เอเจนซีส์ - โฆษกกองทัพฟิลิปปินส์เปิดเผยว่า ทหารอเมริกันได้ไปยังบริเวณใกล้กับเมืองมาราวี ทางตอนใต้ของประเทศแล้ว แต่ไม่ได้เข้าร่วมการสู้รบกับกลุ่มติดอาวุธมุสลิมที่ยึดครองพื้นที่บางส่วนของเมืองดังกล่าวมานานกว่า 3 สัปดาห์
“มีบุคลากรของสหรัฐฯ ที่พกอุปกรณ์ปฏิบัติการ ได้มาให้ข้อมูลเกี่ยวกับสถานการณ์แก่ทหารของเรา” พลจัตวา เรสติตูโต พาดิลลา กล่าวในการแถลงข่าว
“ผมไม่รู้จำนวนที่แน่ชัดและภารกิจของทหารอเมริกัน พวกเขาได้รับอนุญาตให้พกอาวุธปืนเพื่อป้องกันตัวเอง แต่พวกเขาไม่ได้รับอนุญาตให้สู้รบ พวกเขาทำได้แค่ให้การสนับสนุน” เขากล่าว
กองทัพฟิลิปปินส์ได้ระบุไว้ก่อนหน้านี้ว่า อเมริกาได้ให้ความช่วยเหลือด้านเทคนิค เพื่อยุติการยึดเมืองมาราวีของพวกกบฏมุสลิมที่เป็นลูกสมุนของกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส)
ยังไม่ชัดเจนว่าทหารอเมริกันอยู่ใกล้พื้นที่สู้รบมากแค่ไหน แต่กองทัพฟิลิปปินส์เคยบอกไว้ก่อนหน้านี้ว่า พวกเขาเหล่านี้มาจากกองทหารหน่วยรบพิเศษที่ประจำอยู่ในเมืองซัมโบอังกา
ด้านสถานทูตสหรัฐฯ ในกรุงมะนิลา ไม่ได้ออกมาแสดงความเห็นใดๆ
เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ในวอชิงตัน ผู้ไม่ขอเปิดเผยชื่อ ระบุว่า อเมริกาได้ส่งเครื่องบินตรวจตรา P-3 พร้อมด้วยโดรนสำหรับรวบรวมข่าวกรอง อย่างไรก็ตาม โดรนลำดังกล่าวได้ตกไปแล้วเมื่อวันเสาร์ หลังจากขาดการติดต่อสื่อสารกับเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ
ในวันพุธ (14 มิ.ย.) กองกำลังรัฐบาลฟิลิปปินส์ได้ถล่มที่มั่นของฝ่ายกบฏมุสลิมในเมืองมาราวีด้วยการยิงของรถถัง สามารถเห็นกลุ่มควันลอยขึ้นเหนือเมืองดังกล่าว ทั้งยังได้ยินเสียงปืนของพลซุ่มยิงในบางครั้งด้วย
การต่อสู้ในเมืองมาราวีนั้นยืดเยื้อมาถึงวันที่ 23 แล้ว แต่ก็ยังไม่มีวี่แววว่าการต่อสู้จะจบลงในเร็ววัน
“ไม่มีกำหนดเส้นตายอีกต่อไปแล้ว มันอาจจะต้องใช้เวลาอีกหน่อย” พาดิลลา พูดถึงเรื่องที่กองทัพเคยรับปากไว้ว่าจะจบเรื่องนี้ได้ภายในวันที่ 12 มิถุนายน ซึ่งเป็นวันครบรอบการประกาศเอกราชของฟิลิปปินส์
กองทัพฟิลิปปินส์ระบุว่า จนถึงตอนนี้มีผู้เสียชีวิตไปแล้ว 290 ราย เป็นฝ่ายกบฏมุสลิมติดอาวุธ 206 ราย ทหารฟิลิปปินส์ 58 ราย กับพลเรือนอีก 26 ราย
มีกลุ่มติดอาวุธที่ยังอยู่ในวงล้อมประมาณ 100 ราย และมีการประเมินว่า พลเรือนประมาณ 300-600 ราย ที่ยังคงติดอยู่ในเมืองหรือไม่ก็ถูกจับเป็นตัวประกัน