รอยเตอร์ – แหล่งข่าวในกองทัพซีเรียระบุฝ่ายรัฐบาลอัสซาดและพันธมิตรใกล้ประกาศชัยชนะเหนืออะเลปโป หลังจากระดมทิ้งระเบิดตลอดวันจันทร์ (12) กระทั่งแนวต้านของกลุ่มกบฏแตกพ่าย ชาวบ้านบางคนบรรยายว่า สถานการณ์ล่าสุดในอะเลปโปไม่ต่างจากวันโลกแตก
พลโท ซาอิด อัล-ซาเลห์ หัวหน้าคณะกรรมาธิการความมั่นคงในอะเลปโปของรัฐบาลซีเรีย เปิดเผยว่า การสู้รบทางตะวันออกของเมืองน่าจะยุติลงในอีกไม่นาน ขณะที่กลุ่มสังเกตการณ์ "ซีเรียน อ็อบเซอร์เวโทรี ฟอร์ ฮิวแมน ไรต์" ระบุว่า ฝ่ายกบฏถอนตัวจากทุกเขตทางฝั่งตะวันออกของแม่น้ำอะเลปโปเมื่อบ่ายวันจันทร์ หลังจากเสียชีคซาอิดเมื่อคืนวันอาทิตย์ (11)
ในเขตยึดครองของฝ่ายรัฐบาล ทหารเริ่มยิงปืนขึ้นฟ้าเพื่อฉลองชัยชนะ ขณะที่ชาวบ้านบีบแตรรถสนั่นหวั่นไหว "รามี อับดุล ราห์มาน" ผู้อำนวยการกลุ่มสังเกตการณ์ มองว่า สงครามในอะเลปโปกำลังจะถึงจุดจบ อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่จากกลุ่มกบฏ "จาบา ชามิยา" เผยว่า กลุ่มกบฏอาจย้ายไปตั้งหลักใหม่ทางฝั่งตะวันตกของแม่น้ำอะเลปโป
ขณะเดียวกัน ไวท์ เฮลเม็ต และองค์การป้องกันพลเรือนอีก 3 แห่งที่ติดอยู่ในอะเลปโป เรียกร้องให้นานาชาตินำพลเรือน 100,000 คนออกจากพื้นที่ยึดครองของรัฐบาลที่ขณะนี้ครอบคลุมระยะทาง 4 กิโลเมตรอย่างปลอดภัย นักเคลื่อนไหวและชาวบ้านสองคนที่อยู่ในพื้นที่ยึดครองของกลุ่มกบฏบอกว่า พลเมืองอย่างน้อย 79 คนถูกกลุ่มติดอาวุธที่สนับสนุนรัฐบาลสังหารในเขตฟาร์ดัสและซาลิฮีน
โฆษกของบัน คี-มุน เผยว่า เลขาธิการสหประชาชาติ (ยูเอ็น) แสดงความกังวล หลังได้รับรายงานการใช้ความรุนแรงกับพลเรือนจำนวนมากในอะเลปโป ซึ่งรวมถึงผู้หญิงและเด็ก ทางด้าน แจน เอ็กแลนด์ ที่ปรึกษาด้านมนุษยชนในซีเรีย ทวิตว่า รัฐบาลรัสเซียและซีเรียจะต้องรับผิดชอบการกระทำโหดร้ายทารุณนี้ ส่วนแหล่งข่าวในกองทัพซีเรียเผยว่า กลุ่มกบฏล่าถอยอย่างรวดเร็วซึ่งบ่งชี้ว่า ขวัญและกำลังใจของผู้ก่อการร้ายทรุดดิ่งรุนแรง
ประธานาธิบดี บาชาร์ อัล-อัสซาด ของซีเรีย ที่มีรัสเซียให้การสนับสนุน กำลังจะได้ควบคุมอะเลปโปแบบเบ็ดเสร็จ อันจะถือเป็นชัยชนะยิ่งใหญ่ที่สุดในรอบเกือบ 6 ปีที่เกิดสงครามกลางเมืองในซีเรีย ทางด้านกระทรวงกลาโหมรัสเซียแถลงว่า นับจากเริ่มการต่อสู้ในอะเลปโป มีสมาชิกกลุ่มกบฏยอมจำนนกว่า 2,200 คน และพลเรือน 100,000 คนหนีออกจากเมือง
อาบู อาเมอร์ อิกับ อดีตลูกจ้างรัฐในเขตซัคคารี ซึ่งเป็นใจกลางพื้นที่ยึดครองของกบฏ เล่าว่า ชาวบ้านหนีตายจากกระสุนปืนใหญ่ฟากหนึ่งเพื่อไปเจอการยิงถล่มจากอีกฟาก สถานการณ์ในอะเลปโปไม่ต่างจากวันโลกแตก ภาพข่าวจากซาลิฮีน หนึ่งในเขตที่กองทัพซีเรียยึดมาได้ เผยให้เห็นซากปรักหักพังและอาคารหลายหลังที่ยุบหายไปครึ่งหนึ่ง ศพเกลื่อนถนน และชาวบ้านที่ยังจับต้นชนปลายไม่ถูกหอบลูกหรือกระเป๋าเสื้อผ้าหนี
แม้อะเลปโปแตกจะถือเป็นความปราชัยครั้งใหญ่ของกลุ่มกบฏที่ต้องการโค่นล้มอัสซาด ทว่า ผู้นำซีเรียยังห่างไกลจากการฟื้นอำนาจการควบคุมพื้นที่ทั่วประเทศ โดยหลายพื้นที่ยังเป็นของกลุ่มกบฏ แถมกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) ก็เพิ่งยึดเมืองพัลไมราคืนมาอีกครั้งเมื่อวันอาทิตย์
กลุ่มสังเกตการณ์ ระบุว่า พลเรือนนับหมื่นยังติดอยู่ในพื้นที่ยึดครองของฝ่ายกบฏที่ถูกโจมตีทางอากาศและกระสุนปืนใหญ่อย่างหนัก และปราศจากสิ่งของยังชีพพื้นฐาน
ทั้งนี้ รายงานระบุว่า กลุ่มกบฏในอะเลปโปได้รับข้อเสนอจากอเมริกา-รัสเซียเมื่อวันอาทิตย์ ให้ถอนกำลังและนำพลเรือนออกจากพื้นที่ยึดครอง แต่มอสโกปฏิเสธว่า ไม่มีการบรรลุข้อตกลงยุติวิกฤตซีเรียอย่างสันติระหว่างการเจรจาที่เจนีวา
ด้านกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ เผยว่า รัสเซียปฏิเสธข้อเสนอหยุดยิงทันทีโดยอ้างว่า ต้องใช้เวลาเตรียมการหลายวัน โดยทาง มาร์ค โทเนอร์ รองโฆษกกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ เผยว่า สเตฟาน เดอ มิสตูรา ตัวแทนผู้ไกล่เกลี่ยของยูเอ็นสำหรับซีเรีย หารือกับจอห์น เคร์รี รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ และเจ้าหน้าที่อื่นๆ ของกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ เมื่อวันจันทร์ ซึ่งเจ้าหน้าที่อเมริกันย้ำความมุ่งมั่นของวอชิงตันในการยุติความรุนแรง นำประชาชนออกจากอะเลปโปอย่างปลอดภัย ส่งมอบความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมที่สำคัญ และการเจรจาของฝ่ายต่างๆ ในซีเรียเพื่อหาทางออกทางการเมือง