เอเอฟพี - กลุ่มติดอาวุธหนักอิสลามิสต์ที่สวมเสื้อกั๊กติดระเบิดฆ่าตัวตายบุกโจมตีโรงเรียนตำรวจแห่งหนึ่งในปากีสถานสังหารคนอย่างน้อย 58 คนและทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บอีกร่วมร้อย เจ้าหน้าที่ระบุในวันนี้ (25 ต.ค.) หนึ่งในการโจมตีของกลุ่มหัวรุนแรงที่นองเลือดที่สุดในปีนี้
มือปืนสามคนจากกลุ่มที่มีความเชื่อมโยงกับกลุ่มตอลิบานในปากีสถานบุกทะลวงเข้าสู่โรงเรียนขนาดใหญ่แห่งนี้และมุ่งเป้าเขตโรงนอนที่เป็นบ้านของนักเรียนตำรวจราว 700 คน ทำให้ชายหนุ่มพากันวิ่งหนีอย่างตื่นตกใจ
“ผมเห็นกลุ่มชายในชุดลายพรางที่ปิดบังใบหน้า และถือปืนคาลาชนิคอฟ” นักเรียนตำรวจรายหนึ่งบอกกับผู้สื่อข่าว “พวกเขาเปิดฉากยิงและเข้าไปยังโรงนอนแต่ผมสามารถหลบหนีข้ามกำแพงออกมาได้”
การโจมตีโรงเรียนตำรวจบาโลจิสถานซึ่งอยู่ห่างจากเมืองเอกกูเอตตาของแคว้นไปทางตะวันออกราว 20 กิโลเมตรเกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 23.10 น.ตามเวลาท้องถิ่น (01.10 น.ตามเวลาประเทศไทย) โดยมีเสียงยิงปืนดังต่อเนื่องในที่เกิดเหตุเป็นเวลาหลายชั่วโมง
ซาร์ฟารัซ บุกติ รัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทยของแคว้นบาโลจิสถานบอกกับผู้สื่อข่าวว่า มีคนร้าย 3 คน
“พวกเขามุ่งเป้าที่ยามของหอรักษาการณ์ก่อนและหลังจากการยิงต่อสู้ พวกเขาสังหารเขาและสามารถเข้าไปยังพื้นที่ของโรงเรียนได้” เขากล่าว
เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (25) แพทย์คนหนึ่งที่โรงพยาบาลรัฐในกูเอตตาบอกกับเอเอฟพีว่า จนถึงช่วงเช้าวันนี้ (25) มีผู้เสียชีวิตในการโจมตีแล้ว 58 ราย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีกเป็นจำนวนมาก
เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลอีกคนหนึ่งและเจ้าหน้าที่ความมั่นคงต่างยืนยันยอดผู้เสียชีวิต 58 ราย ทำให้การโจมตีครั้งนี้เป็นการครั้งที่มีผู้เสียชีวิตมากที่สุดในปากีสถานในปีนี้
เจ้าหน้าที่กล่าวว่า มีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 118 คน “เรายังได้รับศพของหนึ่งในผู้ก่อการร้ายด้วย” นพ.นาซีร์ สุมาลานี กล่าวเสริม
พล.ต.เชอร์ อัฟกัน หัวหน้าหน่วยกึ่งทหาร Frontier Corps ในบาโลจิสถานซึ่งนำปฏิบัติการต่อต้านการก่อการร้ายกล่าวว่า “การโจมตีดำเนินต่อไปอีกราว 3 ชั่วโมงหลังจากที่เรามาถึง”
เขากล่าวเสริมว่า การดักฟังเผยให้เห็นว่าคนร้ายกลุ่มนี้เป็นสมาชิกของกลุ่มอัล-อลิมี สาขาของกลุ่มติดอาวุธลัชการ์-อีจังวี ซึ่งมีความสัมพันธ์กับกลุ่มตอลิบานในปากีสถาน
“พวกเขากำลังติดต่อกับผู้ปฏิบัติงานหลายคนในอัฟกานิสถาน” เขากล่าว กลุ่มนี้ไม่ได้อ้างความรับผิดชอบด้วยตัวเอง
บุกตีกล่าวว่า โรงเรียนแห่งนี้เป็นบ้านของนักเรียนตำรวจราว 700 คน พวกเขาหลายร้อยคนได้รับความช่วยเหลือ
พื้นที่นี้จมลงสู่ความมืดมิดเมื่อปฏิบัติการต่อต้านการก่อการร้ายเริ่มต้นขึ้น ในขณะที่เจ้าหน้าที่ความมั่นคงยกเลิกการปิดล้อมและรถพยาบาลวิ่งเข้าวิ่งออกเพื่อนำผู้ได้รับบากเจ็บส่งโรงพยาบาล โดยมีเฮลิคอปเตอร์ทหารบินวนอยู่เหนือหัว
ในขณะที่การสู้รบดำเนินอยู่ ตำรวจและเจ้าหน้าที่หน่วยงานพลเรือนในที่เกิดเหตุบอกกับเอเอฟพีว่า พวกเขาได้ยินเสียงระเบิดดังหลายครั้ง
