xs
xsm
sm
md
lg

ผู้นำโสมขาวน้ำตารื้น “ขออภัย” ประชาชน-โอดข่าวฉาวทำ “หัวใจสลาย” โพลชี้คะแนนนิยมดิ่งรูดเหลือแค่ 5 เปอร์เซ็นต์!

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


รอยเตอร์ - ประธานาธิบดีพัค กึน-ฮเย แห่งเกาหลีใต้ เปิดแถลงข่าวขออภัยประชาชนด้วยสีหน้าเศร้าหมองในวันนี้ (4 พ.ย.) ระบุข่าวอื้อฉาวที่รุมเร้ารัฐบาลทำให้เธอ “หัวใจสลาย” แต่พร้อมที่จะให้ความร่วมมือกับคณะอัยการที่สอบสวนคดีนี้อย่างเต็มที่

กระแสข่าวที่ พัค ปล่อยให้เพื่อนหญิงคนสนิทใช้อิทธิพลก้าวก่ายการเมืองส่งผลให้คะแนนนิยมของเธอดิ่งรูดลงมาอีก 12 จุดจากสัปดาห์ที่แล้ว เหลือแค่ 5% เท่านั้น ตามผลสำรวจแกลลัปโพลที่เผยแพร่วันนี้ (4) และนับเป็นคะแนนนิยมที่ตกต่ำที่สุดของผู้นำเกาหลีใต้ ตั้งแต่เริ่มทำโพลในปี 1988

พัค แถลงผ่านสื่อโทรทัศน์สั้นๆ โดยเรียกร้องให้คณะอัยการสอบสวนประเด็นอื้อฉาวนี้ให้กระจ่าง และนำตัวผู้ที่เกี่ยวข้องมาดำเนินคดี แม้แต่ตัวเธอเองก็ยินดีที่จะแสดงความรับผิดชอบหากกระทำผิดจริง

“เป็นเรื่องยากสำหรับดิฉันที่จะให้อภัยตัวเอง ทุกวันนี้ก็นอนแทบไม่หลับเพราะรู้สึกเสียใจ” พัค วัย 64 ปี กล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ

เจ้าหน้าที่จากสำนักงานอัยการเกาหลีใต้ปฏิเสธที่จะให้ความเห็น เมื่อรอยเตอร์สอบถามไปว่า พัค จะต้องถูกสอบปากคำด้วยหรือไม่ ซึ่งหากเป็นจริงก็จะถือเป็นประธานาธิบดีเกาหลีใต้ในตำแหน่งคนแรกที่ถูกสอบสวนคดีอาญา

หัวหน้าพรรคฝ่ายค้านหลักได้ออกมาวิจารณ์คำขอโทษของผู้นำหญิงรายนี้ว่า “ไม่จริงใจ”

“ประธานาธิบดีควรจะวางมือจากกิจการของรัฐเสีย” ชู มี-เอ ผู้นำพรรคประชาธิปไตยแห่งเกาหลีแถลง โดยไม่ถึงขั้นเรียกร้องให้ พัค ต้องลาออก

แรงกดดันจากสาธารณชนและฝ่ายค้านที่ต้องการให้ พัค สละเก้าอี้ผู้นำเกาหลีใต้เพิ่มทวีขึ้นทุกขณะ ทว่าที่ผ่านมายังไม่เคยมีประธานาธิบดีเกาหลีใต้คนใดที่ทำงานอยู่ไม่ครบวาระ 5 ปี

จอง โฮ-ซอง อดีตผู้ช่วยคนสนิทของพัค ถูกตำรวจจับกุมเมื่อวันอังคาร (1 พ.ย.) ในข้อหาเผยแพร่ข้อมูลชั้นความลับ ซึ่งถือเป็นคนใกล้ชิดประธานาธิบดีรายที่สองที่ถูกจับในสัปดาห์นี้

ชอย ซุนซิล ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของ พัค มานานหลายสิบปี ถูกกล่าวหาว่าใช้สายสัมพันธ์ผู้นำประเทศก้าวก่ายการบริหารบ้านเมือง ขณะที่ทนายของเธอเผยว่า อัยการกำลังตรวจสอบว่าเธอเคยเข้าถึงเอกสารชั้นความลับ หรือมีเอี่ยวผลประโยชน์ในมูลนิธิไม่แสวงผลกำไร 2 แห่งหรือไม่

ชอย วัย 60 ปี เป็นบุตรสาวของชอย แต-มิน ผู้นำลัทธิที่ชื่อว่า “โบสถ์แห่งชีวิตหลังความตาย” (Church of the Afterlife) ซึ่งมีความสนิทสนมกับอดีตประธานาธิบดีพัค จุง-ฮี บิดาของพัค ที่ถูกลอบสังหารในปี 1979

