สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า ประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตร์เต ของฟิลิปปินส์ เปิดแถลงข่าวเมื่อเช้ามืดวันอาทิตย์ที่ 7 ก.ค. ที่เมืองดาเวา ฐานเสียงของเขาในภาคใต้ของฟิลิปปินส์ ระบุว่า สิ่งที่เขาพูดไม่เกี่ยวใดๆ กับกระบวนการทางกฎหมาย กระบวนการพิจารณาคดี หรือทนายความ จากนั้นเขาก็เปิดเผยรายชื่อของเจ้าหน้าที่และอดีตเจ้าหน้าที่มากกว่า 160 รายที่เชื่อว่าเกี่ยวข้องกับยาเสพติด
สำหรับรายชื่อดังกล่าวนี้ รวมถึงผู้พิพากษา 9 คน อีกมากกว่า 50 คนเป็นสมาชิกรัฐสภาหรืออดีตสมาชิกรัฐสภา, นายกเทศมนตรี และเจ้าหน้าที่ระดับท้องถิ่นอื่นๆ โดยดูเตร์เตได้ออกคำสั่งให้เพิกถอนเจ้าหน้าที่อารักขาและยกเลิกใบอนุญาตพกพาอาวุธของพวกเขา พร้อมเตือนว่าเจ้าหน้าที่เหล่านี้อาจถูกลงโทษด้วย
ดูเตร์เตยังเปิดเผยรายชื่อของข้าราชการตำรวจและทหารทั้งที่ปลดประจำการแล้ว และที่ยังปฏิบัติหน้าที่อยู่ ประมาณ 100 นาย ที่เขาระบุว่าเกี่ยวข้องกับยาเสพติด โดยสั่งให้ออกจากราชการด้วย
"หากพวกคุณแสดงออกซึ่งการใช้ความรุนแรงขัดขืนแม้เพียงน้อยนิด ผมจะบอกให้ตำรวจ 'ยิงได้'" เขากล่าว และว่า ทหารและตำรวจในรายชื่อนี้ควรมอบตัวต่อผู้บังคับบัญชา ส่วนผู้พิพากษาควรรายงานตัวต่อศาลสูงสุด
ผู้นำฟิลิปปินส์ยอมรับว่า เขาอาจเป็นฝ่ายผิดก็ได้สำหรับบางคนในรายชื่อนี้ ทหารและตำรวจทำหน้าที่รวบรวมรายชื่อดังกล่าว แต่เขายืนกรานว่าไม่มีเรื่องการเมืองหรือเรื่องส่วนตัวเข้ามาเกี่ยวข้อง บางคนในรายชื่อนี้เป็นเพื่อนของเขาด้วย
มาร์ติน อันดานาร์ โฆษกของดูเตร์เต เปิดเผยเวลาต่อมาด้วยว่า บุคคลในรายชื่อนี้จะถูกดำเนินคดีทางอาญา ดูเตร์เตกำลังกระตุ้นให้ทุกคนที่เกี่ยวข้อง พวกพ่อค้ายาและพวกที่ปกป้องคนเหล่านี้ ยอมเปิดเผยตัว มอบตัว และยอมให้ทำการสอบสวนอย่างละเอียด
อย่างไรก็ดี บางคนในรายชื่อนี้ได้เปิดเผยตัวกับสื่อและปฏิเสธแล้วว่าไม่ได้ทำความผิด
ดูเตร์เตชนะการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 9 พ.ค.ปีนี้อย่างถล่มทลาย จากการประกาศกร้าวว่าจะทำสงครามกับยาเสพติดและอาชญากรรมต่างๆ ที่คร่าชีวิตผู้คนนับแสนราย หลังชนะเลือกตั้ง ดูเตร์เตได้สั่งการตำรวจว่าอย่าได้ลังเลกับการสังหารผู้เกี่ยวข้องกับยาเสพติด เขายังยุยงพลเมืองทั่วไปและโจรคอมมิวนิสต์เข้าร่วมการฆ่าฟันนี้ด้วย
กลุ่มสิทธิหลายกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์การรณรงค์ดังกล่าว แม้แต่องค์กรสิทธิมนุษยชนจากต่างชาติ หรือบัน กีมูน เลขาธิการองค์การสหประชาชาติ และผู้นำคริสตจักรโรมันคาทอลิกของฟิลิปปินส์
ข้อมูลจากสถานีโทรทัศน์เอบีเอส-ซีบีเอ็นระบุว่า นับแต่ดูเตร์เตชนะเลือกตั้ง มีผู้ต้องสงสัยคดียาเสพติดถูกสังหารทั้งโดยตำรวจและโดยศาลเตี้ยแล้ว 852 ราย
ดูเตร์เต ซึ่งยังได้รับความนิยมอย่างสูงแม้จะถูกภายนอกวิจารณ์อย่างหนัก ได้เยาะเย้ยกลุ่มสิทธิที่คัดค้านการเข่นฆ่าผู้ต้องสงสัย โดยบอกว่า พวกเขาสามารถประท้วงได้อย่างเสรี "ผมไม่แคร์"
เขายังไม่นำพากับเสียงคัดค้านต่อแผนการเชิดชูเฟอร์ดินันด์ มาร์กอส อดีตประธานาธิบดีเผด็จการ โดยบอกในวันเดียวกันว่า เขาจะผลักดันแผนการนำร่างของมาร์กอสมาฝังอย่างสมเกียรติที่ "สุสานวีรชน" ของประเทศ
