เอพี - ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเมืองอูโย (Uyo) แถลงเมื่อวานนี้ (11 ธ.ค.) ตัวเลขยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์โบสถ์คริสต์ที่ยังสร้างไม่เสร็จ ไรก์เนอร์ส ไบเบิล เชิร์ช อินเตอรเนชันแนล (Reigners Bible Church International) ทางใต้ของไนจีเรีย เกิดถล่มในวันเสาร์ (10 ธ.ค.) ระหว่างการประกอบพิธีทางศาสนา เพิ่มจาก 50 ราย เป็น 160 รายล่าสุด และคาดตัวเลขยอดดับจะเพิ่มสูงขึ้น ด้านผู้สื่อข่าวในพื้นที่เปิดเผย ทางเจ้าหน้าที่โบสถ์กีดกันไม่ให้ทำข่าว ยึดกล้องถ่ายรูป และห้ามผู้สื่อข่าวเข้าไปด้านใน
เอพีรายงานเมื่อวานนี้ (11 ธ.ค.) ว่า ห้องเก็บศพประจำเมืองอูโย (Uyo) แน่นขนัดเนื่องมาจากเหตุโบสถ์ไรก์เนอร์ส ไบเบิล เชิร์ช อินเตอร์เนชันแนล (Reigners Bible Church International) ที่อยู่ในระหว่างการก่อสร้างเกิดถล่มพังลงมา
โดย เอเทต ปีเตอร์ส (Etete Peters) ผู้อำนวยการประจำโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยการแพทย์แห่งอูโย เปิดเผยกับเอพีในวันอาทิตย์ (11 ธ.ค.) ว่า ยอดผู้เสียชีวิตล่าสุดอยู่ที่ 160 ราย และเชื่อว่า ตัวเลขจะขยับสูงขึ้น
ทั้งนี้ โบสถ์คริสต์ไรก์เนอร์ส ไบเบิล เชิร์ช อินเตอร์เนชันแนล (Reigners Bible Church International) ทางใต้ของไนจีเรีย ที่เกิดเหตุนั้นอยู่ในระหว่างการก่อสร้าง และที่ผ่านมาคนงานก่อสร้างต่างพยายามที่จะเร่งรัดให้เสร็จภายในวันเสาร์ (10 ธ.ค.) ที่ผ่านมา เพื่อให้ทันพิธีสำคัญของโบสถ์ในการแต่งตั้งอาคาน วีกส์ (Akan Weeks) ผู้ก่อตั้งโบสถ์แห่งนี้ขึ้นเป็นบิชอปไนจีเรีย แหล่งข่าวผู้ร่วมอยู่ในพิธีเปิดเผย
โดยในช่วงเกิดเหตุ พบมีจำนวนผู้อยู่ในโบสถ์หลายร้อยคน รวมไปถึง ผู้ว่าการรัฐอะกวาอิบอม (Akwa Ibom) อูดอม เอ็มมานูเอล (Udom Emmanuel) ซึ่งการถล่มเริ่มจากโครงเหล็ก และแผ่นสังกะสีมุงหลังคาถล่มลงมาใส่ผู้ร่วมพิธีด้านล่างอย่างไม่คาดหมาย
และผู้ที่เข้าร่วมต่างกล่าวว่า ทั้งเอ็มมานูเอล และวีกส์ ที่ต่างเทศนาอ้างว่า พระเจ้าจะทำให้สาวกร่ำรวยนั้นสามารถหนีรอดออกไปได้อย่างหวุดหวิด
เอพีรายงานต่อว่า เสียงร้องระงมอย่างเสียขวัญดังไปทั่วบริเวณที่เกิดเหตุ และมีเสียงร้องด้วยความเจ็บปวดจากเหยื่อผู้ได้รับบาดเจ็บออกมา เมื่อ อูเกเม เอยิบิโอ (Ukeme Eyibio) นักวิเคราะห์โปรแกรมคอมพิวเตอร์เดินทางไปถึงจุดเกิดเหตุ