ชอย แต-มิน ผู้นี้อ้างว่าสามารถติดต่อกับมารดาของพัคที่ถูกลอบสังหารไปเมื่อปี 1974 และเป็นที่ปรึกษาให้แก่ พัค มานาน จนกระทั่งเขาเสียชีวิตลงในปี 1994 ทว่าความสนิทชิดเชื้อก็ได้ถูกสืบทอดต่อมาจนถึงรุ่นลูกคือ ชอย ซุน-ซิล

กระแสข่าวที่ว่า ชอยเป็นผู้ตรวจทานสุนทรพจน์ของประธานาธิบดี และยังสามารถเข้าถึงเอกสารชั้นความลับทั้งที่ไม่มีตำแหน่งในรัฐบาล ทำให้ พัค ซึ่งเป็นผู้นำหญิงคนแรกของเกาหลีใต้ถูกสังคมตำหนิอย่างรุนแรง และยังส่งผลให้คะแนนนิยมของเธอร่วงดิ่งเหวในช่วงปีสุดท้ายของการบริหารประเทศ

ชอย ถูกกล่าวหาว่าใช้เส้นสายข่มขู่บริษัทใหญ่ๆ เช่น ซัมซุง ให้บริจาคเงินจำนวนมากเข้ามูลนิธิไม่แสวงผลกำไร 2 แห่ง จากนั้นก็ยักยอกเงินออกมาใช้ประโยชน์ส่วนตัว ซึ่งเธอยังคงยืนกรานปฏิเสธ

“ช่างเป็นเรื่องน่าเศร้าและน่าเสียใจที่คนคนหนึ่งถูกกล่าวหาว่าเรียกรับผลประโยชน์ และทำสิ่งผิดกฎหมายมากมาย ทั้งที่พวกเราตั้งใจทำงานเพื่อช่วยเหลือเศรษฐกิจของชาติ และยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน” พัค กล่าว โดยอ้างไปถึง ชอย

พัค ยอมรับว่า ที่ผ่านมาให้ความไว้วางใจ ชอย อย่างมากจนไม่ได้ระมัดระวัง เนื่องจากเพื่อนคนนี้คอยอยู่เคียงข้างและให้ความช่วยเหลือกันมาโดยตลอดในยามยาก

“เป็นความจริงที่ดิฉันไม่ได้ใช้ความระมัดระวัง เพราะเธอคือคนที่อยู่ข้างๆ ดิฉัน ในช่วงเวลาที่ยากลำบากที่สุดในชีวิต” พัค กล่าว

“ดิฉันได้ตัดความสัมพันธ์ในใจไปจนหมดแล้ว และหลังจากนี้ก็จะตัดความสัมพันธ์ส่วนตัวกับเธออย่างสิ้นเชิง”

ประธานาธิบดีหญิงปิดการแถลงข่าววันนี้ (4) ด้วยการโค้งคำนับ และเดินเข้าไปหาสื่อมวลชนเพื่อขออภัยอีกครั้ง แต่ไม่เปิดโอกาสให้ตั้งคำถาม

คิม มัน-ฮึม หัวหน้าสถาบันการเมืองและความเป็นผู้นำแห่งเกาหลี (Korea Academy of Politics and Leadership) ระบุว่า “เธอคงจะได้รับความเห็นใจจากประชาชนบางส่วนที่เคยชอบเธอมาก่อน ทว่าคำพูดอย่างเดียวไม่อาจแก้ไขวิกฤตที่เกิดขึ้นได้”

ชอย ซึ่งถูกอัยการสั่งคุมขังตั้งแต่วันจันทร์ (31 ต.ค.) ให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์เซกเยอิลโบเมื่อสัปดาห์ก่อนว่า เธอเคยเป็นผู้อ่านทวนร่างสุนทรพจน์ที่ พัค กล่าวหลังชนะศึกเลือกตั้งประธานาธิบดี แต่ยืนยันว่าไม่เคยเข้าถึงเอกสารชั้นความลับอื่นๆ และไม่เคยก้าวก่ายการเมืองหรือเรียกรับผลประโยชน์ใดๆ ทั้งสิ้น

สื่อเกาหลีใต้อ้างถึง ชอย ซุน-ซิล ว่าเป็นเสมือน “รัสปูติน” ที่มีอิทธิพลอย่างสูงต่อความคิดจิตใจของประธานาธิบดีพัค เช่นเดียวกับที่พ่อของเธอเคยเป็น และว่ากันว่า พัค เคยให้คนในลัทธิของ ชอย เข้ามาทำพิธีไสยศาสตร์ภายในทำเนียบประธานาธิบดีด้วย

อย่างไรก็ตาม พัคได้ปฏิเสธเรื่องนี้อย่างสิ้นเชิง

“มีคนถึงขั้นเอาไปพูดว่าดิฉันฝักใฝ่ลัทธิ และเคยทำพิธีไสยศาสตร์ในทำเนียบสีน้ำเงิน... ดิฉันขอยืนยันตรงนี้ว่า ไม่เป็นความจริง”



กำลังโหลดความคิดเห็น