xs
xsm
sm
md
lg

InClips : วอชิงตันโพสต์แฉ “โดนัลด์ ทรัมป์” แอบติดต่อกับรัฐบาลรัสเซียช่วงหาเสียงเลือกตั้ง ปธน.สหรัฐฯ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


เอเจนซีส์ - เมื่อวานนี้ (10 พ.ย.) หนังสือพิมพ์สหรัฐฯ วอชิงตันโพสต์รายงานว่า ผู้ช่วยรัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย เซอร์เก รยาบคอฟ (Sergei Ryabkov) ได้ออกมายอมรับในวันพฤหัสบดี (10) ว่ารัฐบาลรัสเซียได้ทำการติดต่อกับทีมหาเสียงของว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ จากพรรครีพับลิกัน โดนัลด์ ทรัมป์ ในช่วงการหาเสียงเลือกตั้ง พร้อมกับอ้างต่อว่ารัสเซียรู้จักคนวงในของเจ้าพ่ออสังหาริมทรัพย์ และเล็งช่องทางเพื่อสานความสัมพันธ์ในการติดต่อกับรัฐบาลสหรัฐฯ ในยุคของทรัมป์ในอนาคตข้างหน้า

หนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์ สื่อสหรัฐฯ รายงานเมื่อวานนี้ (10 พ.ย.) ว่า การเปิดเผยรอบใหม่อาจจะนำไปสู่การตรวจสอบถึงบทบาทของรัสเซียในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่ดุเดือดระหว่าง โดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกัน และ ฮิลลารี คลินตัน จากพรรคเดโมแครต หลังจากที่ว่าผู้ช่วยรัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย เซอร์เก รยาบคอฟ (Sergei Ryabkov) ได้ออกมายอมรับในวันพฤหัสบดี (10) กับสื่อรัสเซีย อินเตอร์แฟกซ์ว่า “มีการติดต่อกับทีมหาเสียงของโดนัลด์ ทรัมป์”

ในรายงาน รยาบคอฟยังกล่าวยืนยันว่า “แน่นอนที่สุด ทางรัสเซียรู้จักคนวงในส่วนใหญ่ของเจ้าพ่อสังหาริมทรัพย์เป็นอย่างดี” และได้เปิดเผยต่อว่า “ทางเรากำลังเริ่มต้นพิจารณาถึงรู้ทางในการสร้างความสัมพันธ์ข่องทางการเจรจากับรัฐบาลสหรัฐฯของโดนัลด์ ทรัมป์ในอนาคต และช่องทางที่ทางรัสเซียพิจารณาจะใช้เพื่อจุดประสงค์นี้”

สื่อสหรัฐฯ รายงานว่า อย่างไรก็ตาม ผู้ช่วยรัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซียไม่ได้เปิดเผยเพิ่มเติมในรายละเอียด แต่ทว่าตัวแทนของเจ้าพ่ออสังหาริมทรัพย์ โฮป ฮิกส์ (Hope Hicks) ได้ออกแถลงการณ์โต้ว่า “ทีมหาเสียงของโดนัลด์ ทรัมป์ไม่ได้ติดต่อกับเจ้าหน้าที่รัสเซียก่อนวันเลือกตั้งสหรัฐฯในวันอังคาร (8) ที่ผ่านมา”

ทั้งนี้ วอชิงตันโพสต์ชี้ว่า การออกมาเปิดเผยของรัสเซียสร้างความสนใจจากผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคงสหรัฐฯ ซึ่งอ้างอิงจากแหล่งข่าวเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ที่ชี้ว่า เครมลินต้องการเข้ามายุ่งเกี่ยวกับการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่ก่อนหน้านี้ทางวอชิงตันได้ออกมากล่าวหาว่า เครมลินใช้เล่ห์สกปรกโจมตีทางไซเบอร์ และแฮกอีเมล จอห์น โพเดสตา (John Podesta) ผู้จัดการหาเสียงของฮิลลารี คลินตัน และสำนักงานบริหารพรรคเดโมแครต DNC ซึ่งหลังจากนั้นข้อมูลความลับถูกเผยแพร่ไปทั่วโลกโดยสื่อวิกีลีกส์ของเจ้าพ่อจูเลียน แอสซานจ์