ครอบครัวมาร์กอสยังเก็บรักษาร่างของเขาไว้ในโลงแก้วมานับแต่เขาเสียชีวิตในต่างแดนเมื่อปี 2532 หรือ 3 ปีหลังถูกพลังมวลชนโค่นอำนาจ โดยหวังว่าสักวันหนึ่งอดีตผู้นำที่ละเมิดสิทธิและคอร์รัปชันอย่างมโหฬารรายนี้จะได้รับการฝังที่สุสานวีรชนแห่งนี้
สำหรับรายชื่อดังกล่าวนี้ รวมถึงผู้พิพากษา 9 คน อีกมากกว่า 50 คนเป็นสมาชิกรัฐสภาหรืออดีตสมาชิกรัฐสภา, นายกเทศมนตรี และเจ้าหน้าที่ระดับท้องถิ่นอื่นๆ โดยดูเตร์เตได้ออกคำสั่งให้เพิกถอนเจ้าหน้าที่อารักขาและยกเลิกใบอนุญาตพกพาอาวุธของพวกเขา พร้อมเตือนว่าเจ้าหน้าที่เหล่านี้อาจถูกลงโทษด้วย
ดูเตร์เตยังเปิดเผยรายชื่อของข้าราชการตำรวจและทหารทั้งที่ปลดประจำการแล้ว และที่ยังปฏิบัติหน้าที่อยู่ ประมาณ 100 นาย ที่เขาระบุว่าเกี่ยวข้องกับยาเสพติด โดยสั่งให้ออกจากราชการด้วย
"หากพวกคุณแสดงออกซึ่งการใช้ความรุนแรงขัดขืนแม้เพียงน้อยนิด ผมจะบอกให้ตำรวจ 'ยิงได้'" เขากล่าว และว่า ทหารและตำรวจในรายชื่อนี้ควรมอบตัวต่อผู้บังคับบัญชา ส่วนผู้พิพากษาควรรายงานตัวต่อศาลสูงสุด
ผู้นำฟิลิปปินส์ยอมรับว่า เขาอาจเป็นฝ่ายผิดก็ได้สำหรับบางคนในรายชื่อนี้ ทหารและตำรวจทำหน้าที่รวบรวมรายชื่อดังกล่าว แต่เขายืนกรานว่าไม่มีเรื่องการเมืองหรือเรื่องส่วนตัวเข้ามาเกี่ยวข้อง บางคนในรายชื่อนี้เป็นเพื่อนของเขาด้วย
มาร์ติน อันดานาร์ โฆษกของดูเตร์เต เปิดเผยเวลาต่อมาด้วยว่า บุคคลในรายชื่อนี้จะถูกดำเนินคดีทางอาญา ดูเตร์เตกำลังกระตุ้นให้ทุกคนที่เกี่ยวข้อง พวกพ่อค้ายาและพวกที่ปกป้องคนเหล่านี้ ยอมเปิดเผยตัว มอบตัว และยอมให้ทำการสอบสวนอย่างละเอียด
อย่างไรก็ดี บางคนในรายชื่อนี้ได้เปิดเผยตัวกับสื่อและปฏิเสธแล้วว่าไม่ได้ทำความผิด
ดูเตร์เตชนะการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 9 พ.ค.ปีนี้อย่างถล่มทลาย จากการประกาศกร้าวว่าจะทำสงครามกับยาเสพติดและอาชญากรรมต่างๆ ที่คร่าชีวิตผู้คนนับแสนราย หลังชนะเลือกตั้ง ดูเตร์เตได้สั่งการตำรวจว่าอย่าได้ลังเลกับการสังหารผู้เกี่ยวข้องกับยาเสพติด เขายังยุยงพลเมืองทั่วไปและโจรคอมมิวนิสต์เข้าร่วมการฆ่าฟันนี้ด้วย
กลุ่มสิทธิหลายกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์การรณรงค์ดังกล่าว แม้แต่องค์กรสิทธิมนุษยชนจากต่างชาติ หรือบัน กีมูน เลขาธิการองค์การสหประชาชาติ และผู้นำคริสตจักรโรมันคาทอลิกของฟิลิปปินส์
ข้อมูลจากสถานีโทรทัศน์เอบีเอส-ซีบีเอ็นระบุว่า นับแต่ดูเตร์เตชนะเลือกตั้ง มีผู้ต้องสงสัยคดียาเสพติดถูกสังหารทั้งโดยตำรวจและโดยศาลเตี้ยแล้ว 852 ราย
ดูเตร์เต ซึ่งยังได้รับความนิยมอย่างสูงแม้จะถูกภายนอกวิจารณ์อย่างหนัก ได้เยาะเย้ยกลุ่มสิทธิที่คัดค้านการเข่นฆ่าผู้ต้องสงสัย โดยบอกว่า พวกเขาสามารถประท้วงได้อย่างเสรี "ผมไม่แคร์"
เขายังไม่นำพากับเสียงคัดค้านต่อแผนการเชิดชูเฟอร์ดินันด์ มาร์กอส อดีตประธานาธิบดีเผด็จการ โดยบอกในวันเดียวกันว่า เขาจะผลักดันแผนการนำร่างของมาร์กอสมาฝังอย่างสมเกียรติที่ "สุสานวีรชน" ของประเทศ
ครอบครัวมาร์กอสยังเก็บรักษาร่างของเขาไว้ในโลงแก้วมานับแต่เขาเสียชีวิตในต่างแดนเมื่อปี 2532 หรือ 3 ปีหลังถูกพลังมวลชนโค่นอำนาจ โดยหวังว่าสักวันหนึ่งอดีตผู้นำที่ละเมิดสิทธิและคอร์รัปชันอย่างมโหฬารรายนี้จะได้รับการฝังที่สุสานวีรชนแห่งนี้
