เอเจนซีส์ - “ไอเอส” เผชิญศึกหลายด้าน เมื่อนักรบเคิร์ดเพชเมอร์กาเข้าโจมตีเมืองบาชิกา เพื่อปูทางให้กองทัพอิรักสามารถใช้ด้านตะวันออกเฉียงเหนืออีกทิศทางหนึ่งทะลวงสู่เมือง “โมซุล” หลังจากการบุกจากทางใต้ประสบการต้านทานดุเดือดจากพวกนักรบญิฮาดกลุ่มนี้ ขณะเดียวกัน ในดินแดนประเทศซีเรีย กองกำลังอาวุธที่มีชาวเคิร์ดซีเรียเป็นแกนสำคัญ และได้รับการหนุนหลังจากสหรัฐฯ ก็ประกาศเปิดยุทธการชิงคืน “ร็อกเกาะฮ์” เมืองหลวงในทางพฤตินัยของ “รัฐอิสลาม”
บาชิกา ซึ่งเชื่อว่าเวลานี้มีสภาพเป็นเมืองร้าง และคงเหลือนักรบไอเอสกบดานอยู่ไม่กี่สิบคนนั้น อยู่ห่างจากชายขอบเมืองโมซุล ทางตะวันออกเฉียงเหนือ 13 กิโลเมตร และห่างจากใจกลางเมืองประมาณ 20 กิโลเมตร
เมืองเล็กๆ แห่งนี้ถูกกองกำลังชาวเคิร์ดในอิรัก หรือที่เรียกกันว่า “เพชเมอร์กา” ล้อมเอาไว้หลายสัปดาห์แล้ว ก่อนเริ่มการบุกอย่างหนักหน่วงเมื่อก่อนรุ่งสางวันจันทร์ (7 พ.ย.)
เพชเมอร์กาได้ยิงปืนครกและปืนใหญ่โจมตีบาชิกาตั้งแต่วันอาทิตย์ (6) และมีการระดมโจมตีทางอากาศและโจมตีด้วยปืนใหญ่เพิ่มในช่วงเช้าวันจันทร์ เพื่อเคลียร์เส้นทางให้กำลังเพชเมอร์การุกคืบต่อไป
กองกำลังส่วนกลางของอิรัก ซึ่งที่สำคัญคือ หน่วยรบพิเศษ “เคาน์เตอร์ เทอร์เรอริซึม เซอร์วิส” ของกระทรวงมหาดไทย และกองทัพบกอิรัก ได้ร่วมกับเพชเมอร์กา เปิดยุทธการชิงคืนเมืองโมซุล มาได้ 3 สัปดาห์แล้ว ด้วยความสนับสนุนถล่มทางอากาศจากพันธมิตรที่นำโดยสหรัฐฯ กองกำลังเหล่านี้สามารถยกเข้าประชิดล้อมเมืองใหญ่อันดับ 2 ของอิรักแห่งนี้เอาไว้จากหลายๆ ด้าน และหน่วยรบพิเศษกับกองทัพอิรักได้เริ่มตีเข้าไปในพื้นที่เมืองโมซุล จากทางด้านใต้ตั้งแต่วันศุกร์ (4) ทว่า ประสบกับการต้านทานอย่างดุเดือดจากกองกำลัง “รัฐอิสลาม” (ไอเอส)
กองกำลังรบพิเศษของอิรักเผชิญทั้งคาร์บอมบ์ กับระเบิด และการต่อสู้ในระยะประชิดในถนนแคบๆ โดยไอเอสยังสามารถยึดกุมพื้นที่ทางเหนือ ใต้ และตะวันตกของเมืองนี้อย่างเหนียวแน่น
เจ้าหน้าที่ระดับสูงของเคิร์ดเปิดเผยเมื่อวันอาทิตย์ (6) ว่า นักรบญิฮาดกลุ่มนี้ยังใช้โดรนติดระเบิด กระสุนปืนใหญ่พิสัยไกลบรรจุแก๊สคลอรีน และแก๊สมัสตาร์ด รวมทั้งมือปืนซุ่มยิงที่ได้รับการฝึกมาอย่างดี
ไม่เฉพาะกองกำลังจากส่วนกลางของรัฐบาลอิรัก และเพชเมอร์กา ยังมีกองกำลังอาวุธท้องถิ่นชาวชีอะห์ ซึ่งได้รับการฝึกอบรมและหนุนหลังจากอิหร่าน เข้าร่วมการตีเมืองโมซุลคราวนี้ด้วย แต่พวกเขาได้รับมอบหมายภารกิจให้บุกในบริเวณด้านตะวันตกของโมซุล โดยหน้าที่สำคัญคือ การตัดขาดการติดต่อระหว่างโมซุล กับไอเอสในซีเรีย
ในตอนเริ่มต้นยุทธการรุกชิงคืนเมืองโมซุล รัฐบาลอิรัก ระบุว่า ถึงแม้มีกองกำลังจากหลายฝ่ายเข้าร่วมในการสู้รบภาคพื้นดิน ทว่า จะมีเฉพาะกองกำลังจากส่วนกลางอิรักเท่านั้น ซึ่งบุกเข้าพื้นที่ของเมืองโมซุล ทั้งนี้ เห็นกันว่า เพื่อป้องกันปัญหาด้านความแตกต่างทางเชื้อชาติและนิกายศาสนา เนื่องจากประชากรส่วนใหญ่ในโมซุลนั้นเป็นชาวมุสลิมนิกายสุหนี่
