เอเอฟพี/เอเจนซีส์ - มีผู้โดยสารชาวอินเดียอย่างน้อย 24 คนต้องเสียชีวิตหลังจากต้องติดอยู่ภายในรถบัสหลังเกิดเพลิงลุกไหม้เนื่องจากถังน้ำมันระเบิด ไม่นานหลังรถบัสคันดังกล่าวประสานงากับรถบรรทุกในรัฐอุตตรประเทศ ทางเหนือของอินเดียวันนี้(5 มิ.ย)
เอเอฟพีรายงานวันนี้(5 มิ.ย)ว่า ทางการอินเดียได้เปิดการสอบสวนคดีอุบัติเหตุ ในนเมืองบาเรลี( Bareilly) รัฐอุตตรประเทศ ซึ่งสื่ออินเดีย ฮินดูสถานระบุว่า เหตุเกิดในเวลา 1.00 น.ของวันจันทร์(5 มิ.ย) บริเวณถนนไฮเวย์ 24 ในจุดที่ช่วงกำลังอยู่ในระหว่างการก่อสร้างระหว่างเมืองบาเรลีและชาห์จาฮันปูร์(Shahjahanpur) ซึ่งมีรายงานว่า คนขับรถเร่งความเร็วในช่วงจุดแยกจนเกิดเหตุประสานงาขึ้น
สื่ออินเดียชี้ต่อว่า รถบัสประจำทางคันเกิดเหตุเดินทางออกมาจากรุงนิวเดลี เพื่อมุ่งหน้าไปยัง กอนดา ดีโปต์ (Gonda depot) ที่อยู่ตอนกลางของรัฐอุตตรประเทศ
และพบว่ามีผู้โดยสารเสียชีวิตไม่ต่ำกว่า 24 ราย อ้างอิงจากฮินดูสถาน ในขณะที่เอเอฟพีให้ตัวเลข 22 ราย เกิดเหตุตัวเลขเสียชีวิตพุ่งสูงหลังประตูของรถโดยสาร UPSRTC ที่มีรัฐอุตตรประเทศเป็นเจ้าของนั้นเกิดติด และไม่สามารถถูกเปิดออกมาได้หลังเกิดเหตุพุ่งประสานงา
ในส่วนของผู้โดยสารที่รอดชีวิต พบว่าคนเหล่านั้นได้ทุบกระจกหน้าต่างจนแตก และหลบหนีออกมานอกตัวรถสำเร็จ หลังเกิดเหตุไฟไหม้ที่เกิดมากจากถังน้ำมันระเบิดหลังตัวรถประจำทางได้เกิดอุบัติเหตุกับรถบรรทุกแล้ว ซึ่งในรายงานของสื่อดิอินเดียเอ็กซเพรส พบว่าในส่วนรถบรรทุกนั้นได้เกิดเพลิงไหม้ด้วยเช่นกัน
สำหรับผู้บาดเจ็บ ที่ส่วนใหญ่อยู่ในขั้นสาหัส ได้นำส่งยังโรงพยาบาลใกล้เคียง
ในสถานที่เกิดเหตุ เอเอฟพีชี้ว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจพบร่างผู้เสียชีวิตที่ไหม้จนเป็นตอตะโก
ด้านโอม ปรากาช ยาดาฟ(Om Prakash Yadav) หัวหน้าตำรวจจราจรเมืองบาเรลลีแถลงกับเอเอฟพีว่า “คดีนี้อยู่ในระหว่างการสอบสวน ซึ่งรวมไปถึงสาเหตุและสิ่งที่เกิดขึ้นตามมาจนเกิดไฟไหม้หลังจากนั้น”
ทั้งนี้เอเอฟพีชี้ว่า อินเดียเป็นหนึ่งในประเทศที่มีความปลอดภัยทางถนนต่ำที่สุดในโลก โดยมีสถิติการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุประจำปีอยู่ที่ 230,000 ราย อ้างอิงจากองค์การอนามัยโลก WHO
แต่อย่างไรก็ตาม ล่าสุด รัฐบาลอินเดียได้มีความพยายามที่จะออกกฎหมายเพื่อทำให้ถนนมีความปลอดภัยมากขึ้นด้วยการทำให้มาตรการต่างๆที่หย่อนยานมีความเข้มงวดมากขึ้น