยกย่อง “ความซื่อสัตย์” และ “การอุทิศตนอย่างกระตือรือร้น” ของพระคาร์ดินัลชาวออสเตรเลียผู้นี้ ในการทำงานเรื่องการปฏิรูปด้านการคลังของคริสตศาสนจักรคาทอลิก

“สำนักพระสันตะปาปาขอแสดงความเคารพในระบบยุติธรรมของออสเตรเลีย ซึ่งจะต้องตัดสินคุณค่าของคำถามที่ถูกหยิบยกขึ้นมาเหล่านี้” คำแถลงนี้ระบุ

“ในเวลาเดียวกัน เป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องระลึกว่าพระคาร์ดินัลเพลล์ได้ประณามอย่างเปิดเผย และครั้งแล้วครั้งเล่าต่อพฤติการณ์อันไร้ศีลธรรมและไม่สามารถยอมทนได้ของการละเมิดซึ่งกระทำต่อผู้เยาว์ รวมทั้งในอดีตที่ผ่านมาก็ได้ให้ความร่วมมือกับทางการผู้รับผิดชอบของออสเตรเลีย …” คำแถลงบอกพร้อมกับแจกแจงด้วยว่า เพลล์ให้ความสนับสนุนคณะกรรมการของพระสันตะปาปาที่มุ่งปกป้องคุ้มครองผู้เยาว์ รวมทั้งมีส่วนในการนำเอาระบบและวิธีการปกป้องคุ้มครองผู้เยาว์และช่วยเหลือเหยื่อผู้ถูกละเมิดมาใช้ในออสเตรเลีย
(แฟ้มภาพ) พระคาร์ดินัลจอร์จ เพลล์  ซึ่งเป็นคนสนิทของโป๊ปฟรานซิส กำลังเทศนาในพิธีมิสซา ณ มหาวิหารเซนต์ แมรี ในซิดนีย์ เมื่อหลายสิบปีก่อน
น้ำเสียงของคำแถลงฉบับนี้ สะท้อนถึงการแสดงความเห็นของโป๊ปฟรานซิสในปีที่แล้วที่ว่า เพลล์ ซึ่งเป็นที่ปรึกษาใกล้ชิดผู้หนึ่งของพระองค์ ไม่ควรตกเป็นเหยื่อของ “การตัดสินโดยสื่อ การตัดสินโดยอิงอาศัยข่าวลือ”

การแถลงของเพลล์และคำแถลงของวาติกันออกมา หลังจากก่อนหน้านั้นในวันเดียวกัน ตำรวจรัฐวิกตอเรียของออสเตรเลีย แจ้งว่า เพลล์ ซึ่งเคยเป็นบาทหลวงในออสเตรเลียเมื่อช่วงทศวรรษ 1970 “ถูกตั้งข้อหาจากพฤติกรรมล่วงละเมิดทางเพศในอดีต” โดยมีโจทก์ยื่นฟ้องหลายรายด้วยกัน

ทั้งนี้ ตำรวจยังไม่เปิดเผยว่า เพลล์ ตกเป็นผู้ต้องหาในความผิดสถานใดบ้าง และไม่ระบุอายุของเหยื่อ รวมถึงช่วงเวลาในการก่ออาชญากรรม แต่สั่งให้เขามาปรากฏตัวในศาลเมืองเมลเบิร์นในวันที่ 18 กรกฎาคม

เมื่อปีที่แล้ว เพลล์ได้บอกกับคณะสอบสวนของรัฐบาลออสเตรเลีย ว่า ศาสนจักรคาทอลิกในออสเตรเลียได้ทำความผิดพลาดชนิด “เป็นความหายนะ” จากการปฏิเสธไม่เชื่อพวกเด็กๆ ที่ถูกละเมิด และใช้วิธีโยกย้ายบาทหลวงที่มีพฤติการณ์ละเมิด รวมทั้งยังพึ่งพาอาศัยมากเกินไปต่อความเห็นข้อเสนอแนะของบรรดาบาทหลวงในการแก้ไขปัญหานี้

แต่เขาปฏิเสธที่จะเดินทางกลับมาให้ปากคำที่ออสเตรเลีย โดยบอกว่า “ป่วยหนัก” จนไม่สามารถเดินทางได้ และขอให้การจากกรุงโรมแทน ซึ่งทำให้เหยื่อหลายรายรู้สึกไม่พอใจ

จากนั้นในเดือนกรกฎาคมปีที่แล้ว ตำรวจวิกตอเรีย ยืนยันว่า ตัวเพลล์เองก็กำลังถูกสอบสวนเนื่องจากต้องสงสัยว่าละเมิดทางเพศผู้เยาว์ด้วย

พระสันตะปาปาฟรานซิสนั้น ทรงให้สัญญาว่าจะปลดบาทหลวงทุกรูปที่กระทำผิดจริง หรือพยายามปกปิดความผิดเอาไว้ แต่ความพยายามของพระองค์ที่จะขจัดพฤติกรรมล่วงละเมิดทางเพศในคริสตจักรต้องเผชิญกับอุปสรรคหลายอย่าง

มารี คอลลินส์ หนึ่งในคณะกรรมการของพระสันตะปาปา ซึ่งทำหน้าที่ไต่สวนการล่วงละเมิดทางเพศ ตัดสินใจออกเมื่อต้นปีนี้ โดยอ้างถึงกระแสต่อต้านการเปลี่ยนแปลงภายในวาติกันที่ “น่าละอาย”

พฤติกรรมล่วงละเมิดทางเพศของบาทหลวงคาทอลิกเริ่มกลายเป็นข่าวครึกโครมในปี 2002 หลังมีการเปิดโปงว่าพระบิชอปหลายรูปในเมืองบอสตันของสหรัฐฯ ใช้วิธีย้ายบาทหลวงที่กระทำความผิดออกจากสังฆมณฑลหนึ่งไปยังอีกสังฆมณฑลหนึ่งเรื่อยไป โดยไม่ขับไล่ออกจากสมณเพศ หลังจากนั้น มาพฤติกรรมอื้อฉาวของนักบวชคาทอลิกก็ถูกตีแผ่ในหลายประเทศทั่วโลก และมีการจ่ายเงินเยียวยาให้แก่เหยื่อไปแล้วหลายสิบล้านดอลลาร์

ในช่วงไม่กี่ปีมานี้มีการเปิดโปงเรื่องราวของเด็กที่ถูกบาทหลวงล่วงละเมิดทางเพศหลายพันกรณี เนื่องจากทางการสนับสนุนให้ผู้ที่เคยตกเป็นเหยื่อออกมาพูดความจริง


กำลังโหลดความคิดเห็น