xs
xsm
sm
md
lg

InClip : มันหยด!! “ดูเตอร์เต” พบ “ปูติน” ด่ากลางเอเปกซัมมิต “ตะวันตกจ้องโจมตีชาติเล็ก ก่อสงครามที่ไม่อยากส่งตัวเองไปรบ” แถมชี้เหมือนผู้นำรัสเซีย “ปากหมา-ต่อความอยุติธรรม”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


เอเจนซีส์ – เมื่อวานนี้ (19 พ.ย.) ประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ โรดริโก ดูเตอร์เต พบกับ ประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูติน เป็นครั้งแรกในการประชุมเอเปกซัมมิต ที่เปรู พูดคุยถึงความก้าวหน้าความสัมพันธ์ระดับทวิภาคีของทั้ง 2 ชาติ ก่อนชี้แต่เดิมฟิลิปปินส์ต้องการเป็นส่วนหนึ่งของโลกตะวันตก แต่สถานการณ์เปลี่ยนเมื่อในเวลานี้ชาติมหาอำนาจเหล่านี้ หันมาจ้องโจมตี และคุกคามชาติเล็ก ชี้ เป็นลักษณะอันธพาลฟาสซิสต์ที่มีอยู่ในตัวของอเมริกา และชาติพันธมิตร เริ่มต้นสงครามที่ตัวเองไม่กล้าที่จะจบ ก่อนประกาศตัวเองมีความเหมือนผู้นำรัสเซีย “สบถถูกที่ ปากหมา - ต่อความอยุติธรรม”

RT สื่อรัสเซียรายงานเมื่อวานนี้ (19 พ.ย.) ว่า เป็นครั้งแรกหลังการเข้ารับตำแหน่งของประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ โรดริโก ดูเตอร์เต ในการพบกับผู้นำรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูติน โดยทั้งคู่มีโอกาสพบปะนอกรอบแบบสองต่อสองในการประชุมเอเปกซัมมิต ในกรุงลิมา เปรู

ซึ่งเป็นการพบปะแบบชื่นมื่น แสดงให้เห็นว่า ฟิลิปปินส์หันหลังให้สหรัฐฯ และชาติตะวันตกซึ่งเป็นพันธมิตรกับอเมริกา อย่างเต็มตัว โดยทั้ง ดูเตอร์เต และปูติน ได้ถกถึงความก้าวหน้าทางด้านความสัมพันธ์ของทั้ง 2 ชาติ ที่มีความสัมพันธ์ทางการทูตมาอย่างยาวนานถึง 40 ปี และผู้นำรัสเซียยังยินดีที่ได้มีโอกาสได้สนทนากับผู้นำฟิลิปปินส์จากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งแสดงความกร้าวและท้าทายสหรัฐฯมาตั้งแต่เริ่มรับตำแหน่ง

โดยสำนักข่าวทาซซ์ได้รายงานคำแถลงของประธานาธิบดีรัสเซีย ว่า “ระยะเวลาที่ยาวนานนี้ ช่างสั้นในแง่ของประวัติศาสตร์ แต่เราทั้ง 2 ชาติ ต่างได้พัฒนาความสัมพันธ์มาตามลำดับและสร้างความไว้วางใจเพิ่มมากขึ้น”

นอกจากนี้ สื่อรัสเซียยังรายงานว่า ปูตินได้แสดงความยินดีต่อดูเตอร์เตในชัยชนะครั้งสำคัญของการเลือกตั้งประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ ในวันที่ 9 พ.ค. ซึ่งผู้นำรัสเซียย้ำว่า เป็นวันที่พิเศษต่อชาวรัสเซียทุกคน เพราะวันนี้ อดีตสหภาพโซเวียตสามารถมีชัยเหนือนาซีเยอรมันสำเร็จในปี 1945

ในขณะเดียวกัน RT ชี้ว่า ดูเตอร์เตได้ตอบกลับปูตินด้วยความชื่นมื่น โดยกล่าวว่า “เฝ้ารอการพบปะกับผู้นำรัสเซีย” เพราะไม่เพียงแต่ที่ปูตินเป็นประธานาธิบดีของชาติที่แข็งแกร่ง และยิ่งใหญ่ไม่แพ้ใคร แต่ยังเป็นเพราะความเป็นผู้นำในตัวปูติน”

และในการหารือครั้งนี้ ดูเตอร์เต ยังได้เปิดเผยต่อปูติน ว่า แต่เดิมฟิลิปปินส์ต้องการเป็นส่วนหนึ่งของโลกตะวันตก “แต่สถานการณ์เปลี่ยนเมื่อในเวลานี้ชาติมหาอำนาจเหล่านี้หันมาจ้องโจมตี และคุกคามชาติเล็ก”

พร้อมกล่าวต่อว่า “พฤติกรรมเช่นนี้เป็นสัญลักษณ์ของพวกอันธพาลฟาสซิสต์ที่มีอยู่ในสหรัฐฯ และชาติพันธมิตรของอเมริกา” และเสริมว่า “ชาติเหล่านี้เริ่มสงครามที่พวกเขาขาดกลัวเกินกว่าที่จะรบด้วยตัวเอง” ซึ่งผู้นำฟิลิปปินส์ได้กล่าวโยงไปถึงการที่สหรัฐฯเป็นผู้เริ่มต้นก่อสงครามในหลายประเทศ เช่น เวียดนาม เกาหลี อิรัก และอัฟกานิสถาน และที่อื่นๆ ด้วยนโยบายการทำลายล้างของอเมริกา

ซึ่งถึงแม้ว่า ผู้นำฟิลิปปินส์จะเคยกล่าวหยามเหยียดประธานาธิบดีสหรัฐฯ บารัค โอบามา ในทางที่เลวร้ายที่สุด พร้อมทั้งยุติความร่วมมือทางการทหารในการตรวจการณ์ทางทะเลจีนใต้ และการฝึกซ้อมรบร่วม ก่อนที่จะถูกวอชิงตันตอบโต้ด้วยการไม่ขายอาวุธปืนไรเฟิลให้ แต่ทว่าดูเตอร์เตกลับแสดงความยินดีต่อชัยชนะการเลือกตั้งของว่าที่ผู้นำสหรัฐฯคนถัดไป โดนัลด์ ทรัมป์ พร้อมกับชี้ว่า ทั้งทรัมป์และตัวเขามีความคล้ายคลึงหลายประการ

และจากคุณสมบัตินี้ RT รายงานว่า ตูเตอร์เต ซึ่งถือว่าเป็นผู้นำที่ขึ้นชื่อในเรื่องเป็นผู้ที่มักสบถและสาบาน และวาทะทางการเมืองที่สุดโต่ง ได้นำมาชื่นชมปูติน และกล่าวว่า “เราทั้งคู่ต่างชอบสบถและสาบาน แต่มีสิ่งหนึ่งคือ พวกเราต่างกระทำอย่างถูกทาง สบถต่อความอยุติธรรมที่เกิด และนั่นเป็นความเหมือนของพวกเราทั้งคู่”

การประชุมเอเปกซัมมิตเริ่มต้นขึ้นในวันที่ 19 - 20 พ.ย. ในกรุงลิมา ประเทศเปรู







กำลังโหลดความคิดเห็น