xs
xsm
sm
md
lg

InClip: ทรัมป์ยอมจบจ่าย 25 ล้านดอลลาร์ เซ่นคดีฉาวมหา’ลัยทรัมป์โกงเด็ก “อ้างไม่มีเวลา” แต่ชื่นมื่นกระชับมือกับอดีตคู่แข่ง “มิตต์ รอมนีย์” ว่าที่ รมว.ต่างประเทศสหรัฐฯ คนใหม่

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


เอเจนซีส์/รอยเตอร์ - โดนัลด์ ทรัมป์ ยอมประนีประนอมคดีฉ้อโกงมหาวิทยาลัยทรัมป์ ด้วยการจ่ายเงินจำนวน 25 ล้านดอลลาร์ ในวันศุกร์ (18 พ.ย.) แต่ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาต่อเหยื่อนักศึกษาทั่วอเมริการ่วม 6,000 คนที่ต้องถูกหลอกให้จ่ายค่าลงทะเบียน 35,000 ดอลลาร์ เรียนเคล็ดลับการลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์แบบทรัมป์ ด้านเจ้าพ่ออสังหาริมทรัพย์อเมริกัน ออกมาอ้างเหตุยอมความ “เป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯทำให้ไม่มีเวลาไปขึ้นศาล” แต่เมื่อวานนี้ (19 พ.ย.) กลับชื่นมื่นชั่วโมงครึ่งกับคู่แข่ง อดีตผู้ว่าการรัฐแมสซาชูเซตส์ มิตต์ รอมนีย์ หารือคืบหน้าคัดตัวเข้ารับตำแหน่งว่าที่รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯคนใหม่

รอยเตอร์รายงานเมื่อวานนี้ (19 พ.ย.) ว่า คดีความฉ้อโกงมหาวิทยาลัยทรัมป์ ที่มีนักศึกษาทั่วสหรัฐฯตกเป็นเหยื่อ 6,000 คน ถูกทำให้เข้าใจผิด หากได้ลงทะเบียนในคอร์สระยะสั้นกับมหาวิทยาลัยทรัมป์แล้ว นักศึกษาเหล่านี้จะได้เรียนรู้เคล็ดลับความสำเร็จในการลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ของเจ้าพ่ออสังหาริมทรัพย์อเมริกัน โดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งพบว่านักศึกษาแต่ละรายต้องยอมจ่ายค่าลงทะเบียนจำนวน 35,000 ดอลลาร์

โดยการออกมายอมประนีประนอมและจ่ายเงินค่าชดเชยยุติคดีมูลค่า 25 ล้านดอลลาร์ของทรัมป์ในวันศุกร์ (18 พ.ย.) ทำให้อัยการรัฐนิวยอร์ก เอริค ชไนเดอร์แมน (Eric Schneiderman) ได้ประกาศว่า ถือเป็นชัยชนะของผู้ที่ต้องตกเป็นเหยื่อทั่วประเทศร่วม 5,000 คน ที่มีค่าเสียหายโดยประมาณ 40 ล้านดอลลาร์ และดังนั้น ค่าเสียหายที่ทรัมป์ยอมจ่ายให้ในตัวเลข 25 ล้านดอลลาร์ ถือเป็นการชดเชยให้ 60% ของยอดความเสียหายทั้งหมด

โดยในแถลงการณ์ของชไนเดอร์ ระบุว่า ข้อตกลงการประนีประนอมสามารถบรรลุได้ในท้ายที่สุด หลังจากที่ผ่านมา ทรัมป์ ปฏิเสธครั้งแล้วครั้งเล่าต่อการที่จะยอมความที่จะจ่ายแม้กระทั่งตัวเลขค่าความเสียหายที่ต่ำสุดของบรรดาโจทก์ที่ต่างยื่นฟ้อง ซึ่งล้วนเป็นเหยื่อจากมหาวิทยาลัยที่อื้อฉาวและฉ้อโกงของเขา

รอยเตอร์รายงานว่า ในแถลงการณ์ของอัยการรัฐนิวยอร์ก ยังได้ชี้ถึง “การยอมพลิกคดีอย่างน่าพิศวงของทรัมป์ ซึ่งถือเป็นชัยชนะครั้งยิ่งใหญ่ต่อผู้เสียหายที่ตกเป็นเหยื่อร่วม 6,000 คน”

ทั้งนี้ พบว่า ข้อตกลงการประนีประนอมนี้ครอบคลุมไป 3 คดี ที่เกี่ยวข้องกับมหาวิทยาลัยทรัมป์ โดยมี 2 คดี ถูกฟ้องในรัฐแคลิฟอร์เนีย และอีก 1 คดี ฟ้องโดย ชไนเดอร์แมน อัยการรัฐนิวยอร์ก แต่อย่างไรก็ตาม ผู้พิพากษาศาลแขวงรัฐบาลกลางสหรัฐฯประจำเมืองซานดิเอโก กอนซาโล คูเรียล (Gonzalo Curiel) ยังคงต้องเป็นผู้อนุมัติข้อตกลงประนีประนอมครั้งนี้