ทางด้าน เบร็ตต์ แมคเกิร์ค ผู้แทนพิเศษของสหรัฐฯ ในกองกำลังพันธมิตรต่อต้านไอเอส เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวในจอร์แดนเมื่อคืนวันอาทิตย์ (6) ว่า ปฏิบัติการชิงคืนโมซุลคืบหน้ามากกว่าที่กำหนดไว้ แต่ยอมรับว่า การกวาดล้างและทำลาย “รัฐอิสลาม” ที่ไอเอสสถาปนาขึ้นในซีเรียและอิรัก เมื่อปี 2014 อาจใช้เวลาราว 3 ปี
ในอีกด้านหนึ่ง เมื่อวันอาทิตย์ (6) กองกำลังซีเรียน เดโมเครติก ฟอร์ซ (เอสดีเอฟ) ซึ่งแกนหลักคือ กองกำลังชาวเคิร์ดในซีเรีย ที่มีชื่อภาษาอังกฤษว่า “เคอร์ดิช พีเพิลส์ โพรเท็กชัน ยูนิตส์” และใช้อักษรย่อตามชื่อภาษาเคิร์ด ว่า วายพีจี รวมทั้งได้รับการสนับสนุนจากอเมริกา ก็แถลงข่าวเปิด “ยุทธการยูเฟรตีสพิโรธ” ซึ่งมุ่งเข้าตีเมืองร็อกเกาะฮ์ เมืองเอกของจังหวัดในซีเรีย ที่มีฐานะเป็นเมืองหลวงทางพฤตินัยของไอเอส
จีฮาน ชัยค์ อาเหม็ด โฆษกหญิงของเอสดีเอฟ ระบุว่า สงครามใหญ่เพื่อปลดปล่อยร็อกเกาะฮ์เริ่มต้นขึ้นตั้งแต่คืนวันเสาร์ (5) โดยประกอบด้วย นักรบราว 30,000 คน และได้รับการสนับสนุนในการโจมตีทางอากาศจากอเมริกา
เอสดีเอฟรุกเข้าโจมตีจากสามด้าน ได้แก่ เอน อิสซา และ ทัล อับยาด ทางเหนือของร็อกเกาะฮ์ และจากหมู่บ้านมัคมานทางตะวันออก โดยล่าสุดสามารถยึดหมู่บ้านคืนได้แล้ว 10 แห่ง
ตอลัล เซลโล โฆษกอีกคนของเอสดีเอฟ เสริมว่า เอสดีเอฟจะยึดพื้นที่โดยรอบก่อนเข้าโจมตีเมืองร็อกเกาะฮ์ อย่างไรก็ดี คาดว่า ปฏิบัติการนี้คงไม่ง่ายดาย แต่ต้องใช้ความแม่นยำและความรอบคอบอย่างมาก เนื่องจากไอเอสจะต้องพยายามรักษาที่มั่นสุดท้ายในซีเรียจนถึงที่สุด
เซลโล บอกว่า SDF ซึ่งเป็นแนวร่วมที่ประกอบด้วย กองกำลังของชาวเคิร์ด, ชาวอาหรับ และกองกำลังชาวคริสต์ บอกว่า พวกเขาได้รับอาวุธใหม่ๆ จากพันธมิตรนานาชาติ สำหรับการสู้รบในสมรภูมิร็อกเกาะฮ์ ในจำนวนนี้ก็รวมถึงจรวดต่อสู้รถถังด้วย ขณะที่แหล่งข่าวอีกคน เผยว่า ที่ปรึกษาทางทหารของอเมริกา 50 คน มีส่วนร่วมในปฏิบัติการนี้ โดยเฉพาะการชี้เป้าสำหรับการโจมตีทางอากาศ
ไม่นานหลังจากไปเยือนอิรักเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา เพื่อตรวจสอบสถานการณ์ของการบุกโจมตีเมืองโมซุล รัฐมนตรีกลาโหม แอชตัน คาร์เตอร์ ของสหรัฐฯ แถลงว่า การบุกโจมตีร็อกเกาะฮ์ก็จะเกิดขึ้น “ภายในเวลาไม่กี่สัปดาห์”
เขากล่าวด้วยว่า แนวความคิดที่จะเปิดยุทธการโจมตีโมซุล และร็อกเกาะฮ์ ในห้วงเวลาเดียวกันนี้ “เป็นส่วนหนึ่งในการวางแผนของเรามาระยะหนึ่ง”
ทว่า ในสมรภูมิร็อกเกาะฮ์นั้น สถานการณ์มีความสลับซับซ้อนยิ่งกว่าที่โมซุลมาก
