กลุ่มรัฐอิสลามบุกยึดเมืองสำคัญทางประวัติศาสตร์ “พัลไมรา” ได้อีกครั้ง

เอเจนซีส์ - กลุ่มรัฐอิสลามกลับมายึดครองเมืองทางประวัติศาสตร์อย่าง “พัลไมรา” ได้อีกครั้งหนึ่ง หลังจากที่มีการสู้รบอย่างหนักแถบรอบนอกของเมืองดังกล่าวในช่วงหลายวันที่ผ่านมา จนทำให้กองทัพซีเรียถอนกำลังออกไป

“มหันตภัยได้เกิดขึ้นแล้ว ผมตกใจและกำลังสิ้นหวัง ดูเหมือนเรากำลังเสียเมืองนั้นไป” มามูน อับดุลคาริม ผู้อำนวยการด้านโบราณวัตถุของซีเรีย กล่าวขณะให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์

สถานีข่าวที่อยู่ในสังกัดของไอเอสได้อวดอ้างถึงชัยชนะในการสู้รบเมื่อวันอาทิตย์ โดยระบุว่า ไอเอสได้กลับเข้ามาควบคุมพื้นที่ทั้งหมดของพัลไมรา ขณะเดียวกัน กลุ่มเฝ้าสังเกตการณ์ “ซีเรียน ออปเซอร์เวโทรี ฟอร์ ฮิวแมน ไรต์” ก็ยืนยันข่าวดังกล่าวว่าเกิดขึ้นจริง

นับเป็นครั้งที่สอง ที่กลุ่มรัฐอิสลามยึดครองพัลไมรา โดยในเดือนพฤษภาคมปีที่แล้ว พวกญิฮาดกลุ่มนี้ได้บุกโจมตีเมืองอย่างหนัก หลังจากทำการปิดล้อมอยู่ประมาณ 1 สัปดาห์ จนลงเอยด้วยการถอนกำลังครั้งใหญ่ของกองทัพซีเรีย ส่วนพวกไอเอสก็อาละวาดตามพิพิธภัณฑ์และซากโบราณสถานที่มีความเก่าแก่ 2,000 ปี ซึ่งล้วนเป็นสิ่งที่ประเมินค่ามิได้ แถมยังสังหาร “คาเลด อัล-อัสซาส” นักโบราณคดีที่ทำงานในพัลไมรามาอย่างยาวนาน อีกทั้งยังมีการประหารหมู่ผู้คนด้วย

กองทัพซีเรียที่ได้รับการหนุนหลังจากเครื่องบินรบรัสเซีย ได้ชิงเมืองกลับมาในเดือนมีนาคมปีนี้ พร้อมกับทำการป่าวประกาศถึงชัยชนะครั้งนั้น โดยมีการจัดแสดงดนตรีฉลองกันอย่างใหญ่โต

การสูญเสียเมืองนี้อีกครั้งมาพร้อมกับความตกตะลึง โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากกลุ่มไอเอสที่กำลังล่าถอยทั้งในซีเรีย และอิรัก เพราะเผชิญการกดดันที่มากขึ้นทั้งที่เมืองโมซุลและ รอกเกาะห์

อับดุลคาริม บอกว่า โบราณวัตถุและสิ่งประดิษฐ์ส่วนใหญ่ในพัลไมราได้ถูกขนย้ายไปดามัสกัสแล้ว ซึ่งอาจช่วยอนุรักษ์มรดกของเมืองไว้ได้บางส่วน แต่สิ่งปลูกสร้างในย่านเมืองเก่าที่เป็นพื้นที่มรดกโลกของยูเนสโก ยังคงตกอยู่ในความเสี่ยง รวมถึงยังมีผู้คนเหลืออยู่ในเมืองอีกนิดหน่อย ซึ่งรัฐบาลซีเรียประเมินว่าไม่เกิน 1,000 คน

“เราทำได้แค่สวดภาวนาต่อพระเจ้าให้ช่วยปกป้องพัลไมรา และเราขออ้อนวอนต่อประชาคมนานาชาติให้ช่วยปกป้องพัลไมราด้วย เพราะมันคือสะพานเชื่อมระหว่างตะวันออก และตะวันตก ไม่งั้นเราคงต้องหลั่งน้ำตา เพราะมรดกของซีเรียถูกทำลายเพิ่มขึ้นอีก” อับดุลคาริม กล่าว

การสูญเสียพัลไมราเป็นครั้งที่สอง ก่อให้เกิดคำถามเกี่ยวกับความสามารถของกองทัพซีเรีย ที่เสื่อมถอยลงหลังจากทำการสู้รบมาหลายปี จนไม่อาจรักษาพื้นที่เอาไว้ได้ทั้งที่มีรัสเซียหนุนหลัง โดยการสู้รบบริเวณรอบนอกของพัลไมรานั้นต่อเนื่องอยู่ 4 วัน แถมก่อนถูกยึดเมือง รัสเซียยังช่วยด้วยการโจมตีทางอากาศถึง 60 ครั้ง