ชาวอะเลปโปนับหมื่นขวัญหนีดีฝ่อ หวั่นถูกบอมบ์อีก-อพยพไม่คืบหน้า

เอเจนซีส์ - ชาวซีเรียนับหมื่นที่ยังตกค้างในอะเลปโป รอคอยรถที่จะนำออกจากนรกบนดินอย่างสิ้นหวัง ท่ามกลางสภาพอากาศเลวร้ายและความหิวโหย หลายคนหวาดวิตกว่าการทิ้งระเบิดปูพรมจะเริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง หลังกระทรวงกลาโหมรัสเซียประกาศว่า ประชาชนออกจากเมืองหมดแล้ว ที่เหลืออยู่คือนักรบกบฏล้วนๆ ด้านคณะกรรมการกาชาดสากลเรียกร้องทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องเร่งอพยพคนออกจากอะเลปโปโดยเร็วที่สุด

“จะนั่งรถบัส รถยนต์ เดิน หรือแม้แต่คลาน เราพร้อมหมด ขอแค่ให้ได้ไปจากที่นี่” อาหมัด อาโบ ไดยับ ช่างเทคนิควัย 26 ปี พูดแทนชาวเมืองอะเลปโปอีกนับหมื่น หลังเข้าคิวรอให้ได้ที่นั่งบนรถบัสตลอดวัน แต่กลับพบว่าการอพยพถูกระงับลงเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว (16)

รัฐบาลซีเรียและเจ้าหน้าที่กลุ่มกบฏประกาศในวันเสาร์ (17) ว่า ข้อตกลงหยุดยิงและการอพยพกลับมามีผลอีกครั้งและจะเริ่มการอพยพใหม่ในอีกไม่นาน แต่จากบ่ายกลายเป็นค่ำก็ยังไม่เห็นรถที่จะขนคนออกจากอะเลปโปแม้แต่คันเดียว ปล่อยให้คนนับหมื่นผจญกับค่ำคืนหนาวเหน็บหิวโหยและการปิดล้อมต่อไป

ทั้งนี้ มีประชาชนเพียง 8,000 คน ที่ออกจากเมืองสำเร็จ หลังจากกลุ่มกบฏบรรลุข้อตกลงหยุดยิง แต่แล้วกระบวนการอพยพก็หยุดลงดื้อๆ นอกจากนี้ ยังมีรายงานว่า กองกำลังที่ภักดีต่อประธานาธิบดี บาชาร์ อัล-อัสซาด กักขังและปล้นคนบางส่วนที่พยายามหนี ก่อนส่งตัวกลับไปอะเลปโป

ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่า มีพลเรือนติดอยู่ในพื้นที่กบฏที่ถูกทำลายราบคาบมากน้อยเพียงใด หลังจากชาวบ้านหลายหมื่นคนหนีตายจากการทิ้งระเบิดปูพรมไปยังฝั่งพื้นที่ของรัฐบาล

สหประชาชาติ (ยูเอ็น) คาดว่า ยังมีประชาชนถึง 30,000 คน ซึ่งรวมถึงผู้หญิงและเด็ก พยายามหนีออกจากฝั่งตะวันออกของอะเลปโป ซึ่งเป็นพื้นที่ของกลุ่มกบฏ หลายคนทิ้งบ้านไปปักหลักที่จุดผ่านแดนเพื่อรอโอกาสขึ้นรถออกจากเมือง

อาโบ ไดยับ บอกว่า รถบัสแต่ละคันขนคนได้ 50 คน แต่มีคนรอขึ้นเป็นหมื่น

คณะกรรมการกาชาดสากลที่ประสานงานการอพยพเรียกร้องให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องพยายามอย่างดีที่สุดและเร่งด่วน เพื่ออพยพคนออกจากอะเลปโป

ชาวบ้านที่ยังติดอยู่ในพื้นที่กบฏกลัวว่าจะมีการทิ้งระเบิดระลอกใหม่ในอีกไม่นานนี้ หลังจากกระทรวงต่างประเทศรัสเซียแถลงว่า พลเรือนออกจากเมืองหมดแล้ว ที่เหลืออยู่คือนักรบกบฏ

ชาวบ้านที่ต้องเผชิญการทิ้งระเบิดปูพรมมานานนับเดือนล้วนหวาดผวา ด้วยเหตุนี้ เมื่อมีเสียงปืนดังขึ้นที่จุดผ่านแดนหลักเมื่อวันศุกร์ คนเหล่านี้จึงวิ่งเตลิดเหมือนคนบ้า ทิ้งทุกอย่างทั้งกระเป๋าเสื้อผ้า เงินทอง หรือแม้แต่ลูกน้อย

ความล่าช้าของกระบวนการอพยพเป็นอีกสิ่งที่ชาวอะเลปโปหวาดกลัว เพราะขณะที่หลายคนต้องการเดินทางออกไป แต่คนเหล่านี้ก็กลัวว่า กระบวนการอาจยืดเยื้อยาวนานเกินข้อตกลงหยุดยิง

ทั้งนี้ ในช่วงชั่วโมงแรกๆ ของการหยุดยิง มีรายงานว่า ประชาชนบางกลุ่มได้รับอนุญาตให้เดินทางออกจากเมืองด้วยรถยนต์ส่วนตัว แต่ล่าสุดไม่สามารถทำได้แล้ว

แม้กระทั่งได้ขึ้นรถบัสแล้วก็ตาม แต่คนส่วนใหญ่ก็อพยพออกจากเมืองด้วยหัวใจหนักอึ้ง เนื่องจากรู้ดีว่า จะไม่มีวันได้กลับบ้านอีก เพราะอัสซาดนั้นขึ้นชื่อเรื่องการตามล่าและทำลายล้างฝ่ายตรงข้ามอย่างไร้ปรานี

รถบัสที่เคลื่อนตัวเชื่องช้าผ่านถนนที่เต็มไปด้วยซากความเสียหายอาจเป็นภาพสุดท้ายที่คนบนรถจะได้เห็นบ้านเกิดตัวเอง

“การจากลาอะเลปโปเป็นความรู้สึกที่เลวร้ายมาก ผมคิดว่าคงไม่มีโอกาสกลับมาเมืองนี้อีกแล้ว มนุษยธรรมพ่ายแพ้ราบคาบในสงครามนี้” อาโบ ยาซัน เจ้าหน้าที่บรรเทาทุกข์วัย 21 ปี ทิ้งท้าย