เอเอฟพี/เอเจนซีส์ – กระทรวงกลาโหมแถลงล่าสุด พบกล่องดำบันทึกข้อมูลการบินหลักของเครื่องบินลำเลียงกองทัพรัสเซีย Tu-154 ในทะเลดำเมื่อเวลา 5:42 น.ตามเวลาท้องถิ่นรัสเซีย ห่างจากฝั่งไป 1,600 ม. ที่ระดับความลึก 17ม. ในทะเลดำ และรวมไปถึงพบพิกัดชิ้นส่วนเครื่องบินไม่ต่ำกว่า 5 ชิ้น รวมไปถึงบริเวณลำตัวเครื่อง และบางส่วนของเครื่องยนต์ในระดับความลึก 30 ม. ด้านกู้ภัยแดนหมีขาวประสบความสำเร็จกู้ร่างจากน้ำได้แล้ว 12 ศพ
RT สื่อรัสเซียรายงานวันนี้(27)ว่า ปฎิบัติการกู้ภัยเครื่องบินลำเลียงกองทัพรัสเซีย Tu-154 ซึ่งตกนอกฝั่งเมืองโซชิในทะเลดำเมื่อวันอาทิตย์(25 ธ.ค)นั้น กระทรวงกลาโหมรัสเซียกล่าวผ่านแถลงการณ์ล่าสุดว่า ได้มีการส่งกองทัพกู้ภัยในปฏิบัติการครั้งนี้ ประกอบไปด้วย นักดำน้ำ 195 คน เรือกู้ภัย 45 เครื่องบินค้นหา 12 ฮ.กู้ภัย 15 เครื่องจักรหนักใต้น้ำอีก 15 ตัว ตะลุยค้นหาแบบปูพรม
ล่าสุดทางรัสเซียสามารถกู้ร่างผู้เสียชีวิตได้แล้ว 12 คน และชิ้นส่วนมนุษย์อีก 156 ชิ้นจากทะเลดำ โดยทางกระทรวงกลาโหมรัสเซียจะส่งทั้งหมดกลับไปยังกรุงมอสโกเพื่อทำการตรวจสอบดีเอ็นเอต่อไป
โดยเอเอฟพีรายงานว่า จากแถลงการณ์วันนี้(27)ของกระทรวงกลาโหมรัสเซีย ระบุการพบกล่องดำบันทึกข้อมูลการบินหลักของ Tu-154 “กล่องดำหลักถูกพบในเวลา 5:42 น.ตามเวลาท้องถิ่นรัสเซีย ห่างจากฝั่งไป 1,600 ม. ที่ระดับความลึก 17ม. ในทะเลดำ” และในแถลงการณ์ยังระบุว่า กล่องดำนี้ได้เดินทางไปถึงมอสโกเพื่อให้ผู้เชียวชาญตรวจสอบเรียบร้อยแล้ว
สื่อรัสเซียรายงานเพิ่มเติมว่า ทั้งนี้สำหรับพิกัดของกล่องดำนี้ถูกค้นพบโดยโดรนใต้น้ำรัสเซีย ฟอลคอน (FALCON) และกล่องดำจะถูกตรวจสอบที่สถาบันศูนย์กลางวิจัยของกองทัพอากาศรัสเซีย( Central Research Institute of the Air Force) บริเวณชานกรุงมอสโก
และกระทรวงกลาโหมรัสเซียยังแถลงเพิ่มเติมต่อว่า นอกจากนี้ทางกระทรวงยังพบชิ้นส่วนของเครื่องบินอดีตสหภาพโซเวียตที่ตกลำนี้อย่างน้อย 5 ชิ้น รวมไปถึงบริเวณลำตัวเครื่อง และบางส่วนของเครื่องยนต์ในระดับความลึก 30 ม.ห่างจากฝั่งราว 1,700 ม.
เอเอฟพีรายงานว่า และสำหรับสาเหตุการตกครั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่สอบสวนรัสเซียมุ่งไปใน 4 ทิศทางด้วยกัน ซึ่งรวมไปถึง ความผิดพลาดของนักบิน ปัญหาเครื่องยนต์ขัดข้อง ปัญหาด้านพลังงาน และมีสิ่งติดอยู่ในเครื่องยนต์ ในขณะที่หนังสือพิมพ์รัสเซีย เดอะ คอมเมอร์ซันต์(Kommersant) รายงานว่า เจ้าหน้าที่รัสเซียใช้ข้อมูลส่วนใหญ่ที่ได้มาจากการให้การของพยานปากต่างๆเป็นต้นว่า ยามฝั่งรัสเซียนายหนึ่งที่เห็นเครื่องบินเจ็ตกำลังดิ่งหายไปในทะเลดำ ในขณะที่จมูกเครื่องบินอยู่ในสภาพเชิดขึ้นฟ้า
และมาจนถึงเวลานี้ ทางรัสเซียยังออกมาเปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญยังไม่ได้ระบุว่าต้องเวลานานเท่าใดจึงจะสามารถถอดรหัสข้อมูลจากกล่องดำได้