ทั้งนี้ ภายหลังจากเกิดสงครามกลางเมืองมาเป็นเวลา 5 ปี ซีเรียได้ถูกแบ่งแยกออกเป็นเขตปกครองเล็กๆ ย่อยๆ ของกลุ่มต่างๆ โดยที่ทั้งระบอบปกครองของประธานาธิบดี บาชาร์ อัล-อัสซาด, ไอเอส และกองกำลังฝ่ายกบฏต่อต้านอัสซาดหลายๆ กองกำลัง ต่างก็ยึดครองพื้นที่เล็กบ้างใหญ่บ้างเอาไว้ทั้งสิ้น
คาร์เตอร์ ระบุเจาะจงว่า SDF สามารถที่จะเป็นหุ้นส่วนทางภาคพื้นดินของพันธมิตรนานาชาติในการรุกชิงคืนร็อกเกาะฮ์ และในสัปดาห์ที่แล้ว SDF ก็ประกาศว่าตนเองจะเป็นผู้นำการบุกคราวนี้
ภายในแนวร่วม SDF กองกำลังสำคัญที่มีฐานะครอบงำกองกำลังอื่นๆ ได้แก่ กองกำลังอาวุธของชาวเคิร์ดในซีเรีย YPG ช่วงไม่กี่เดือนหลังๆ มานี้ SDF ประสบความสำเร็จในการขับไล่พวกไอเอสออกไปจากพื้นที่จำนวนหนึ่งในบริเวณตอนเหนือของซีเรีย ซึ่งก็รวมทั้งเมืองสำคัญอย่าง มานบิจ ในเดือนสิงหาคม
แต่ในขณะที่วอชิงตันเร่งส่งเสริมสนับสนุน SDF ให้เป็นพันธมิตรหลักรายหนึ่งในการสู้รบกับไอเอสในซีเรียนี้เอง ตุรกีที่เป็นพันธมิตรใกล้ชิดของสหรัฐฯ และเป็นประเทศใหญ่มีบทบาทสำคัญในตะวันออกกลาง ก็แสดงท่าทีคัดค้านต่อต้านอย่างรุนแรงต่อ YPG
อังการาถือกองกำลัง YPG เป็นกลุ่มก่อการร้าย โดยมองว่าเป็นพวกเดียวกับกองกำลังอาวุธแบ่งแยกดินแดนชาวเคิร์ดในตุรกีเอง ซึ่งมีชื่อว่า PKK และในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ตุรกีได้เปิดยุทธการของตนเองภายในภาคเหนือซีเรีย โดยพุ่งเป้าหมายเล่นงานทั้งไอเอสและ YPG
ก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่ตุรกีหลายราย รวมทั้งประธานาธิบดี เรเจป ตัยยิบ แอร์โดอัน ต่างกล่าวย้ำว่า พวกเขาจะไม่ยอมรับให้ชาวเคิร์ด YPG มีบทบาทในการปลดปล่อยร็อกเกาะฮ์
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว รัฐมนตรีกลาโหมตุรกี เพิ่งเสนอแนะว่า แทนที่จะใช้กองกำลังชาวเคิร์ด กองกำลังกบฏซีเรียที่ตุรกีหนุนหลังอยู่ สามารถที่จะเป็น “ทางเลือก” ได้
ทว่า พวกเจ้าหน้าที่เคิร์ดในซีเรียต่างปฏิเสธไม่ยอมให้ตุรกี หรือกองกำลังที่หนุนโดยตุรกีมีบทบาทใดๆ ในยุทธการตีร็อกเกาะฮ์ และเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ก็ยอมรับว่า YPG จะมีบทบาทสำคัญเมื่อเปิดการโจมตีร็อกเกาะฮ์ขึ้นมา
“ความหวังของเรา ก็คือ รัฐตุรกีจะไม่เข้ามาแทรกแซงในกิจการภายในของซีเรีย” เจ้าหน้าที่ของ SDF ผู้หนึ่งกล่าวในการแถลงข่าววันอาทิตย์ (6) “ร็อกเกาะฮ์จะเป็นอิสรเสรีด้วยฝีมือบุตรชายของตนเอง”
เซลโล โฆษกผู้หนึ่งของ SDF กล่าวในการแถลงข่าววันอาทิตย์ (6) ว่า SDF ได้ “ทำความตกลงอย่างชัดเจน” กับสหรัฐฯแล้วว่า “ตุรกี หรือกลุ่มติดอาวุธซึ่งเป็นพันธมิตรกับตุรกี จะไม่มีบทบาทใดๆ ในยุทธการบุกยึดร็อกเกาะฮ์”
ขณะที่ แมคเกิร์ค บอกว่า ประธานาธิบดี โอบามา ได้ส่ง พล.อ.โจเซฟ ดันฟอร์ด ประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐฯ เดินทางไปอังการาแล้ว เพื่อการติดต่ออย่างใกล้ชิดกับ “พันธมิตรตุรกีของเรา”