รอยเตอร์ - ชายคนหนึ่งซึ่งถูกไล่ออกจากหน้าที่การงาน ณ คลังสินค้าใกล้ออแลนโดเมื่อเดือนเมษายนปีก่อน กลับมายังที่ทำงานเก่าในวันจันทร์ (5 มิ.ย.) กราดยิงคนอื่นๆ เสียชีวิต 5 ราย ก่อนลั่นไกสังหารตนเอง จากการเปิดเผยของเจอร์จี เดมมิงส์ นายอำเภอออเรนจ์ เคาน์ตี ในรัฐฟลอริดา สหรัฐฯ
นายอำเภอเดมมิงส์ ระบุในถ้อยแถลงว่าผู้ต้องสงสัยวัย 45 ปี เคยมีประวัติกระทำผิดทางอาญาลหุโทษ แต่ไม่เคยมีความเกี่ยวข้องกับองค์กรก่อการร้ายใดๆ “เขาเป็นอดีตลูกจ้างผู้ไม่พอใจที่กลับมายังที่ทำงานเก่าในตอนเช้าวันนี้”
คนร้ายรายดังกล่าวเดินทางมาถึงบริษัทผลิตอุปกรณ์เสริมสำหรับรถบ้านและตั้งแคมป์ ตอนประมาณ 8.00 เอดีที (ตรงกับเมืองไทย 19.00 น.) พร้อมอาวุธปืนสั้นและมีด
นายอำเภอเผยว่าเขาไม่ได้ใช้มีด แต่ใช้ปืนกราดยิงใส่ประชาชนผู้บริสุทธิ์ 5 รายและหันปากกระบอกปืนลั่นไกสังหารตนเอง อย่างไรก็ตาม มีผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์นี้ 7 คน
สถานีโทรทัศน์ท้องถิ่น WFTV สัมภาษณ์ผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งเล่าว่าเธอกำลังเข้าห้องน้ำอยู่ แต่ระหว่างนั้นได้ยินเสียงปังดังขึ้นในที่ทำงาน พอเธอโผล่ออกไปดูก็พบเห็นใครบางคนนอนกองอยู่กับพื้น “หัวหน้าของฉันตายแล้ว”
ริค สกอตต์ ผู้ว่าการรัฐฟลอริดาระบุในถ้อยแถลงว่า “ในช่วงขวบปีที่ผ่านมา ชุมชนออร์แลนโดต้องเผชิญกับความท้าทายอย่างที่ไม่เคยเจอมาก่อน ผมร้องขอชาวฟลอริดาร่วมกันสวดมนต์ภาวนาแด่ครอบครัวที่ได้รับผลกระทบจากพฤติกรรมรุนแรงที่ไร้สติเยี่ยงนี้”
เกือบ 1 ปีก่อน หรือเมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2016 มีผู้เสียชีวิต 49 รายในเหตุกราดยิงที่ไนต์คลับพัลส์ในออร์แลนโด นับเป็นเหตุกราดยิงครั้งนองเลือดที่สุดในประวัติศาสตร์ยุคใหม่ของสหรัฐฯ โดยนอกจากผู้เสียชีวิตข้างต้นแล้วยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 58 ราย