วางบึ้มถล่มขบวนรถทีมคุ้มกัน ปธน.ฟิลิปปินส์ หนึ่งวันก่อนดูเตอร์เตเดินทางลงพื้นที่

รอยเตอร์ - เกิดระเบิดข้างทางโจมตีทีมงานรักษาความปลอดภัยประธานาธิบดี โรดริโก ดูเตอร์เต แห่งฟิลิปปินส์ ในวันอังคาร (29 พ.ย.) ส่งผลให้เจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บ 7 นาย หนึ่งวันก่อนหน้าที่ผู้นำรายนี้มีแผนเดินทางเยือนพื้นที่ซึ่งมีการสู้รบกันอย่างดุเดือดระหว่างนักรบอิสลามิสต์ และกองกำลังรัฐบาล

ดูเตอร์เต เผยว่า เขาจะขัดขืนคำแนะนำของคณะที่ปรึกษา และจะยังคงเดินทางไปยังเมืองบูติกในวันพุธ (30 พ.ย.) เพื่อเยี่ยมทหารที่ได้รับบาดเจ็บ แม้เกิดเหตุระเบิดโจมตีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของเขา ขณะเดียวกัน ก็มีทหารได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ดังกล่าว 2 นายเช่นกัน

“รถกระบะบรรทุกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยล่วงหน้าของประธานาธิบดี เกิดตกถนนหลังถูกโจมตีด้วยระเบิดแสวงเครื่อง” เดลฟิน โลเรนซานา รัฐมนตรีกลาโหม บอกกับผู้สื่อข่าวในมะนิลา “ไม่มีการยิงต่อสู้กัน”

กลุ่มชายที่ได้รับบาดเจ็บในจังหวัดลาเนา เดล ซูร์ ถูกเคลื่อนย้ายทางอากาศในทันทีเพื่อความปลอดภัย ขณะที่มีรายงานว่า คณะสื่อสารมวลชนของทำเนียบประธานาธิบดีก็อยู่ในขบวนรถเช่นกัน แต่ไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆ

นักรบราว 40 คนจากกลุ่มเมาเต ซึ่งประกาศสวามิภักดิ์ต่อรัฐอิสลาม (ไอเอส) ถูกสังหารในปฏิบัติการโจมตีทางอากาศและจู่โจมทางภาคพื้นอาคารเทศบาลเก่าหลังหนึ่งที่พวกเขาเข้ายึดครองตั้งแต่เมื่อวันเสาร์ (26 พ.ย.) ส่วนทหารได้รับบาดเจ็บ 20 คน ในเหตุสู้รบที่ยังคงปะทะกันอย่างต่อเนื่องจนถึงวันอังคาร (29 พ.ย.)

รัฐมนตรีกลาโหม เผยว่า เขาแนะนำให้ประธานาธิบดียกเลิกกำหนดการเดินทาง “มันยังไม่อยู่ภายใต้การควบคุม” พร้อมระบุว่า ทหารกำลังพยายามตรวจสอบความเชื่อมโยงระหว่างกลุ่มนักรบท้องถิ่นต่างๆ กับพวกรัฐอิสลาม

อย่างไรก็ตาม ดูเตอร์เต เพิกเฉยคำแนะนำของคณะรัฐมนตรี และผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคง โดยบอกว่า เขายังจะเดินทางไปที่นั่น และสถานการณ์อยู่ภายใต้การควบคุมแล้ว “คำแนะนำคือให้เลื่อน แต่ผมบอกไม่ ผมจะไปที่นั่น และถ้าเป็นไปได้ ผมจะใช้เส้นทางเดียวกัน” ประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ กล่าว

ตำรวจเชื่อว่า บางทีพวกกลุ่มเมาเต อาจอยู่เบื้องหลังเหตุซุกระเบิดทำเองใกล้สถานทูตสหรัฐฯในมะนิลา เมื่อวันจันทร์ (28 พ.ย.)

โรนัลด์ เดลา โรซา ผู้บัญชาการตำรวจได้เผยแพร่ภาพสเกตช์ของผู้ต้องสงสัยกับผู้สื่อข่าว และวิงวอนประชาชนช่วยระบุตัวตนและแหล่งซ่อนตัวของชายรายนี้

เจ้าหน้าที่ตำรวจ ระบุว่า ชายคนดังกล่าวขับรถแท็กซี่เข้าไปใกล้สถานทูตในตอนกลางคืน และเอาบางอย่างไปซุกในถังขยะ ทั้งนี้ พนักงานกวาดถนนเป็นผู้มาเห็นเข้า ก่อนตำรวจจะปลดชนวนด้วยการระเบิดภายใต้การควบคุม