รอยเตอร์ - ตำรวจอินเดียจับกุมนักการทูตปากีสถานรายหนึ่งที่ทำงานในกรุงนิวเดลี ฐานดำเนินกิจกรรมสอดแนมที่เข้าถึงข้อมูลอ่อนไหวเกี่ยวกับปฏิบัติด้านความมั่นคงของอินเดียตามแนวชายแดน เจ้าหน้าที่ระบุในวันนี้ (27 ต.ค.)
การจับกุมครั้งนี้เกิดขึ้นท่ามกลางความตึงเครียดเพิ่มสูงขึ้นระหว่างคู่อริผู้ครอบครองอาวุธนิวเคลียร์เกี่ยวกับข้อพิพาทเหนือแคว้นแคชเมียร์
ตำรวจเดลีระบุว่า ชายคนนี้ถูกจับเมื่อวานนี้ (26) นอกประตูสวนสัตว์เดลีซูซึ่งเขาพบปะกับผู้สมรู้ร่วมคิดชาวอินเดีย 2 คนที่ตำรวจเชื่อว่าเขาจ้างให้สอดแนมให้เขา
ชาวอินเดียสองคนและนักการทูตรายนี้ที่ทำงานในแผนกวีซ่าของคณะข้าหลวงใหญ่ปากีสถานถูกพบพร้อมกับเอกสารปลอมรวมถึงแผนที่เกี่ยวกับการป้องกันประเทศ ตารางการประจำการ และรายชื่อของเจ้าหน้าที่ที่ทำงานตามแนวชายแดนอินเดีย-ปากีสถาน ตำรวจกล่าวในถ้อยแถลง
“มีโอกาสความเป็นไปได้สูงที่ข้อมูลที่ถูกพวกต่อต้านชาติส่งไปให้กับพีไอโอ (ผู้ปฏิบัติงานข่าวกรองปากีสถาน) กำลังถูกใช้เพื่อขัดขวางผลประโยชน์ของชาติและอาจเป็นเป็นอัตรายอย่างสูงกับความมั่นคงของชาติ” ตำรวจกล่าว และเสริมว่า พวกเขาพยายามทำลายขบวนการสอดแนมมาเป็นเวลา 6 เดือนแล้ว
คณะข้าหลวงใหญ่ปากีสถานในกรุงนิวเดลีไม่ยอมรับข้อกล่าวหาดังกล่าว
“ข้าหลวงใหญ่ย้ำว่า คณะข้าหลวงใหญ่ปากีสถานไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับกิจกรรมใดๆ ที่ไม่เหมาะสมกับสถานะทางการทูต” พวกเขาระบุในถ้อยแถลง
กระทรวงการต่างประเทศของอินเดียระบุว่า นักการทูตรายดังกล่าวซึ่งถูกปล่อยตัวในภายหลังภายใต้กฎการคุ้มกันทางการทูตถูกประกาศว่าเป็น “บุคคลไม่พึงปรารถนาจากกิจกรรมการสอดแนม” และพวกเขาได้เรียกตัวข้าหลวงใหญ่ปากีสถานมาเพื่อซักถามแล้ว
อินเดียและปากีสถานขัดแย้งกันนับตั้งแต่ที่มือปืนกลุ่มหนึ่งสังหารทหารอินเดีย 19 คนในเดือนกันยายนที่ค่ายทหารในแคชเมียร์ การโจมตีที่อินเดียกล่าวโทษกลุ่มติดอาวุธที่มีฐานในปากีสถาน
อินเดียระบุว่า พวกเขาได้ส่งหน่วยรบพิเศษเข้าสู่ปากีสถานเพื่อสังหารกลุ่มติดอาวุธในปฏิบัติการแก้แค้นที่ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างสองชาติเพื่อนบ้านแย่ลงอย่างรวดเร็ว
ปากีสถานระบุว่า ปฏิบัติการดังกล่าวไม่เคยเกิดขึ้นและกล่าวหาว่าอินเดียแต่งเรื่องดังกล่าวขึ้นเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจจากการปราบปรามการประท้วงในพื้นที่ส่วนหนึ่งของแคชเมียร์ที่พวกเขาควบคุม
ทหารอินเดียและปากีสถานเผชิญหน้ากันตามแนวชายแดนโดยพฤตินัยในแคชเมียร์ แคว้นที่ทั้งสองต่างอ้างสิทธิ์เหนือพื้นที่ทั้งหมดแต่ครอบครองกันคนละส่วน และได้ยิงปืนใหญ่ข้ามพรมแดนใส่กันหลายครั้งในสัปดาห์นี้