ชาแนลนิวส์เอเชีย - สื่อของสิงคโปร์รายงานในวันอังคาร (1 พ.ย.) อ้างเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลไทยตั้งคำถามเกี่ยวกับประชาธิปไตยในสหรัฐฯ จากการรณรงค์หาเสียงที่้้ก้าวร้าวและมีปัญหากว่าแต่ก่อน ขณะเดียวกันก็แสดงท่าทีสนับสนุนนายโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครจากรีพับลิกัน เนื่องจากไม่พอใจที่ทำเนียบขาวภายใต้การนำของเดโมแครตมักแแทรกแซงกิจการภายในของไทยและยังให้การสนับสนุนพวกหมิ่นสถาบันเบื้องสูงด้วย
แชนเนลนิวส์เอเชียรายงานว่า สหรัฐฯ เป็นพันธมิตรเก่าแก่ของไทยมานานหลายทศวรรษ และสถานทูตอเมริกาในกรุงเทพฯ ก็เป็นหนึ่งในสถานทูตสหรัฐฯ ที่ใหญ่ที่สุดในโลก อย่างไรก็ตาม การตัดสินใจประณามเหตุรัฐประหารไทยในปี 2014 ของวอชิงตัน ได้กัดเซาะความสัมพันธ์ระหว่างสองฝ่ายและผลักให้กรุงเทพฯ หันหน้าเข้าหาปักกิ่งมากขึ้น ซึ่งนับตั้งแต่นั้นความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับจีนก็แข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ และแน่นแฟ้นที่สุดเท่าที่เคยมีมา
สื่อของสิงคโปร์แห่งนี้ระบุว่าศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้รับความสนใจอย่างมากจากสื่อมวลชนไทย และนักสังเกตการณ์ในรัฐบาลเชื่อว่าแนวทางของการหาเสียงได้ก่อคำถามเกี่ยวกับประชาธิปไตยในสหรัฐฯ
“ผมคิดว่าการหาเสียงก้าวร้าวขึ้น มีปัญหากว่าเดิมและก่อความกังวลแก่ผู้คนจำนวนมาก” แชนเนลนิวส์เอเชียอ้างความเห็นของรองศาสตราจารย์ ดร.ปณิธาน วัฒนายากร ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงของรัฐบาลไทย “มันไม่ใช่ต้นแบบที่โลกสามารถดำเนินการตามอย่างได้อีกแล้ว ในอดีต ประเทศกำลังพัฒนาหรือประชาธิปไตยที่กำลังพัฒนา คิดว่าสหรัฐฯ ควรเป็นต้นแบบลำดับต้นๆ ที่ต้องดำเนินรอยตาม แต่มันไม่เป็นแบบนั้นอีกแล้ว ซึ่งดูได้จากมิติของการหาเสียงในครั้งนี้”
รายงานของแชนเนลนิวส์เอเชียระบุต่อไปว่า คนไทยชาตินิยมและพวกอนุรักษนิยมที่สนับสนุนรัฐบาลททหาร ได้กล่าวหาสหรัฐฯ แทรกแซงกิจการการเมืองของไทย ซึ่งบางส่วนต้องการเห็นการเปลี่ยนแปลงคณะผู้บริหารในทำเนียบขาว
“สหรัฐฯ จำเป็นต้องพูดและทำให้สอดคล้องกัน อย่างเช่นกรณีที่พวกเขาให้การสนับสนุนพวกละเมิดกฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพไทยที่อยู่ในสหรัฐฯ หรือสนับสนุนเอ็นจีโอที่มีเป้าหมายทำลายประเทศไทยและรัฐบาล หรือกรณีที่สถานทูตของพวกเขาเคลื่อนไหวติดต่อกับคนในพื้นที่ที่นี่” นายไพศาล พืชมงคล ที่ปรึกษาของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี บอกกับแชนเนลนิวส์เอเชีย
“ผมคิดว่าถ้าทรัมป์ชนะ เราคิดว่ามันจะชัดเจนกว่า ซึ่งดีกว่าในประเด็นนี้ แต่หากคลินตันชนะ สิ่งต่างๆ ก็ยังคงไม่ชัดเจน” นายไพศาลกล่าว
แชนเนลนิวส์เอเชียได้อ้างความเห็นของนายฐิตินันท์ พงษ์สุทธิรักษ์ ผู้อำนวยการสถาบันศึกษาความมั่นคงและนานาชาติ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ระบุว่า “คนไทยจำนวนมากอยากเห็นการเป็นอิสระจากสหรัฐฯ หรือสหรัฐฯ ออกไปจากภูมิภาค หยุดทำตัวเป็นตำรวจโลก”
“สหรัฐฯ ภายใต้ทรัมป์อาจทำแบบนั้น แต่มันจะนำมาซึ่งความไร้เสถียรภาพใหญ่หลวง และบางทีความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นอาจนำไปสู่การเผชิญหน้าและความขัดแย้ง” เขากล่าว “ภายใต้คลินตัน เราจะได้เห็นการสานต่อโอบามา ปักหมุดคืนสมดุลเอเชีย ภายใต้การยับยั้งชั่งใจมากขึ้น เธอจะต้องยับยั้งชั่งใจเพราะว่าเหล่าผู้สนับสนุนเบอร์นี แซนเดอร์ส ต้องการเห็นอเมริกาให้ความสำคัญกับตนเอง เช่นเดียวกับผู้สนับสนุนทรัมป์ ที่ต้องการเห็นอเมริกาหันมาดูแลตนเอง”