เอเอฟพี - รัฐบาลเกาหลีใต้เตรียมสั่งห้ามจำหน่ายรถยนต์ปอร์เช่ บีเอ็มดับเบิลยู และนิสสันบางรุ่น รวมถึงสั่งปรับค่ายรถเหล่านี้เป็นเงินกว่า 5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หลังจากที่มีการขยายผลสอบสวนกรณีการติดตั้งอุปกรณ์โกงค่ามลพิษ
ทางการโซลได้เริ่มตรวจสอบเอกสารรับรองด้านสิ่งแวดล้อมในรถยนต์นำเข้า หลังจากปีที่แล้วค่ายยานยนต์ยักษ์ใหญ่ “โฟล์คสวาเกน” ได้ออกมายอมรับว่า มีการติดตั้งซอฟต์แวร์ที่สามารถโกงค่าไอเสียไว้ในรถยนต์เครื่องดีเซล 11 ล้านคันทั่วโลก
สิ่งที่เรียกว่า “อุปกรณ์ยังผล” (defeat device) นี้จะเปิดตัวควบคุมมลพิษระหว่างที่รถยนต์ถูกทดสอบค่าไอเสีย และจะปิดในขณะที่รถแล่นอยู่บนท้องถนนตามปกติ ซึ่งหมายความว่ารถยนต์เหล่านี้อาจปลดปล่อยก๊าซพิษไนโตรเจนออกไซด์ออกมาในปริมาณที่สูงมาก โดยที่ทางการของแต่ละประเทศตรวจไม่พบ
รัฐบาลเกาหลีใต้แถลงวานนี้ (29 พ.ย.) ว่า พบความผิดปกติในเอกสารรับรองมาตรฐานรถยนต์ 10 รุ่นที่จำหน่ายทั่วประเทศ โดยแบ่งออกเป็นรถยนต์ยี่ห้อนิสสัน 2 รุ่น, บีเอ็มดับเบิลยู 1 รุ่น และปอร์เช่อีก 7 รุ่น
ทางการโสมขาวยังเตรียมที่จะสั่งปรับบริษัทรถยนต์เหล่านี้เป็นเงินสูงถึง 6,500 ล้านวอน (เกือบ 200 ล้านบาท)
“เราจะให้เวลานิสสันและบีเอ็มดับเบิลยูชี้แจงจุดยืนผ่านกระบวนการไต่สวน และจะยื่นฟ้องหากพบว่ามีความไม่ชอบมาพากลเกิดขึ้นจริง” ฮอง ดอง-กอน เจ้าหน้าที่กระทรวงสิ่งแวดล้อมเกาหลีใต้ซึ่งกำกับดูแลด้านมาตรฐานสิ่งแวดล้อมในยานยนต์ ระบุ
ปอร์เช่ ได้ออกมาแถลงยอมรับว่า เอกสารรับรองมีข้อผิดพลาดจริง และได้หยุดจำหน่ายรถที่มีปัญหาแล้ว 4 รุ่น จากทั้งหมด 7 รุ่น
เมื่อเดือน ส.ค. กระทรวงสิ่งแวดล้อมเกาหลีใต้ได้สั่งห้ามจำหน่ายรถยนต์โฟล์คสวาเกนรวม 80 รุ่น และสั่งปรับบริษัทเป็นเงินถึง 16 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โทษฐานปลอมแปลงเอกสารรับรองระดับเสียงของเครื่องยนต์ ประสิทธิภาพของเชื้อเพลิง และค่าไอเสีย
คดีโกงมลพิษส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของโฟล์คสวาเกนอย่างรุนแรง โดยยอดขายในเกาหลีใต้ลดลงถึง 33% ในครึ่งแรกของปีนี้ เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน
ผู้ผลิตต่างชาติโดยเฉพาะโฟล์คสวาเกนเริ่มที่จะช่วงชิงส่วนแบ่งตลาดรถยนต์ในเกาหลีใต้ไปได้มากขึ้นเรื่อยๆ หลังจากที่ค่ายรถท้องถิ่นอย่าง ฮุนได และ เกีย ครองตลาดมานาน
รถยนต์นำเข้าคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 15 ของยอดจำหน่ายรถยนต์ทั้งหมดในเกาหลีใต้เมื่อปีที่แล้ว เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 10 เมื่อปี 2012