เอเอฟพี - รัฐมนตรีมหาดไทยสิงคโปร์ เตือนในวันศุกร์ (2 ธ.ค.) ว่า ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีความเสี่ยงเผชิญกับความไม่สงบรุนแรงจากฝีมือพวกสนับสนุนกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) มากขึ้น เนื่องจากญิฮาดกลุ่มนี้อาจแสวงหาชัยภูมิใหม่ หลังพ่ายแพ้ในตะวันออกกลาง
ด้วยที่ไอเอสกำลังสูญเสียดินแดนในอิรัก และซีเรีย บางทีมันอาจเพิ่มความเสี่ยงโจมตีแก้แค้นในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ภูมิภาคที่มีผู้คนบางส่วนเปิดรับอุดมการณ์อิสลามิกหัวรุนแรง “ภัยคุกคามหรืออะไรก็ตาม ผมคิดว่ามันจะเพิ่มขึ้นหากเทียบกับปีที่แล้วหรือช่วงต้นปีนี้” เค.ชันมูกัม รัฐมนตรีมหาดไทยสิงคโปร์ บอกกับผู้สื่อข่าว
บางพื้นที่ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ต้องประสบปัญหามาช้านานในการจัดการกับพวกนักรบอิสลามิสต์และพวกหัวรุนแรงหลายร้อยคนที่ไหลบ่าเข้าร่วมกับกลุ่มไอเอส
ขณะเดียวกัน ในพื้นที่ทางภาคใต้ของฟิลิปปินส์ ซึ่งต้องต่อสู้กับพวกก่อความไม่สงบมุสลิมมาช้านาน มีกลุ่มอิสลามิสต์หัวรุนแรงจำนวนหนึ่งได้ประกาศสวามิภักดิ์ต่อไอเอส
ส่วนในอินโดนีเซีย ประเทศที่มีประชากรมุสลิมมากที่สุดในโลก เกิดเหตุรุนแรงและพยายามโจมตีเพิ่มมากขึ้นในช่วงขวบปีที่ผานมา สืบเนื่องจากอิทธิพลที่แผ่ขยายกว้างขึ้นเรื่อยๆ ของพวกรัฐอิสลาม
แม้แต่สิงคโปร์เองก็เคยควบคุมตัวสมาชิกหัวรุนแรงหลายคน ซึ่งเหล่านั้นเป็นสมาชิกชนกลุ่มน้อยมุสลิมท้องถิ่น
ออตโซ ไอโฮ นักวิเคราะห์ด้านกลาโหมของไอเอชเอส ให้ความเห็นเมื่อวันพุธ (30 พ.ย.) ว่า “มีความเป็นไปได้มากขึ้นที่พวกไอเอสจะประกาศตั้งจังหวัดอย่างเป็นทางการในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในปี 2017 และเป็นไปได้มากที่สุด คือ ในแถบภาคใต้ของฟิลิปปินส์”
ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ถูกไอเอสลงมือโจมตีครั้งแรกในเดือนมกราคมปีนี้ โดยพวกหัวรุนแรงใช้มือระเบิดฆ่าตัวตายและปืนโจมตีนองเลือดในกรุงจาการ์ตา
สิงคโปร์เป็นถิ่นฐานของผู้อพยพกว่า 5.5 ล้านคน ขณะที่ เค.ชันมูกัม ระบุว่า หนึ่งในความท้าทายของสิงคโปร์ ก็คือ ความเชื่อมแน่นทางสังคม หากเกิดเหตุโจมตี
รัฐมนตรีรายนี้ชี้ว่า หลังประสบความสำเร็จในการโจมตีมาเลเซีย และ อินโดนีเซีย นั่นจึงเหลือคำถามแค่ว่าเมื่อไหร่จะเกิดเหตุโจมตีในสิงคโปร์เท่านั้น “เราจะปกป้องพรมแดนของเรา แต่ความเสี่ยงนั้นใหญ่โตเหลือเกิน”