ด้านโฆษกกระทรวงต่างประเทศรัสเซีย มาเรีย ซาคาโรวา (Maria Zakharova) ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อธุรกิจ บลูมเบิร์ก ชี้ว่า “เจ้าหน้าที่ประจำสถานทูตรัสเซียในกรุงวอชิงตัน ดีซีได้เข้าพบกับเจ้าหน้าที่ทีมหาเสียงของโดนัลด์ ทรัมป์จำนวนหนึ่ง” โดยซาคาโรวาระบุว่า “เป็นการพบปะตามปกติทั่วไป”

แต่อย่างไรก็ตาม ซาคาโรวาเปิดเผยว่า ทีมหาเสียงของฮิลลารี คลินตัน ปฏิเสธการขอเข้าพบของเจ้าหน้าที่รัสเซีย ด้านทีมหาเสียงการเลือกตั้งได้ออกมาปฎิเสธการกล่าวอ้างจากโฆษกกระทรวงต่างประเทศรัสเซีย โดยชี้ว่า เป็นเท็จ

สื่อสหรัฐฯ รายงานเพิ่มเติมต่อว่า และเมื่อทางสื่อสหรัฐฯได้ขอให้แหล่งข่าวการต่างประเทศรัสเซีย ช่วยอธิบายการออกมาให้สัมภาษณ์ของผู้ช่วยรัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซียเพิ่มเติม แต่ทว่าแหล่งข่าวกระทรวงต่างประเทศรัสเซียปฎิเสธ แต่ชี้ว่าเป็นมาตรฐานการปฏิบัติทางการทูตที่เรียกว่า “การติดต่อกับบรรดาดาแกนนำในแคมเปญหาเสียง” ในประเด็นเพื่อขอความกระจ่างจากผู้สมัคร หรือการช่วยติดต่อเพื่อขอการเข้าสัมภาษณ์จากนักข่าวรัสเซียเป็นต้น”

วอชิงตันโพสต์รายงานเพิ่มเติมว่า ประเด็นฉาวของว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนใหม่ และความสัมพันธ์ที่ไม่ธรรมดากับรัสเซียเป็นข่าวฉาวเริ่มตั้งแต่การหาเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เนื่องมาจากเหตุผลที่ว่าทรัมป์ให้ความเป็นกันเองและเป็นมิตรอย่างอบอุ่นกับประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูติน มากจนเกินไป และรวมไปถึงธุรกิจของทรัมป์ในอดีตในรัสเซีย ซึ่งมาจนถึงปัจจุบันนี้ ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่า เจ้าพ่ออสังหาริมทรัพย์อเมริกันได้เคยลงทุนในรัสเซียหรือไม่ เพราะทรัมป์ไม่เคยเคยเปิดเผยรายงานการเสียภาษีต่อสาธารณะแม้แต่ครั้งเดียว

ซึ่งในปี 2013 พบว่า โดนัลด์ ทรัมป์ ได้ทำเงินจำนวนหลายล้านดอลลาร์หลังจากที่เขานำการประกวดมิสยูนิเวิร์สไปยังกรุงมอสโก นอกจากนี้ยังพบว่าโอลิกาดช์รัสเซียถือเป็นแหล่งการลงทุนสำคัญของธุรกิจทรัมป์ โดยลูกชายของเขา โดนัลด์ ทรัมป์ จูเนียร์ (Donald Trump Jr.) ได้เปิดเผยในปี 2008 ว่า “รัสเซียได้เข้ามาลงทุนจำนวนมหาศาลแบบครอสเซกชันในธุรกิจจำนวนมากของเรา” และกล่าวต่อว่า “ทางตระกูลทรัมป์เห็นเงินจากรัสเซียจำนวนมากไหลเข้ามา”

