เอเจนซีส์ - มหาเศรษฐี “โดนัลด์ ทรัมป์” ผู้สมัครจากพรรครีพับลิกัน สร้างปาฏิหาริย์ครั้งใหญ่ด้วยการคว้าเก้าอี้ประธานาธิบดีสหรัฐฯ มาครองได้สำเร็จในวันนี้ (9 พ.ย.) หลังสามารถเก็บชัยชนะได้ที่รัฐเพนซิลเวเนีย และวิสคอนซิน กวาดจำนวนคณะผู้เลือกตั้ง (electotal college) ได้ถึง 277 เสียง ขณะที่ตัวเต็งอย่าง “ฮิลลารี คลินตัน” จากพรรคเดโมแครต กลับพ่ายแพ้ไปอย่างเหนือความคาดหมาย โดยได้คณะผู้เลือกตั้งมาเพียง 218 เสียง
จากการสรุปคะแนนล่าสุดช่วงบ่ายวันนี้ (9 พ.ย.) ตามเวลาในไทย โดนัลด์ ทรัมป์ เก็บชัยชนะไปแล้วทั้งสิ้นใน 28 มลรัฐ ได้แก่ เคนตักกี (มีคณะผู้เลือกตั้ง 8 คน), อินดีแอนา (11), เวสต์เวอร์จิเนีย (5), เทนเนสซี (11), เซาท์แคโรไลนา (9), แอละแบมา (9), มิสซิสซิปปี (6), อาร์คันซอ (6), แคนซัส (6), โอกลาโฮมา (7), นอร์ทดาโกตา (3), เซาท์ดาโกตา (3), ไวโอมิง (3), ลุยเซียนา (8), เนแบรสกา (4), มอนทานา (3), มิสซูรี (10) โอไฮโอ (18) เทกซัส (38), ฟลอริดา (29), ไอดาโฮ (4) นอร์ทแคโรไลนา (15) จอร์เจีย (16), ไอโอวา (6), ยูทาห์ (6), อะแลสกา (3), เพนซิลเวเนีย (20) และล่าสุดคือ วิสคอนซิน (10) ซึ่งทำให้จำนวนคณะผู้เลือกตั้งของ ทรัมป์ นั้นพุ่งขึ้นไปถึง 277 คนแล้ว
ด้าน ฮิลลารี คลินตัน คว้าชัยที่รัฐเวอร์มอนต์ (มีคณะผู้เลือกตั้ง 3 คน), แมสซาชูเซตส์ (11), โรดไอแลนด์ (4), นิวเจอร์ซีย์ (14), เดลาแวร์ (3), แมริแลนด์ (10), อิลลินอยส์ (20), คอนเน็ตทิคัต (7), นิวเม็กซิโก (5), นิวยอร์ก (29), โคโลราโด (9), เวอร์จิเนีย (13), วอชิงตัน (12), ฮาวาย (4), แคลิฟอร์เนีย (55), ออริกอน (7), เนวาดา (6), เมน (3) และเขตปกครองพิเศษโคลัมเบีย หรือ วอชิงตัน ดี.ซี. (3) รวมจำนวนคณะผู้เลือกตั้ง 218 คน
เนื่องจากทั่วสหรัฐฯ มีจำนวนคณะผู้เลือกตั้ง 538 คนในปีนี้ ดังนั้น ผู้สมัครคนไหนได้ไป 270 เสียงก็เป็นผู้ชนะทันที
คะแนนที่ออกมาสร้างความตะลึงงันต่อบรรดานักวิเคราะห์การเมือง เมื่อมหาเศรษฐีปากเปราะที่เคยมีคะแนนไล่หลังในเกือบทุกโพลก่อนหน้านี้กลับกลายมาเป็นฝ่ายนำ คลินตัน ในหลายๆ รัฐสวิงสเตทส์ ซึ่งเป็นตัวตัดสินชี้ขาดศึกเลือกตั้งประธานาธิบดี
ผู้สื่อข่าวเอ็นบีซีนิวส์ได้รายงานผ่านทวิตเตอร์ว่า พอล ไรอัน ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ สังกัดพรรครีพับลิกัน ได้โทรศัพท์ไปแสดงความยินดีกับ ทรัมป์ และ ไมค์ เพนซ์ คู่หูชิงรองประธานาธิบดี โดย ไรอัน ได้สนทนากับบุคคลทั้งสอง “อย่างอารมณ์ดี”
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวอ่อนยวบ เช่นเดียวกับดัชนีตลาดหลักทรัพย์ที่ดิ่งรูดระนาวในวันนี้ (9 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนต่างวิตกกังวลต่อผลกระทบที่จะตามมาหาก โดนัลด์ ทรัมป์ ก้าวขึ้นเป็นผู้นำทำเนียบขาว
เงินเปโซเม็กซิโกอ่อนค่าลงสู่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์วันนี้ (9) โดยกระแสความกังวลเรื่องที่ ทรัมป์ จะกลายมาเป็นผู้นำสหรัฐฯ นั้นได้สร้างแรงกดดันต่อสกุลเงินเม็กซิโกมานานหลายเดือนแล้ว เนื่องจาก ทรัมป์ เคยขู่ว่าจะฉีกข้อตกลงการค้าเสรีกับแดนจังโก้ และจะเก็บภาษีจากเงินที่ผู้อพยพเม็กซิกันส่งกลับบ้านเกิด เพื่อนำมาเป็นทุนก่อสร้างกำแพงกั้นพรมแดน