เอเจนซีส์ – เว็บไซต์ข่าวเชิงสืบสวนที่เชี่ยวชาญประเด็นด้านความมั่นคง ได้อ้างอิงรายงานลับของสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติ (เอ็นเอสเอ) ของสหรัฐฯ ที่ได้รับจากบุคคลนิรนาม โดยในเอกสารลับดังกล่าวบ่งชี้ว่า เอ็นเอสเอเชื่อว่า เจ้าหน้าที่ข่าวกรองรัสเซียแอบเจาะข้อมูลของผู้ผลิตระบบลงคะแนนของอเมริกาก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีไม่กี่สัปดาห์
การเปิดเผยดังกล่าวเกิดขึ้นไล่เลี่ยกับการจับกุม "เรียลลิตี้ ลีห์ วินเนอร์" พนักงานสัญญาจ้างวัย 25 ปีจากออกัสตา รัฐจอร์เจีย จากข้อหานำเอกสารที่เป็นความลับออกจากหน่วยงานรัฐบาลและส่งให้องค์กรข่าวแห่งหนึ่ง
เมื่อช่วงบ่ายวันจันทร์ (5 มิ.ย.) กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ แถลงว่า สำนักงานสอบสวนกลาง (เอฟบีไอ) เข้าจับกุมวินเนอร์ที่บ้านพักเมื่อวันเสาร์ (3 มิ.ย.) และนำตัวไปยังศาลของรัฐบาลกลางในออกัสตาในวันจันทร์ โดยเจ้าตัวยอมรับว่า เจตนากระทำการตามที่ถูกกล่าวหาจริง
วินเนอร์เป็นพนักงานสัญญาจ้างของ "พลูริบัส อินเตอร์เนชันแนล คอร์เปอเรชัน" ที่ได้รับมอบหมายให้ทำงานในหน่วยงานของรัฐบาลสหรัฐฯ ในรัฐจอร์เจียนับตั้งแต่ประมาณวันที่ 13 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยได้รับสิทธิ์ให้เข้าถึงข้อมูลลับสุดยอด
กระทรวงยุติธรรมแถลงรายละเอียดการปลดวินเนอร์ โดยระบุว่า เมื่อประมาณวันที่ 9 พฤษภาคม วินเนอร์ได้พิมพ์และนำรายงานข่าวกรองที่เป็นความลับ ซึ่งมีข้อมูลการป้องกันประเทศที่เป็นความลับออกจากหน่วยงานข่าวกรองแห่งหนึ่ง และครอบครองไว้โดยผิดกฎหมาย ก่อนส่งต่อไปให้องค์กรข่าวออนไลน์แห่งหนึ่งทางไปรษณีย์หลังจากนั้นไม่กี่วัน
ขณะเดียวกันเว็บไซต์ข่าวเชิงสืบสวน "ดิ อินเทอร์เซ็ปต์" รายงานเมื่อวันจันทร์โดยอ้างอิงเอกสารของเอ็นเอสเอลงวันที่ 5 พฤษภาคม 2017 ถูกส่งถึงเว็บไซต์โดยไม่ระบุชื่อผู้ส่งว่า หน่วยข่าวกรองของกองทัพรัสเซียทำการโจมตีทางไซเบอร์ต่อซัพพลายเออร์ซอฟต์แวร์การลงคะแนนเลือกตั้งของสหรัฐฯ อย่างน้อย 1 ราย และส่งอีเมลสเปียร์ฟิชชิ่งไปยังเจ้าหน้าที่เลือกตั้งท้องถิ่นหลายร้อยคนก่อนวันเลือกตั้ง
ดิ อินเทอร์เซ็ปต์ ที่เชี่ยวชาญประเด็นด้านความมั่นคงระบุว่า เอกสารดังกล่าวของเอ็นเอสเอถือเป็นรายงานของรัฐบาลสหรัฐฯ ว่าด้วยการแทรกแซงการเลือกตั้งของรัสเซียที่ละเอียดที่สุดเท่าที่มีการเปิดเผยจนถึงขณะนี้
รายงานฉบับดังกล่าวแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า แม้ประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน ยืนกรานปฏิเสธมาตลอด แต่เอ็นเอสเอเชื่อว่า สำนักงานข่าวกรองการทหารต่างประเทศของกองเสนาธิการรัสเซีย (จีอาร์ยู) รับผิดชอบการแทรกแซงการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เมื่อปลายปีที่แล้ว
รายงานของเอ็นเอสเอยังให้รายละเอียดว่า เจ้าหน้าที่จีอาร์ยูทำการสอดแนมทางไซเบอร์ต่อบริษัทอเมริกันแห่งหนึ่งในเดือนสิงหาคม 2016 เพื่อเข้าถึงข้อมูลระบบซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้ง และมีแนวโน้มว่า เจ้าหน้าที่เหล่านั้นใช้ข้อมูลที่ได้มาในการส่งสเปียร์ฟิชชิ่งในหัวข้อการลงทะเบียนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งไปยังองค์กรท้องถิ่นของรัฐบาลสหรัฐฯ บางแห่ง
ดิ อินเทอร์เซ็ปต์ ได้ตั้งข้อสังเกตว่า แม้เอกสารนี้ไม่ได้ระบุชื่อบริษัทดังกล่าวโดยตรง แต่มีการอ้างอิงถึงผลิตภัณฑ์ที่ผลิตโดย "วีอาร์ ซิสเต็มส์" ซึ่งเป็นผู้จำหน่ายบริการและอุปกรณ์การลงคะแนนทางอิเล็กทรอนิกส์ที่มีฐานอยู่ในฟลอริดา และผลิตภัณฑ์ของบริษัทนี้ใช้อยู่ใน 8 รัฐ
หลังการประเมินข้อมูล หน่วยงานด้านข่าวกรองของสหรัฐฯ ยอมรับว่า ยังมีความไม่แน่นอนอย่างมาก ว่าปฏิบัติการของรัสเซียประสบความสำเร็จมากน้อยเพียงใด รวมทั้งไม่มีข้อสรุปว่า ปฏิบัติการดังกล่าวส่งผลต่อผลการเลือกตั้งที่ "โดนัลด์ ทรัมป์" ชนะ "ฮิลลารี คลินตัน" ในสามรัฐที่มีคะแนนสูสีอย่างมากหรือไม่
อย่างไรก็ตาม ข้อบ่งชี้ที่ว่าแฮกเกอร์รัสเซียอาจเจาะเข้าระบบการลงคะแนนสำเร็จ มีแนวโน้มเพิ่มความกดดันให้ที่ปรึกษาทางกฎหมายพิเศษและคณะกรรมาธิการชุดต่างๆ ของรัฐสภาสหรัฐฯ ที่กำลังสอบสวนกรณีการแทรกแซงของรัสเซียต่อการเลือกตั้งผู้นำสหรัฐฯ โดยคณะบริหารของอดีตประธานาธิบดี บารัค โอบามา ยืนยันว่า ดำเนินมาตรการป้องกันและสามารถป้องกันการเจาะระบบทั้ง 50 รัฐ