นอกจากนี้ยังพบว่า ผู้ช่วยของทรัมป์จำนวนหนึ่งมีความสัมพันธ์อย่างเปิดเผยกับกับรัสเซีย ซึ่งรวมไปถึงอดีตประธานการหาเสียง พอล มานาฟอร์ต (Paul Manafort) ที่เป็นผู้จัดการลงทุนให้กับโอลิกาดช์รัสเซียซึ่งเป็นคนใกล้ชิดของปูติน และส่งผลทำให้มานาฟอร์ตต้องลาออกจากการทำหน้าที่ในแคมเปญหาเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ หลังจากนั้นเมื่อมีการเปิดเผยถึงชื่อของเขาปรากฏอยู่ในสมุดบัญชีลับเงินยูเครน ซึ่งถูกจ่ายออกไปโดยพรรคการเมืองของอดีตประธานาธิบดียูเครน วิกเตอร์ ยานูโควิช

และสื่อสหรัฐฯ รายงานเพิ่มเติมว่า พล.ท.ไมเคิล ฟลินน์ (Michael Flynn) ที่ปลดเกษียณแล้วจากกองทัพสหรัฐฯ และดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาด้านความมั่นคงให้กับทรัมป์ มีภาพปรากฏตัวเขานั่งติดกับปูตินในปี 2015 ในงานเลี้ยงตอนค่ำซึ่งจัดโดยสถานีโทรทัศน์รัสเซีย RT

และในทางการเมือง ทรัมป์ได้เรียกร้องให้สหรัฐฯ กลับมามีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับรัสเซียเพื่อร่วมต่อต้านการก่อการร้าย กลุ่ม IS และทรัมป์ยังปฏิเสธที่จะออกมากล่าวไม่ยอมรับในการออกมาให้ความเห็นชื่นขมในตัวเขาจากประธานาธิบดีปูติน ที่ได้กล่าวถึงทรัมป์ว่า “เป็นผู้มีความสามารถและมีสีสัน” ซึ่งเป็นคำชื่นชมที่ถูกตีความผิดโดยสำนักข่าวบางสำนักว่า “เป็นอัจฉริยะ”

โดยในการให้สัมภาษณ์ครั้งหนึ่ง ทรัมป์ได้ประกาศว่า “เขาเรียกผมว่าอัจฉริยะ และจะให้ผมประกาศปฏิเสธไม่ยอมรับเช่นนั้นหรือ” และเสริมต่อว่า “ผมจะไม่ยอมปฏิเสธต่อตัวปูตินอย่างแน่นอน” ทั้งนี้ จากแถลงการณ์ของเจ้าพ่ออสังหาริมทรัพย์ ทรัมป์อ้างว่า เขาไม่เคยพบกับผู้นำรัสเซีย แต่ทว่าวอชิงตันโพสต์ชี้ว่าในปี 2015 ทรัมป์ได้เคยออกมาอ้างว่าได้เคยพบกับผู้นำรัสเซียแล้ว

ซึ่งในขณะที่เจ้าหน้าที่รัสเซียต่างออกมาสรรเสริญในชัยชนะของโดนัลด์ ทรัมป์ แต่รยาบคอฟได้กล่าวต่อสำนักข่าวอินเตอร์แฟกซ์ว่า “ทางรัสเซียไม่ต้องการให้สาธารณะ หรืออย่างน้อยผู้รับข่าวสารจากสำนักข่าวอินเตอร์แฟกซ์ มีความเข้าใจไปว่า เครมลินนั้นกำลังเต็มเปี่ยมไปด้วยความคาดหวัง”

ทั้งนี้ รอยเตอร์รายงาน 1 วันหลังจากการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ว่า มีการเปิดเผยภาพวิดีโอคลิปของ วลาดิมีร์ ซิรีนอฟสกี (Vladimir Zhirinovsky) นักการเมืองชาตินิยมขวาจัดรัสเซีย และยังเป็นพันธมิตรของประธานาธิบดีปูติน ได้ชนแก้วฉลองความสำเร็จในชัยชนะการเลือกตั้งให้แก่โดนัลด์ ทรัมป์ โดยเขากล่าวว่า “เพื่อโดนัลด์ ทรัมป์ เพื่อชัยชนะ เพื่อทุกสิ่งที่ดีในสหรัฐฯ”













กำลังโหลดความคิดเห็น