เอเอฟพี - อดีตนายกรัฐมนตรี ฟร็องซัวส์ ฟีญง ซึ่งให้สัญญาจะปฏิรูประบบราชการที่ใหญ่โตอุ้ยอ้ายของฝรั่งเศส สามารถเอาชนะคู่แข่ง “อแลง จุปเป” คว้าตำแหน่งผู้แทนพรรคฝ่ายขวาเพื่อลงชิงชัยในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีได้สำเร็จเมื่อวานนี้ (27 พ.ย.)
ฟีญง วัย 62 ปี มีแนวโน้มจะได้เป็น “เต็งหนึ่ง” สำหรับเก้าอี้ผู้นำเมืองน้ำหอมคนต่อไป หลังผ่านการคัดเลือกผู้แทนของพรรครีพับลิกันและพรรคพันธมิตรฝ่ายขวา ซึ่งมีกระบวนการคล้ายคลึงกับศึกหยั่งเสียงไพรแมรีในสหรัฐฯ
ผลการนับคะแนนที่เสร็จสิ้นไปแล้ว 9,915 หน่วยเลือกตั้งจากทั้งหมด 10,229 หน่วย พบว่า ฟีญง ได้คะแนนโหวตราว 66.5%
ฟีญง ได้ออกมากล่าวหลังจากทราบชัยชนะของตนเองว่า ตนได้ “ฉีกทุกสคริปต์ที่ถูกเขียนไว้ล่วงหน้า”
“ฝรั่งเศสจะทนเห็นประเทศชาติถดถอยไม่ได้อีกต่อไป ฝรั่งเศสต้องการความจริง และฝรั่งเศสต้องการการลงมือทำ” เขากล่าวท่ามกลางเสียงเชียร์ของผู้สนับสนุน หลังจากที่ จุปเป ซึ่งเป็นอดีตนายกรัฐมนตรีเช่นกัน ประกาศยอมรับความพ่ายแพ้
ฟีญง นักแข่งรถมือสมัครเล่น และเคยปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรีในรัฐบาลของนิโกลาส์ ซาร์โกซี ระหว่างปี 2007-2012 เคยมีคะแนนนิยมตามหลังทั้ง ซาร์โกซี และ จุปเป ตลอด 2 เดือนของการหาเสียง และเพิ่งจะตีตื้นขึ้นมาได้ในช่วงไม่กี่วันก่อนถึงศึกไพรมารี
ซาร์โกซี ได้ถอนตัวออกจากการแข่งขันทันทีที่พ่ายเลือกตั้งขั้นต้นรอบแรก เมื่อวันที่ 20 พ.ย. โดยได้คะแนนมาเป็นที่ 3 รองจาก ฟีญง และ จุปเป
ศึกเลือกตั้งผู้นำฝรั่งเศสถูกมองว่าเป็นบททดสอบสำคัญสำหรับพรรคการเมืองกระแสหลัก หลังจากที่อังกฤษประกาศถอนตัวออกจากสหภาพยุโรป (อียู) และมหาเศรษฐีผู้สร้างความแตกแยกอย่าง โดนัลด์ ทรัมป์ คว้าบัลลังก์ทำเนียบขาวมาได้
การเลือกตั้งประธานาธิบดีในฝรั่งเศสจะจัดขึ้น 2 รอบระหว่างเดือน เม.ย- พ.ค.ปีหน้า โดยคาดว่า ฟีญง จะต้องชิงชัยกับ มารีน เลอแปน ผู้นำพรรคขวาจัดเนชันแนลฟรอนต์ ซึ่งหวังจะสร้างปรากฏการณ์ช็อกโลกได้เช่นเดียวกับ โดนัลด์ ทรัมป์ ในสหรัฐฯ
ฟีญง ให้สัญญาว่าจะเป็นผู้แทนของ “ทุกๆ คนที่ภาคภูมิใจในความเป็นฝรั่งเศส” และจะเข้ามาพลิกประวัติศาสตร์ที่ “น่าสังเวช” ภายใต้การบริหารของประธานาธิบดีจากพรรคโซเชียลลิสต์
เขาเตือนด้วยว่า ชัยชนะของ เลอแปน ซึ่งมีจุดยืนต่อต้านสหภาพยุโรปจะทำให้ฝรั่งเศสต้อง “ล้มละลาย”
ผลสำรวจความคิดเห็น 2 ชิ้นที่เผยแพร่เมื่อค่ำวันอาทิตย์ (27) ระบุว่า ฟีญง ยังมีคะแนนนิยมเหนือกว่า เลอแปน สำหรับศึกเลือกตั้งผู้นำฝรั่งเศสรอบแรก ขณะที่ผู้สมัครจากพรรคฝ่ายซ้ายถูกเบียดตกขอบชนิดไม่เห็นฝุ่น