และในวันเสาร์ (19 พ.ย.) เจ้าพ่ออสังหาริมทรัพย์อเมริกัน ออกแถลงการณ์แก้ตัวทางทวิตเตอร์ โดยอ้างว่า สาเหตุที่จำเป็นต้องยอมยุติคดี และทำการตกลงยอมความ ทั้งๆ ที่ไม่ได้ทำอะไรผิด เป็นเพราะเขาไม่มีเวลาในการเดินทางไปศาล เนื่องจากในขณะนี้จำเป็นต้องใช้เวลาทั้งหมดในการจัดตั้งรัฐบาลสหรัฐฯชุดใหม่ และขึ้นเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯคนที่ 45

“ผมจำเป็นต้องตกลงยอมความคดีมหาวิทยาลัยทรัมป์ สำหรับค่าเสียหายจำนวนเล็กน้อยจำนวนหนึ่ง เพราะในฐานะที่เป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ ผมมีหน้าที่ต้องทุ่มความสนใจทั้งหมดไปให้กับประเทศของเรา” ทรัมป์ แถลง และยังกล่าวต่อว่า “สิ่งที่แย่ที่สุดสำหรับการชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ คือ ผมไม่มีเวลาสำหรับการไปขึ้นศาลพิจารณาคดีมหาวิทยาลัยที่เชื่อว่าต้องชนะในท้ายที่สุด ช่างเป็นสิ่งที่แย่จริงๆ”

และในวันเดียวกัน (19 พ.ย.) ได้มีการพบปะเกิดขึ้นครั้งสำคัญระหว่างคู่แข่ง อดีตผู้ว่าการรัฐแมสซาชูเซตส์ และอดีตตัวแทนพรรคพรรครีพับลิกัน ชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ปี 2012 มิตต์ รอมนีย์ ซึ่งสื่อสหรัฐฯ NBC NEWS รายงานว่า ทรัมป์ต้องการทาบทามให้รอมนีย์เข้าร่วมกับคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ของเขาในตำแหน่งรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ คนถัดไป

โดยในรายงานพบว่า มีภาพการส่งยิ้มของรอมนีย์ และการกระชับมือระหว่างทรัมป์ และรอมนีย์ และว่าที่รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ ไมค์ เพนซ์ ที่สนามกอล์ฟนานาชาติ ในเมืองเบดมินสเตอร์ ทาวน์ชิป (Bedminster Township) รัฐนิวเจอร์ซีย์ ของวันเสาร์ (19 พ.ย.) และลืมภาพอดีตครั้งเก่าในช่วงการหาเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่ รอมนีย์เคยออกมาประณามทรัมป์ ว่า “เป็นพวกจอมปลอมและหลอกหลวง”

ซึ่งเป็นการพบปะหารือนานราว 1 ชม 30 นาที สื่อสหรัฐฯชี้

โดยแหล่งข่าวใกล้ชิดได้เปิดเผยกับ NBC NEWS ว่า ดูเหมือนทรัมป์ต้องการให้รอมนีย์นั่งในตำแหน่งรัฐมนตรีต่างประเทศอเมริกา ถึงแม้ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯคนใหม่ ยังไม่แถลงต่อสาธารณะถึงบทบาทในสิ่งที่รอมนีย์จะต้องทำ หากมี และหลังจากการพบปะ ทรัมป์ได้เปิดเผยกับสื่อว่า “เป็นการหารือที่ยอดเยี่ยม” ในขณะเดียวกัน อดีตผู้ว่าการรัฐแมสซาชูเซตส์ ได้แถลงหลังจากหารือกับทรัมป์แล้วว่า “เราทั้งคู่ได้มีการแลกเปลี่ยนในแบบข้ามขั้ว ที่มีการพูดคุยไปถึงประเด็นต่างๆ ในสิ่งที่จะเป็นประโยชน์ต่อสหรัฐฯ”

นอกจากนี้ รอมนีย์ ยังเปิดเผยต่อว่า “เขาได้มีโอกาสสนทนาแลกเปลี่ยนแบบเปิดอกและลึกซึ้งต่อว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เป็นครั้งแรก และรู้สึกยินดีที่ได้มีโอกาสแลกเปลี่ยน พร้อมกับรอคอยรัฐบาลสหรัฐฯชุดใหม่ที่จะถูกจัดตั้งขึ้นในอนาคต”

สื่อสหรัฐฯรายงานต่อว่า พบว่า ในวันศุกร์ (18 พ.ย.) ทีมจัดการเปลี่ยนผ่านอำนาจของทรัมป์ได้เริ่มต้นประสานงานร่วมกับกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ

และในวันเสาร์ (19 พ.ย.) นอกจากการพบกับรอมนีย์อย่างเป็นทางการแล้ว ทรัมป์ยังมีกำหนดต้องพบกับบุคคลสำคัญอื่นๆ อีกจำนวนหนึ่ง เป็นต้นว่า อดีตพลเอกนาวิกโยธินสหรัฐฯ เจมส์ เอ็น แมตติซ (James N. Mattis) ผู้ก่อตั้งประธานศูนย์สำหรับชุมชนเอนเตอร์ไพรซ์ โรเบิร์ต แอล วูดสัน ซีเนียร์ (Robert L. Woodson Sr)






กำลังโหลดความคิดเห็น