รอยเตอร์ / เอเจนซีส์ / MGR online - เกิดเหตุกลุ่มมือปืนบุกโจมตีธนาคารแห่งหนึ่ง รวมถึงเรือนจำที่เมืองบานัมบา ทางตอนใต้ของมาลีในวันจันทร์ (7 พ.ย.) เป็นเหตุให้มีนักโทษหลบหนีออกไปได้ 21 ราย
รายงานข่าวซึ่งอ้างการให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์กับรอยเตอร์ของ อมาดู ซังโก โฆษกกระทรวงความมั่นคงของมาลี ระบุว่า กลุ่มมือปืนเดินทางมาด้วยขบวนรถ 3 คัน และจักรยานยนต์อีก 4 คัน จากเมืองนารา ที่อยู่ใกล้กับชายแดนประเทศมอริตาเนีย โดยกลุ่มคนร้ายได้ลงมือก่อเหตุขโมยเงินสด ที่ธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งมาลี (Mali Development Bank) ก่อนจะบุกเข้าไปภายในเรือนที่อยู่ห่างออกไปไม่ไกล
โฆษกกระทรวงความมั่นคงของมาลี ยืนยันว่า ไม่มีผู้เสียชีวิตภายในเรือนจำแห่งดังกล่าว แต่มีรายงานการหายตัวไปของผู้คุมรายหนึ่ง ซึ่งยังไม่ทราบชะตากรรม
ด้าน มามาดู อิสมาแอล โคนาเต รัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรมของมาลี ออกมาแถลงผลการตรวจสอบเบื้องต้นที่พบข้อมูลว่า ในความเป็นจริงแล้ว กลุ่มมือปืนมีจุดมุ่งหมายในการช่วยเหลือนักโทษในคดีก่อการร้ายจำนวน 2 คน ให้หลบหนีออกจากเรือนจำ โดยที่กลุ่มมือปืนไม่ทราบว่า ผู้ต้องขังทั้งสองรายนี้ได้ถูกโอนย้ายไปคุมขังในเรือนจำที่เมืองอื่นแล้ว
จนถึงขณะนี้ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่า กลุ่มใดอยู่เบื้องหลังเหตุโจมตีธนาคารและเรือนจำในมาลีครั้งนี้ แม้หน่วยงานด้านความมั่นคงของมาลีจะสงสัยว่า กลุ่มติดอาวุธอิสลามิสต์ อย่างเช่น กลุ่มอันซาร์ ดิเน ที่โหมการโจมตีและการก่อเหตุรุนแรงอย่างต่อเนื่องในปีนี้มากกว่า 60 ครั้ง นับตั้งแต่เดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา อาจมีส่วนเกี่ยวข้อง
ก่อนหน้านี้ เมื่อวันอาทิตย์ (6 พ.ย.) เพิ่งเกิดเหตุทหารชาวโตโกจากกองกำลังรักษาสันติภาพของสหประชาชาตินายหนึ่งเสียชีวิต และมีพลเรือนได้รับบาดเจ็บอีก 2 รายจากเหตุรถบรรทุกทหารแล่นทับกับระเบิดทางภาคกลางของมาลี
รายงานซึ่งอ้างแหล่งข่าวด้านการทหารชาวแอฟริกันรายหนึ่งที่ทำงานกับกองกำลังรักษาสันติภาพของสหประชาชาติในมาลี รวมถึงพยานที่อยู่ในเหตุการณ์เปิดเผยว่า มีทหารรักษาสันติภาพจากประเทศโตโกรายหนึ่งเสียชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนี้ซึ่งเกิดขึ้นที่เขตม็อปติ ทางภาคกลางของมาลี ขณะที่จำนวนผู้ได้รับบาดเจ็บซึ่งระบุเพียงว่า เป็นพลเรือน 2 รายที่มี “อาการสาหัส” ได้ถูกนำตัวส่งไปรับการรักษาในโรงพยาบาลท้องถิ่นแล้ว
รายงานข่าวระบุว่า เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นไม่ไกลจากตัวเมืองดูเอ็นต์ซา และว่า พลเรือนที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสทั้ง 2 ราย คือ ผู้ที่ขับรถตามหลังรถบรรทุกของยูเอ็นคันที่แล่นทับกับระเบิดนั่นเอง
ที่ผ่านมา สหประชาชาติ (ยูเอ็น) ได้ส่งกำลังทหารรักษาสันติภาพ รวมถึงกองกำลังตำรวจจำนวนมากกว่า 11,000 นาย เข้ามาประจำการในมาลี โดยมีจุดมุ่งหมายหลักคือการรักษาความสงบเรียบร้อยและขจัดภัยคุกคามของพวกนักรบอิสลามิสต์ แต่ภารกิจของยูเอ็นในมาลีนี้ ส่งผลให้มีกำลังพลเสียชีวิตไปแล้วมากกว่า 30 รายเฉพาะในช่วง 10 เดือนแรกของปี 2016 นี้
ขณะที่ฝรั่งเศสที่เป็นอดีตประเทศเมืองแม่ของมาลีในยุคอาณานิคม ได้ใช้ปฏิบัติการทางทหารเข้าแทรกแซงมาลีตั้งแต่เมื่อเดือนมกราคม ปี 2013 เพื่อช่วยกวาดล้างที่มั่นของพวกอิสลามิสต์ทางภาคเหนือของประเทศ
ความสูญเสียล่าสุดในมาลีเกิดขึ้นในวันเดียวกับที่ฮาร์จิต สัจจัน รัฐมนตรีกลาโหมของแคนาดา เปิดการหารือกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงในกรุงบามาโก ที่เป็นเมืองหลวงของมาลี เกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการส่งกำลังทหารแคนาดาจำนวน 600 ชีวิต เข้าประจำการในภารกิจรักษาสันติภาพในทวีปแอฟริกา ซึ่งรวมถึงในมาลี