“มีร่างที่ติดอยู่ใต้ซากปรักหักพัง พบภาพชื้นส่วนอวัยวะมนุษย์ และเลือดแดงฉานนองท่วมไปทั่วบริเวณ รวมไปถึงกระเป๋าถือและรองเท้าต่างตกกระจายเกลื่อนบนพื้น” เอยิบิโอ ให้ความเห็นกับเอพีทางโทรศัพท์
ซึ่งพบว่าแหล่งข่าวรายนี้จอดรถบริเวณด้านนอกโบสถ์ เพื่อทำการโทรศัพท์ในระหว่างที่เขาได้ยินเสียงดังลั่นออกมาจากโบสถ์ ซึ่งในตอนแรก นักวิเคราะห์โปรแกรมคอมพิวเตอร์ผู้นี้เข้าใจว่า อาจเป็นระเบิด แต่สิ่งที่พบคือโบสถ์ที่เคยตั้งตระหง่านกลับหายไป
และหลังจากนั้น เอยิบิโอ และคนอื่นๆ อีก 3 คนได้ช่วยกันดึงเหยื่อผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวน 10 ราย ออกมาจากพื้นที่เกิดเหตุ ซึ่งอยู่ด้านนอกของตัวโบสถ์ได้ แต่ไม่ได้เดินเข้าไปบริเวณด้านในของตัวโบสถ์ที่ถล่มลงมา เนื่องจากคนงานซึ่งเป็นหนึ่งในกลุ่มที่เข้าช่วยเหลือ ได้เตือนเอยิบิโอถึงอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้น ซึ่งเชื่อว่าอาจจะมีการถล่มลงมาอีกซ้ำเป็นครั้งที่ 2
ซึ่งคนงานก่อสร้างรายนี้ได้ใช้โทรศัพท์ติดต่อกลับไปยังหัวหน้าของเขาที่บริษัทก่อสร้างจูเลียส เบอร์เกอร์ คอนสตรักชัน (Julius Berger construction) และได้ส่งเครนยกขนาดใหญ่ในการกู้ภัยเพื่อยกซากปรักหักพังออกไปจากพื้นที่ ซึ่งเชื่อว่าอาจมีร่างผู้เสียชีวิตถูกพบเพิ่มเติมหลังจากนั้น
เอพีรายงานต่อว่า พบว่า ร่างผู้เสียชีวิตจำนวนหนึ่งถูกส่งไปยังห้องเก็บศพเอกชนซึ่งตั้งอยู่อย่างกระจัดกระจายทั่วเมืองอูโย
โดย เอดิกัน ปีเตอร์ส (Edikan Peters) ผู้นำเยาวชนไนจีเรีย ระบุว่า เขาสามารถนับร่างผู้เสียชีวิตได้ถึง 90 ศพ จนกระทั่งเขาถูกสั่งให้เลิกการนับจำนวนศพในช่วงดึกของวันเสาร์ (10 ธ.ค.)
นอกจากนี้ ยังมีรายงานว่า ผู้สื่อข่าวในที่เกิดเหตุถูกกีดกันจากทางเจ้าหน้าที่โบสถ์คริสต์ ไรก์เนอร์ส ไบเบิล เชิร์ช อินเตอร์เนชันแนล ไม่ให้ทำหน้าที่รายงานข่าว และพบว่า ทางเจ้าหน้าที่โบสถ์ยังได้ทำการยึดกล้องถ่ายภาพของนักข่าวจำนวนหนึ่ง และสั่งห้ามไม่ให้ผู้สื่อข่าวเข้าไปด้านใน
ในขณะที่ อีเคเรต อูโดห์ Ekerete Udoh โฆษกผู้ว่าการรัฐอะกวาอิบอม (Akwa Ibom) ประกาศว่า ทางรัฐจะทำการสอบสวนเหตุการณ์โบสถ์คริสต์ถล่ม ว่า ใครเป็นผู้ต้องรับผิดชอบถึงเหตุที่เกิดขึ้น ซึ่งเหตุการณ์ตึกถล่มถือเป็นสิ่งที่ถูกพบเห็นได้โดยทั่วไปในไนจีเรีย เนื่องมาจากปัญหาการคอร์รัปชันระบาดอย่างหนักไปทั่วประเทศ พร้อมกับบรรดาบริษัทก่อสร้างต่างพร้อมใจใช้วัสดุและอุปกรณ์ที่ต่ำกว่ามาตรฐาน และให้สินบนเจ้าหน้าที่ผู้ตรวจสอบ